ลมช่วงปลายปีพัดเย็น เรายืนอยู่ที่ความสูง 23 เมตรของหอชมป่า กวาดสายตามองพื้นที่สีเขียวชอุ่มของป่านิเวศแบบ 360 องศาบนถนนสุขาภิบาล 2 สงบและสบายใจจนลืมไปว่าเรายังอยู่ในกรุงเทพฯ
ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง เป็นโครงการที่ ปตท. นำที่ดินรกร้างบนถนนสุขาภิบาล 2 ทั้งหมด 12 ไร่ของ ปตท. มาสร้างเป็นป่าให้คนเมืองหายใจได้อย่างฉ่ำปอด โดยนำองค์ความรู้จากการปลูกป่า 1 ล้านไร่ทั่วประเทศก่อนหน้านี้มาประยุกต์กับทฤษฎีการปลูกป่านิเวศของศาสตราจารย์ ดร.อาคิระ มิยาวากิ (Miyawaki’s Method) จำลองผืนป่าในอดีตของกรุงเทพฯ ด้วยพืชพรรณไม้ดั้งเดิมกว่า 270 ชนิด ใช้กล้าไม้กว่า 60,000 ต้น โดยแบ่งพื้นที่ด้านในออกเป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่ปลูกป่า พื้นที่แหล่งน้ำ และพื้นที่อาคารเพื่อการเรียนรู้ที่ออกแบบให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่า
รู้เรื่องป่า
หลังจากทิ้งความวุ่นวายไว้นอกกำแพงแล้วเดินเท้าเข้ามาด้านใน เราจะเจอกับผนังดินบดอัด (Rammed Earth Wall) ผนังอาคารเพื่อการเรียนรู้ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของที่นี่ สร้างจากดินธรรมชาติจาก 4 จังหวัด ทำให้มีค่าสีที่ต่างกันด้วยธาตุที่อยู่ในดิน สีขาวมาจากชลบุรี สีแดงเข้มจากราชบุรี สีเหลืองจากฉะเชิงเทรา และสีส้มจากระยอง ที่สำคัญผนังดินยังเป็นฉนวนกันความร้อนอย่างดี (เมื่อเราเอามือลองทาบจะสัมผัสได้ถึงความเย็นสบาย) จนได้รางวัล LEED ระดับ Platinum ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมของสภาอาคารสีเขียว ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตลอดแนวยาวของผนังดินเราจะได้เพลินไปกับนิทรรศการเมล็ดไม้ (Seed Wall) ที่มีเมล็ดพืชรูปร่างแปลกตาจัดเรียงอย่างสวยงามในเรซินใสซึ่งล้วนแต่ปลูกในพื้นที่ป่าในกรุง พร้อม QR Code สำหรับอ่านเพิ่มเติม อาทิ กลุ่มไม้ท้องถิ่นที่ควรแก่การอนุรักษ์อย่างมะค่าแต้ รัก มะขวิด จันดง กระเบาใหญ่ และหมักม่อ กลุ่มเมล็ดไม้ผลัดใบอย่างพระเจ้าห้าพระองค์ ฉนวน ทองกวาว กระบก นนทรีบ้าน นนทรีป่า รวมถึงสมอไทย สมอพิเภก ส่วนน้องๆ รุ่นใหม่ที่อาจไม่คุ้นเคยกับกลุ่มไม้สมุนไพรก็จะได้เห็นทั้งเมล็ดเพกา ขี้เหล็ก มะรุม ฝาง หรือแม้แต่เมล็ดไผ่
ไม่ไกลกันเป็นทางเข้าห้องนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ (Exhibition Room) ที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูสีเหมือนต้นไม้ ด้านในเป็นนิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวการฟื้นฟูผืนป่า 1 ล้านไร่ของ ปตท. ที่มาของป่าในกรุง ความสัมพันธ์ของป่า ดิน น้ำ และมนุษย์ ความรู้สนุกๆ เกี่ยวกับต้นไม้ที่ปลูกมากในกรุงเทพฯ ส่วนหลังคาของอาคารก็น่าสนใจเพราะเป็นหลังคาสีเขียว (Green Roof) ที่ช่วยลดความร้อนเช่นเดียวกับผนังดิน
