ใครบอกว่าดื่มชาเขียวได้แค่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ในเมื่อเรารู้ว่าชาเขียวมีประโยชน์มากมายแล้วทำไมไม่ทำให้ทุกวันเป็นวันที่เราจะดื่มชาเขียวอร่อยๆ ได้ที่บ้านล่ะ คิดได้แบบนี้ก็ต้องเริ่มจากหาใบชาเขียวดีๆ เสียก่อน ใครที่กำลังมองหาใบชาเขียวของแท้จากญี่ปุ่นในราคาน่ารัก G&C ขอชี้เป้ามาที่ร้าน Tea Season ร้านจำหน่ายชาเขียวนำเข้าจากญี่ปุ่นของ คุณพลอยดาว ธีระเวช สาวร่างเล็กผู้หลงใหลในเครื่องดื่มสีเขียวนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
★ จุดเริ่มต้นของร้าน Tea Season ★
เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ คุณพลอยดาวเป็นช่างภาพวิดีโอมืออาชีพที่เชี่ยวชาญการถ่ายอาหาร และงานด้านโปรดักชั่นก็ทำให้เธอต้องเดินทางไปญี่ปุ่นบ่อยจนเริ่มคุ้นเคยและหลงใหลในวัฒนธรรมอาหารที่นั่นทีละน้อย กระทั่งครั้งหนึ่งเธอมีโอกาสพักผ่อนจากงานแล้วเลือกให้เพื่อนพาไปชมไร่ชาเขียวสุดลูกหูลูกตาในจังหวัดชิสึโอกะ ที่นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอตกหลุมรักชาเขียว ผนวกกับความเป็นคนเล่าเรื่องทำให้เธออยากบอกต่อความประทับใจนั้น แต่อะไรจะบอกเล่าได้ดีไปกว่าการให้ผู้ฟังได้ลิ้มรสชาตินั้นด้วยตัวเอง
คุณพลอยดาว ธีระเวช เจ้าของร้าน Tea Season
“ที่จริงเราเคยมาทำงานที่นี่แล้ว แต่พอได้เห็นอีกครั้งในมุมของคนท้องถิ่นก็พบว่ามีเรื่องราวอีกเยอะมาก เกิดเป็นความประทับใจ และเป็นจุดที่ทำให้เริ่มคิดว่าน่าจะลองขายชาดู เพราะเราเป็นคนชอบเอาอาหารให้คนอื่นกิน แล้วถามว่าอร่อยไหม แล้วก็จะเล่าให้ฟังว่าไปเอามาจากตรงนั้นตรงนี้นะ พอมาเจอชาเลยเอาความชอบตรงนี้มาที่ชา เราอยากเล่าให้คนฟังว่าเราไปเจออะไรมา ชานี้ผลิตขึ้นมายังไง อย่างลาเบลหน้าซองก็ออกแบบมาให้เราต้องเขียนเองทุกซอง ถ้าเป็นลูกค้าที่ไม่เคยกินชาเขียวก็จะเล่าแบบหนึ่ง ถ้าเจอคนที่เป็นเซียนมากก็จะเขียนอีกแบบหนึ่ง แล้วแต่ประสบการณ์ของลูกค้าแต่ละคน”
คุณพลอยดาวขณะทำงานโปรดักชั่นที่ประเทศญี่ปุ่น ภาพโดย Tea Season
คุณพลอยดาวมองว่าชาเขียวเล่าเรื่องได้หลากหลาย ทั้งวิถีชีวิตของคน อาหารการกิน หรือวิธีคิดของคนญี่ปุ่น นั่นทำให้เธอหลงใหลวัฒนธรรมที่อยู่ในชาเขียว “แต่ก่อนเราไม่ได้ไปญี่ปุ่นบ่อยก็จะเห็นชาเขียวตามร้านอาหาร แต่พอไปถึงจริงๆ คนญี่ปุ่นที่เราเจอไม่ค่อยกินน้ำเปล่าเลยนะ เขากินชากันซะเยอะ ในบ้านก็กินชา กินเช้า กลางวัน เย็น”
