ผู้อ่านรู้จักเทรนด์ย้อนกลับกันไหม (Nostalgia) อย่างเช่น เสื้อแขนตุ๊กตา หรือกางเกงขาม้าที่ฮิตกันเมื่อก่อนช่วงหนึ่ง คิดว่ามันคงไม่กลับมาแล้ว แต่กลายเป็นว่ามีเด็กรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบเสื้อผ้าวินเทจ และตามไปหามาใส่กันยกใหญ่ สถานที่เที่ยวก็เหมือนกัน ในขณะที่คาเฟ่เป็นสถานที่ยอดฮิตของวัยรุ่น ในอีกด้านตลาดเช้าอย่างที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เดินกันปกติก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้คนรุ่นใหม่เอนจอยได้ไม่แพ้กัน

ตอนเด็กๆ ผู้เขียนเคยเดินตลาดแถวบ้านกับแม่กับผู้ใหญ่ ด้วยความมุ่งหมายว่าอยากไปซื้อของเล่นและกินไอศกรีมเท่านั้น ไม่ได้มีความรู้สึกอยากสำรวจวิถีชีวิตหรือเสพบรรยากาศอะไรทำนองนั้นเลย แต่เมื่อโตขึ้นเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัย การที่อาจารย์ออกโจทย์ให้ลงพื้นที่ตลาดเพื่อค้นหาปัญหาและช่วยเหลือชุมชน เป็นการเปลี่ยนความคิดผู้เขียนเล็กน้อย จากตลาดซึ่งเป็นสถานที่ขายของ กลายเป็นหมุดหมายที่ซ่อนเรื่องราวชีวิตของผู้คนและชุมชนไว้

ฉบับนี้ออกมาเดินรับวิตามินดี (Vitamin D) จากแสงแดดยามเช้ากันที่ตลาดตรอกหม้อ ตลาดในชุมชนราชบพิธพัฒนา ด้วยความที่อยู่ติดถนน รถอาจจะเยอะหน่อย แต่ยังพอเหลือช่องว่างสำหรับจอดรถอยู่บ้าง ถึงจะเป็นเวลาราวๆ 8 โมงครึ่ง แต่เราก็ได้ยินเสียงจอแจและเห็นภาพคนพลุกพล่านทั้งคนซื้อและคนขาย

ชื่อสถานที่หลายแห่งย่อมมีที่มา ตลาดตรอกหม้อก็เช่นกัน ชื่อนี้มาจากเมื่อสมัยก่อนเคยเป็นแหล่งเก็บหม้อดินเผาแบบจีน เพื่อรอส่งให้ชุมชนบ้านหม้อ แต่บางคนก็บอกว่าพวกเขาปั้นหม้อกันเองเลย

จากหน้าตลาดเราจะเห็นป้ายสีเขียวเขียนว่าชุมชนราชบพิธพัฒนา เป็นชื่อที่สำนักเขตพระนครตั้งขึ้นเพราะอยู่ใกล้วัดราชบพิธฯ แต่ก็เป็นชื่อที่มาทีหลังทำให้คนไม่ค่อยเรียกกัน

วิถีชีวิตของคนในตลาดแห่งนี้ไม่ได้แตกต่างจากตลาดอื่นๆ มากนัก มีคนเข็นของส่งตามร้าน พระรับบิณฑบาตเสียงจอแจ ผู้คนขวักไขว่ แต่สิ่งที่ทำให้โดดเด่นคือตลาดตรอกหม้อเป็นตลาดเช้าสุดฮิตในโซเชียลมีเดียมาก โดยเฉพาะใน TikTok ระหว่างยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพของในตลาด ก็มีคุณป้าเล่าด้วยน้ำเสียงดีใจว่าเพิ่งมีคนลงคลิปรีวิวตลาดให้ พร้อมยื่นโทรศัพท์ให้ดู ปรากฏว่าเป็นช่อง TikTok ของ Gourmet & Cuisine นี่เอง ดีใจแทนทีมงานมากๆ เพราะชาวบ้านดูจะชอบให้คนภายนอกเข้าไปทำความรู้จักและสัมผัสความเป็นตลาดตรอกหม้อจริงๆ คนรีวิวมักเป็นวัยรุ่นทั้งที่ปกติมักรีวิวคาเฟ่หรือตลาดกลางคืนมากกว่า คงเป็นเพราะที่นี่มีร้านเด็ดๆ ให้คนอยากมาลอง เราเดินตามทางไปเรื่อยๆ นอกจากร้านขายผัก ขายปลา (ปลาเก๋าตัวใหญ่มาก น่าจะยาวเท่าแขนเราได้) ร้านข้าวแกง และยังเจออีกร้านน่ากินมาก เช่น ร้านซาลาเปาเซี่ยงไฮ้ ร้านหมูแผ่นทอดแผ่นเบ้อเริ่มอยู่ในกระทะน้ำมันเดือดปุดๆ ร้านเต้าหู้ที่มีขายเต้าหู้ทรงเครื่องสูตรจีนแคะชื่อ “ย้องแท้วฟู้” ส่วนตัวเราไม่เคยเห็นมาก่อนแต่น่าอร่อย และร้านย้งกระเพาะปลารองเมืองเจ้าดังๆ มีรูปจากรายการทีวีติดเต็ม