ไปเดินป่า
หลังจากสำรวจในอาคารจนครบก็ถึงเวลาเดินสูดอากาศในป่านิเวศ ตลอดเส้นทางเป็นทางเดินยกระดับเรียกว่า ทางเดินชมเรือนยอด (Skywalk) ยาว 200 เมตร ระหว่างทางจะมีจุดอธิบายลักษณะพรรณไม้สายพันธุ์ต่างๆ พันธุ์นกที่เคยแวะเวียนมาที่นี่ อาทิ นกขมิ้นท้ายทอยดำ นกกระจาบทอง นกปากห่าง นกอีเสือสีน้ำตาล ความสนุกของเส้นทางธรรมชาตินี้คือ ทางเดินถูกออกแบบให้ยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จากระดับพื้นดินจนถึงความสูง 10.2 เมตร (รับน้ำหนักได้ 300 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) รู้ตัวอีกทีเราก็มายืนอยู่ระดับเดียวกับความสูงของยอดต้นไม้ใหญ่พร้อมลมเย็นๆ ที่ปะทะใบหน้า เดินต่อไปไม่ไกลเราจะเจอกับหอชมป่า (Observation Tower) หอสูง 23 เมตร พร้อมบันไดวนที่อาจต้องออกแรงฮึดมากหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าวิวของผืนป่าแบบ 360 องศาด้านบนนั้นสวยคุ้มความพยายามอย่างแน่นอน
สำหรับพรรณไม้ที่เราได้เรียนรู้ตลอดเส้นทางมี 11 สังคมพืช อาทิ สังคมพืชป่าดิบลุ่ม ที่มีทั้งยางนา ตะเคียนทอง ตะแบก พระเจ้าห้าพระองค์ สังคมพืชป่าน้ำกร่อย ที่ประกอบด้วยแสม จิกทะเล แคทะเล สมอทะเล หงอนไก่ทะเล ส่วนสังคมพืชป่าเบญจพรรณมีพันธุ์ไม้อย่างตะคร้อ ทองกวาว สำโรง โมกมัน นอกจากนี้ยังมีสังคมพืชตระกูลปาล์ม สังคมพืชชายน้ำ สังคมพืชน้ำตก ฯลฯ โดยใช้วิธีการปลูกให้เหมือนป่าธรรมชาติที่มีความหลากหลายของพืชพรรณ ไม่ปลูกเป็นแถวแนว และปลูกหลายระดับ จนทำให้ที่นี่เขียวชอุ่มเหมือนเรากำลังเดินอยู่ในผืนป่าจริงๆ
เพราะพื้นที่ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจให้คนกรุงเทพฯ ได้มีป่าในเมืองพร้อมกับการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใครมีแพลนไปเยี่ยมชม อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำของพี่ๆ เจ้าหน้าที่ ไม่สร้างขยะ ไม่วิ่งปีนป่าย หรือกระโดดบนเส้นทางเดินชมเรือนยอด ไม่เดินออกนอกเส้นทาง รวมถึงไม่ทำลายต้นไม้ใบไม้
เราจะได้มีพื้นที่สีเขียวไว้พักใจนานๆ
ข้อมูล
- พิกัด : ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
- เวลาทำการ : เปิดให้เยี่ยมชมวันอังคาร-อาทิตย์ 09.00-16.00 น. ทั้งแบบส่วนตัวและเป็นหมู่คณะ โดยมีวิทยากรนำชม
- สอบถามรายละเอียดโทร : 0-2136-6380, 06-1385-4414
- Facebook : ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง โดยสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท.
Tag:
ที่เที่ยว, ป่านิเวศ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น