“อย่างตอนไปชิสึโอกะมีที่ชอบอยู่อย่างหนึ่ง คือเวลาขับรถในญี่ปุ่นเราจะเจอป้ายบอกว่าข้างหน้ามีปั๊มนะ ปกติก็จะเป็นรูปปั๊มกับรูปถ้วยกาแฟ แต่ที่ชิสึโอกะจะเป็นป้ายรูปถ้วยชาบอกว่าข้างหน้ามีร้านชานะ และฝุ่นที่ติดบนรถก็เป็นสีเขียวจากชาหมดเลย เราก็รู้สึกว่ามันสนุก อยากให้คนได้มาสัมผัสประสบการณ์แบบที่เราเจอมาผ่านอาหาร ไม่ต้องมาเองก็ได้เพราะเราจะเอาชามาให้กิน แล้วจะได้เล่าให้ฟังว่าชานี้มาจากไหน ปลูกยังไง”
ไร่ชา ภาพโดย Tea Season
★ “ชินฉะ” ใบชายอดอ่อนจากฤดูกาลเก็บเกี่ยวครั้งแรก ★
เมื่อบอกให้แนะนำชา สาวร่างเล็กนำเสนอชาตัวใหม่ให้เราลิ้มรสทันที นั่นคือ ชินฉะ (Shincha) หรือใบชายอดอ่อนที่สุดจากการเก็บเกี่ยวในครั้งแรกของฤดูในช่วงเดือนพฤษภาคม แม้ในญี่ปุ่นยังนับว่าหายากเพราะออกมาแค่ปีละครั้งเท่านั้น “รสชาติของชินฉะเป็นรสที่ซอฟต์ลงมา เป็นส่วนผสมระหว่างเกียวคุโระกับเซนฉะ ได้รสอูมามิเบาๆ และหวานสดชื่นอ่อนๆ ไม่ได้แรงไปทางใดทางหนึ่ง เป็นรสที่ดื่มง่าย แล้วใบก็สดมากๆ” เธออธิบายได้น่าอร่อยจนเราอยากเติมอีกแก้ว
ที่ Tea Season จำหน่ายชินฉะ จากเมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต โดยบรรจุห่อเล็กขนาด 30 กรัม (450 บาท) เพราะแม้เทคโนโลยีจะช่วยให้เก็บรักษาได้นานขึ้นแต่เธอก็เชื่อว่าระยะเวลาที่ดื่มอร่อยก็ควรสดใหม่ที่สุด “สังเกตว่าในญี่ปุ่นจะขายชาเป็นแพ็คเล็กๆ เราก็ทำแบบนั้นคือไม่ขายห่อใหญ่ ถ้าคนอยากซื้อเยอะๆ แนะนำให้ซื้อห่อเล็กๆ หลายห่อ เปิดแค่พอกินจะได้รักษาความสดใหม่ได้”
ชินฉะ ใบชาเขียวพิเศษของซีซั่นนี้
★ ชาเขียวหลากหลายชนิดที่ Tea Season ★
นอกจากชินฉะ ยังมีชาเขียวอีกหลายชนิดที่เจ้าของร้านอยากแนะนำให้ลองชิมกัน “ตอนนี้ที่ร้านมีชาประมาณ 5-6 ชนิด จะมี เกียวคุโระ คาบุเซฉะ เซนฉะ โฮจิฉะ เกนไมฉะ แล้วก็มัตฉะ คนดื่มชาญี่ปุ่นมักคุ้นกับเกียวคุโระกับเซนฉะอยู่แล้ว ตัวที่เราอยากแนะนำเลยเป็น โฮจิฉะ (30 กรัม 300 บาท) ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นแบบที่เป็นผงหรือเป็นลาเต้ใส่นม แต่ถ้าอยากลองกินโฮจิฉะที่ชงจากใบสดๆ ตัวนี้แนะนำเลยว่าให้รสชาติสดชื่นแล้วก็ดื่มง่าย และยังมีคาเฟอีนน้อยเพราะเป็นชาที่ผ่านความร้อนจนคาเฟอีนหายไปเยอะแล้ว
ชาโฮจิฉะ ใบชาผ่านการคั่วมาแล้ว สีจึงออกเข้มกว่า
“อีกตัวที่อยากแนะนำคือ คาบุเซฉะ (60 กรัม 600 บาท) ตัวนี้ชอบโดยส่วนตัว เป็นชาที่ผ่านความร้อนมาประมาณหนึ่งจนเริ่มแห้งกว่าเซนฉะ แล้วก็เป็น “ยากิ” คาบุเซฉะ คือเป็นคาบุเซฉะที่เอาไปคั่วจนความชื้นระเหยออกไปแล้ว นำมาผสมกับมัตฉะ ได้ชารสชาติสดชื่น เข้มข้น สีสวย และดื่มง่ายแม้แต่กับคนที่ไม่ชินกับการดื่มชาเขียว เป็นตัวที่ขายดีมาก”