ร้านเผือกทอด
ร้านนี้เราบังเอิญรู้จักจากคุณป้าแถวร้านซาลาเปาแนะนำมาว่ามีร้านขายเผือกทอดอร่อยๆ อยู่ ไม่ใช่แค่แนะนำแต่ใจดีพาเดินไปถึงร้าน เผือกทอดที่ว่าลูกชายเจ้าของร้านกำลังปั้นเป็นก้อนกลมเหมือนชีสบอล และใส่ในกระทะ เขาให้ชิมพร้อมน้ำจิ้มด้วย กำลังร้อนๆ อร่อยเลยล่ะ แวะมาซื้อกันได้ที่ท้ายตลาด

ร้านกล้วยปิ้ง
ตั้งอยู่หน้าตลาดไม่ได้มีชื่อร้านแต่ใครมาตลาดต้องเห็นแน่นอน มีขายทั้งกล้วยน้ำว้าปิ้ง กล้วยหักมุกปิ้ง กลิ่นหอมมากเมื่อเดินผ่าน ทำให้ตัดสินใจได้เลยว่าขากลับเราจะมาซื้อแน่นอน เราสั่งกล้วยปิ้งแบบแข็งๆ มาตามความชอบ (คนขายจะถามก่อนว่าเอาแบบแข็งหรือนิ่ม) สบายใจแล้ววันนี้ 

ร้านข้าวหมูแดงสนามหลวง

ระหว่างทางเดินตรงเข้าตลาด ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขา 1 จะรู้สึกเหมือนหลุดมาอีกที่หนึ่ง เพราะเงียบมาก ทั้งที่ห่างจากตลาดไม่กี่สิบเมตร เดินเข้ามาเกือบสุดซอยจะเจอร้านข้าวหมูแดงในตำนานที่ซ่อนอยู่ คนขายเป็นคุณลุงวัยกลางคน จริงๆ ขายข้าวหมูกรอบด้วยแต่ชื่อร้านข้าวหมูแดง เปิดขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อจนตอนนี้ประมาณ 50 ปีแล้ว ด้วยความอยากรู้บวกกับความหิวพอดีเลยซื้อข้าวหมูแดงหมูกรอบกลับมาด้วย อร่อยเลยทีเดียว

ใครอยากแวะมาร้านคุณลุงเปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 06.00-11.00 น.

WHALE’S THE CAKE
ขากลับออกมาเราแวะคาเฟ่เล็กๆ ที่อยู่ตรงข้ามตลาดเพราะเคยเห็นคนรีวิวไว้ แค่การตกแต่งก็ดูรู้เลยว่าเจ้าของต้องเป็นวัยรุ่น พื้นที่ภายในอาจจะเล็กๆ แต่ก็พอมีที่นั่ง (จริงๆ ข้างนอกก็มีถ้าอยากนั่งชมบรรยากาศย่านพระนคร)

เราสั่งช็อกโกแลตเย็น รสชาติโอเคตามมาตรฐาน (ของเรา) และนอกจากเครื่องดื่มพวกกาแฟ มัตฉะ คาเฟ่เขายังมีเบเกอรี่และเค้กด้วย (แน่สิเพราะอยู่ในชื่อร้าน) อาทิ Blueberry Cheesecake, Ham & Cheese Sandwich, Plain Croissant และ Chocolate Croissant แถมราคาดี แต่เราหิ้วข้าวกับขนมมาแล้ว ท้องไม่น่าบรรจุพอเลยไม่ได้ซื้อ (ถ้าได้ไปอีกจะซื้อ Blueberry Cheesecake เพราะน่ากินสุดๆ บลูเบอร์รีลูกเบิ้มมาก)

ก่อนกลับเราถามคนในร้านถึงคำถามที่สงสัยตั้งแต่เห็นว่าทำไมต้องเป็นวาฬ เขาบอกว่าทำร้านนี้กับน้องสาว แล้วน้องสาวชื่อ “ปลาวาฬ” เลยเอามาตั้งเป็นชื่อร้านฟังดูเก๋ดี (ต้องเข้าใจว่าเป็นชื่อคนนะ เพราะทางวิทยาศาสตร์ วาฬไม่ใช่ปลา)

ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 05.00-10.00 น.

เป็นตลาดเช้าที่นอกจากจะได้ของสดใหม่กลับไปทำอาหาร ยังสามารถฝากท้องจากของอร่อยหลายอย่าง ตื่นเช้าหน่อยแต่คุ้มค่า

ข้อมูล

• พิกัด : ถนนราชบพิธ แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
• เวลาทำการ : เปิดบริการ ทุกวัน 05.00-10.00 น.

Tag: travel, ตลาด, ที่เที่ยว