เชื่อกันว่าคำว่า “มินิมอลลิซึม” (Minimalism) นั้นมีต้นกำเนิดมาจากงานศิลปะ โดยมักจะใช้เรียกผลงานที่มีลายเส้นเรียบง่าย ใช้เพียงไม่กี่สี แต่จะเน้นการจัดวางเส้นและสีให้มีความสมดุลกันและดูไม่ขัดสายตา ดังนั้นพอนำคำนี้มาใช้ในแง่ของวิถีชีวิตจึงหมายถึงการใช้ชีวิตที่มีความเรียบง่าย ทว่ามีหลักการและแนวคิดซ่อนอยู่ หรือที่ใครๆ มักให้คำนิยามกันว่า “น้อยแต่มาก” นั่นเอง
มินิมอลฉบับเกาหลีก็มีหลักการเช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่โทนสีที่จะเลือกใช้โทนสีกลางๆ พาสเทล หรือโทนนู้ดไม่ฉูดฉาด เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่เลือกใช้โทนสีแบบนี้เหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างตรงที่ความมินิมอลของญี่ปุ่นเกิดจากการจัดการกับพื้นที่แคบให้ดูโล่งขึ้นและมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น แต่ของเกาหลีจะเน้นการตกแต่งที่ให้คุณค่าทางจิตใจ โทนสีที่ออกมาจึงมีความแตกต่างอยู่นิดหน่อย เพราะของเกาหลีจะเน้นสีโทนสว่างกว่า (จนแทบเป็นแสงสีขาว) เพื่อสร้างความสดใสและให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นที่นั้นๆ
ส่วนการตกแต่งนั้นมินิมอลแบบเกาหลีจะเพิ่มสิ่งต่างๆ ลงไปในที่ว่างที่เหลือเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไม้ ใบไม้เขียว หนัง และวัสดุอื่นๆ แต่จะแตกต่างจากมินิมอลฉบับตะวันตกด้วยการเพิ่มความมีชีวิตด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องตรงมาจากผ้าม่าน ต้นไม้หรือไม้กระถางที่เพิ่มความสดชื่น ไปจนถึงข้าวของสไตล์วินเทจที่จะช่วยให้การตกแต่งดูสนุกยิ่งขึ้น ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างแก้วกาแฟ หนังสือ งานศิลปะที่ชอบ กรอบรูปที่มีรูปก็ช่วยให้บรรยากาศมีชีวิตชีวามากขึ้น
อย่างที่บอกจุดเด่นของมินิมอลในสไตล์เกาหลีอีกอย่างก็คือการที่ไม่ได้ต่อต้านวัตถุนิยมแม้แต่น้อย กล่าวคือไม่จำเป็นต้องใช้ของเก่า หรือต้องดัดแปลงข้าวของนำกลับมาใช้ใหม่ ไปจนถึงการห้ามซื้อของ แต่มินิมอลในสไตล์เกาหลียังหมายถึงการจัดการข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดูดีอีกด้วย จนสามารถถ่ายรูปอวดความสวยผ่านโซเชียลมีเดียได้ หรือจะพูดให้เห็นภาพก็คือสิ่งนี้คือการแสดงความเป็นตัวตนและสไตล์ของเราอีกด้วย ดังนั้นจะเป็นอะไรไปถ้าจะมีของที่เราชอบหรือแบรนด์ที่เราโปรดซุกซ่อนอยู่ในนั้น
ด้วยเหตุนี้เองมินิมอลสไตล์เกาหลีจึงได้รับความนิยมอย่างมาก ในเกาหลีเองก็พบว่ามีผู้คนมากมายที่สนใจหันมาเล่นอินสตาแกรม (Instagram) โซเชียลมีเดียที่มีลูกเล่นให้เราเล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพกันมากขึ้นกว่าหลายพันบัญชี (สถิติมกราคม 2563) ทั้งนี้ก็เพื่อมาดูรูปภาพหาแรงบันดาลใจ หรือบางคนก็บอกว่ารู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นบรรยากาศอันเรียบง่ายที่เต็มไปด้วยความเข้ากันของแสงสีและความอบอุ่นเหมือนเราอยู่ในบ้านน่ารักๆ อย่างไรอย่างนั้น
Minimalism Game : เกมสไตล์มินิมอล
นอกเหนือจากการบอกลาข้าวของแบบปกติแล้ว ชาวเกาหลีเป็นผู้สันทัดทางด้านเทคโนโลยี พวกเขาเลยคิด “เกมมินิมอล” ที่ฮอตฮิตในหมู่แม่บ้านและพนักงานออฟฟิศ โดยกติกาของเกมนี้คือ “การแข่งกันทิ้งของ” โดยให้ทิ้ง 1 ชิ้นในวันแรก ทิ้ง 2 ชิ้นในวันที่สอง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบเดือนก็จะได้รวม 465 ชิ้น และถ้าใครทำได้ก็จะเป็นผู้ชนะ ซึ่งคนที่เล่นเกมนี้จะโพสต์ผ่านอินสตาแกรมแฮชแท็ก #minimalism และ #minimallife
เช่นเดียวกับเว็บไซต์เนเวอร์ (Naver) ก็มีห้องรวมกลุ่มที่ชื่อ “มินิมอลไลฟ์” (Minimal Life) ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 71,000 คน โดยกลุ่มนี้จะคอยช่วยเหลือผู้เล่นเกมมินิมอลด้วยการรับของไปทิ้งให้ด้วย หรือสิ่งของไหนสภาพดีก็จะนำไปบริจาคให้กับบ้านผู้สูงอายุที่อยู่ใกล้เคียงหรือศูนย์เด็กในพื้นที่อีกด้วย ทำให้ผู้เล่นรู้สึกกล้าทิ้งและสบายใจไปด้วยพร้อมกัน
แหล่งข้อมูล
อ่าน >> รู้จักวิถีมินิมอลสไตล์เกาหลี (ตอนจบ)
Tag:
, Cover story,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น