ใครที่กังวลเรื่องราคา คุณพลอยดาวอยากให้มาลองคุยลองชิมกันดูก่อน เพราะชาของ Tea Season คัดสรรมาด้วยความตั้งใจอยากให้คนดื่มได้ลิ้มลองชาหลายๆ แบบ “ชาเขียวของเราไม่ได้สรรหาชาที่ดีที่สุดหรือแพงที่สุด แต่เป็นชาที่เราอยากแนะนำต่อ เป็นชาที่เราได้ไปเจอมาจริงๆ ได้รู้จักว่าใครผลิต ได้เห็นว่าปลูกที่ไหน และอร่อยที่สุดสำหรับเรา”
ตอนนี้ทางร้านยังมีสินค้าใหม่คือ กระปุกชา (150 บาท) ซึ่งเป็นกระปุกที่คุณพลอยดาวบินไปถามหาแหล่งผลิตถึงที่ชิสึโอกะเพราะชอบในสัมผัสนุ่มนวลของวัสดุและความเนี๊ยบของชิ้นงาน แม้จะมีต้นทุนสูงก็ยอมเพราะอยากให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์ที่สุด “เราไม่อยากขายแพงเพราะอยากให้คนซื้อไปใช้กัน” เธอว่าพลางให้เราลองลูบผิวกระปุกดู เรียบลื่นละมุนปลายนิ้วจริงๆ!
กระปุกชา ผิวสัมผัสลื่นละมุน
★ ชาเขียวก็โคลบริวได้! ★
ชาของ Tea Season มีจุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างคือหลายตัวสามารถนำมาชงแบบ “โคลบริว” หรือสกัดเย็นได้ด้วย “เราเข้าใจว่าคนไทยชอบดื่มอะไรเย็นๆ แล้วบ้านเราก็อากาศร้อน เลยพยายามจะเลือกชาที่ทำโคลบริวแล้วอร่อย อย่างโฮจิฉะ เซนฉะ เกียวคุโระ คาบุเซฉะ ก็จะเลือกเป็นพันธุ์และรสชาติที่เราคิดแล้วว่าเอามาโคลบริวแล้วคนไทยน่าจะชอบ เพราะเราอยากให้ชาเขียวเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน โคลบริวเป็นวิธีชงชาที่ทำได้ง่ายมากๆ แค่ใส่น้ำเย็น น้ำแข็ง แช่ตู้เย็น ปรับรสชาติความเข้มข้นแบบที่เราชอบแค่นี้ก็ได้แล้ว”
ชาเขียวโคลด์บริว หอมเย็นชื่นใจ
คุณพลอยดาวกำชับว่าถึงทางร้านจะแนะนำวิธีชงให้ได้แต่ก็ไม่อยากให้ลูกค้ากังวลกับขั้นตอนมากไป อยากให้ลองค้นหาวิธีชงชาที่ชอบด้วยตัวเอง เพราะเธอเชื่อว่าชาที่อร่อยไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด ขอให้เราดื่มแล้วสบายใจที่สุดก็พอ เพราะ Tea Season อยากให้ทุกเวลาเป็นเวลาที่เราดื่มชาได้นั่นเอง
สำหรับช่องทางจำหน่ายชาของ Tea Season สามารถทักไปได้ทั้งทาง Face Book : Tea Season และ Instagram : tea_season ซึ่งจะเป็นช่องทางอัปเดตสินค้าใหม่ๆ ของทางร้าน รวมทั้งคลิปแนะนำวิธีในการชงชาแบบต่างๆ ให้ดูด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเธอถ่ายทำเองกับมือ ไปติดตามกันนะ
Tag:
, ชาเขียว,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น