Baan Manee (บ้านมณี) บ้านไม้เก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาอายุกว่าร้อยปีหลังนี้คือมรดกที่ตกทอดมามากกว่า 5 รุ่น คุณรดามณี รอดเกิด ทายาทรุ่นเหลนเล่าว่ารู้ประวัติของบ้านเพียงน้อยนิดจากการถ่ายทอดผ่านผู้ใหญ่แต่ละรุ่นมาแบบกระท่อนกระแท่นแทบไม่ปะติดปะต่อ ยิ่งนานวันก็ยิ่งลบเลือนไปตามกาลเวลา แต่บ้านไม้หลังเดิมที่แม้จะเริ่มผุพัง รวมถึงภาพเก่าคร่ำที่เคยบันทึกไว้ยังคงยืนยันได้ถึงอดีตที่เคยมีลมหายใจแห่งนี้




คุณรดามณีเล่าย้อนถึงวัยเยาว์ที่เคยอาศัยในบ้านพร้อมหน้าคุณตาคุณยายและคุณพ่อคุณแม่ของเธอ รวมถึงชี้ชวนให้เราดูป้าย “อุดมแพทย์” บนผนังที่ครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นคลินิกรักษาคนไข้ในชุมชนของคุณตา ต่อมาเมื่อบ้านเมืองขยายตัว อีกทั้งคุณตาไม่ได้เปิดคลินิกอีกแล้ว ครอบครัวของเธอจึงย้ายไปอยู่ที่อื่น นานทีปีหนจึงจะกลับมาทำความสะอาดบ้างเป็นครั้งคราว


กระทั่งวันหนึ่งคุณรดามณีมองว่าจะพัฒนาพื้นที่ตรงนี้อย่างไรเพื่อรักษาความทรงจำที่งดงามในอดีตไว้ โปรเจ็กต์บ้านมณีจึงเริ่มขึ้นในช่วงวิกฤติโควิด-19 โดยใช้เวลาถึง 4 ปีเพื่อรีโนเวตภายใต้โจทย์ที่ต้องการรักษาโครงสร้างของบ้านเดิมไว้ให้มากที่สุด รวมถึงเสริมฐานรากให้มั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น บ้านมณีโฉมใหม่จึงกลับมาสวยงามมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้จะต้องเดินเท้าเข้ามาแต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะเมื่อมาถึงบ้านมณีแล้วความเหนื่อยล้าใดๆ จะหายเป็นปลิดทิ้ง ด้วยความที่เป็นบ้านไม้เราจึงต้องถอดรองเท้าวางไว้บนชั้นก่อนเข้าไปใช้บริการ พื้นไม้ขัดมันสะอาดสะอ้านทั้งหลัง ได้อารมณ์เหมือนมาเที่ยวเล่นบ้านคุณตาคุณยายจริงๆ


ภายในบ้านมณีแบ่งเป็นโซนห้องพัก 4 ห้อง เน้นความไพรเวตที่แฝงความอบอุ่นของบ้านไม้โบราณ พร้อมมอบความสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์เครื่องใช้ทันสมัย กับโซนคาเฟ่ที่เปิดให้บริการลูกค้าทั่วไป และยังเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับผู้เข้าพักมานั่งจิบชากาแฟได้ด้วย ที่นั่งมีทั้งแบบโต๊ะกินข้าวและเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยไว้ให้นั่งเอนหลัง โดยทิ้งสเปซให้ยืดเส้นยืดสายได้ ไม่อึดอัด ที่สำคัญนั่งตรงไหนก็ชมวิวเจ้าพระยาได้สวยเหมือนกัน

บริเวณชั้นล่างมีห้องพัก 2 ห้อง ได้แก่ ห้องมรกต ห้องพักขนาดใหญ่ หรือ Duplex Riverfront Suite มาในธีมสีเขียวมรกต พร้อมด้วยเตียง 4 เสา ประดับม่านสีขาวพลิ้วไหวและที่นอนหนานุ่มสุดโรแมนติก มีชั้นลอยวางฟูกนุ่มๆ และหน้าต่างกระจกรูปจั่วให้ชมวิว หรือจะเลือกนั่งชมวิวที่ระเบียงชั้นล่างในมุมมองพาโนรามาก็ได้ เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนมาเอนจอย ห้องนี้พักได้มากถึง 4 ท่าน ถัดมาคือห้องชมพูนุท Deluxe Room with Private Balcony โทนเหลือง น้ำตาล ทอง ตกแต่งเน้นรายละเอียดสุดละเมียดละไมเช่นเดียวกัน เป็นห้องที่มีระเบียงส่วนตัวพร้อมวิวสะพานพระราม 8 เหมาะสำหรับนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือรับลมเย็นๆ ทั้งห้องมรกตและชมพูนุทมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ไว้รองรับ ใครอยากนอนแช่น้ำเล่นเพลินๆ แนะนำให้เลือก 2 ห้องนี้







ชั้นบนมีห้องพลอย Deluxe Room with River View Balcony ห้องที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวในโทนสีน้ำเงิน มีเตียงคิงไซส์และเดย์เบดริมหน้าต่างให้เปลี่ยนบรรยากาศมานอนชิลเล่น ห้องนี้มีระเบียงส่วนตัวเป็นแนวยาวให้ออกไปนั่งรับลมยามเย็น ได้ฟีลเหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศ อีกห้องคือทับทิม Family N’ Friends River View มาในธีมสีแดง นอกจากมีเตียงคิงไซส์หนานุ่มชวนเอนกายแล้ว ยังเพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้วยการยกพื้นวางเดย์เบดขนาดใหญ่ไว้ริมหน้าต่างกระจก ยกให้เป็นมุมสุดฮอตของผู้เข้าพัก




บริเวณชั้น 2 ยังมีโถงทางเดินทอดยาวสู่ระเบียงริมน้ำที่เป็นจุดชมวิวในมุมมอง 360 องศา ระหว่างทางขนาบข้างด้วยแนวหลังคาจั่วของบ้าน ดีไซน์เท่ด้วยวัสดุแปลกใหม่ เป็นอีกกิมมิกน่าถ่ายรูป สำหรับผู้เข้าพักไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะมีประตูเข้าออกไม่ปะปนกับลูกค้าที่มาใช้บริการคาเฟ่ นอกจากนี้ที่บ้านมณียังมีบริการอาหารเช้าซึ่งเป็นอาหารไทย เสิร์ฟมาในเถาปิ่นโตให้ผู้เข้าพักได้กินอิ่มนอนอุ่นตามคอนเซ็ปต์

เบื้องหลังชื่อน่ารักของห้องพักทั้ง 4 มาจากชื่อของคุณยาย 3 พี่น้อง และคุณรดามณีที่มีความหมายว่า“อัญมณี” ที่งดงาม และยังเป็นที่มาของชื่อ Baan Manee BKK แห่งนี้ด้วย

น่ารักและน่ามาพักที่สุด
ข้อมูล
- พิกัด : ซอยวัดดาวดึงษาราม แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ
- โทร : 08-2794-9498
Tag:
ที่พัก, ริมแม่น้ำเจ้าพระยา, รีวิวโรงแรม
ความคิดเห็น