หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาชายหนุ่มหน้าคมเข้มที่มักปรากฏตัวในรายการ MasterChef Thailand หรือเชฟกระทะเหล็กประเทศไทยบ่อยครั้งในฐานะกรรมการตัดสินผู้เข้าแข่งขันที่เชี่ยวชาญด้านรสชาติอาหารและเข้าถึงแก่นแท้ของวัตถุดิบหลากชนิด

นอกจากเป็นกรรมการตัดสินรายการแข่งขันทำอาหารชื่อดัง เบื้องหลังของ “สิธ เซกาล” นักธุรกิจเชื้อสายอินเดียที่เกิดและเติบโตในประเทศไทยคนนี้ยังมีภารกิจมากมายที่ล้วนอยู่ในเส้นทางสายอาหาร ได้แก่ เจ้าของและกรรมการบริหาร บริษัท โกลบอล กูรเม่ ซิสเต็มส์ จำกัด, เจ้าของร้านอาหาร Indus, Indus Kiosk ณ สำนักงาน UNESCAP, Indus Catering,  Indus Food Services และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร  บริษัท เดอะ เฟรช ฟู้ด จำกัด และเจ้าของร้าน Getfresh ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเพื่อสุขภาพในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมี 9 สาขา และ Cloud Kitchen อีกถึง 4 สาขา

ถ้าพูดถึงอาหารอินเดียเราบอกได้เต็มปากว่าหลงรักอาหารอินเดียของร้านอินดัสเข้าอย่างจังตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้กิน และถือเป็นร้านที่เปลี่ยนมุมมองเรื่องรสชาติที่ยังคงเข้มข้นเปี่ยมด้วยกลิ่นอายแบบภารตะ ขณะที่กลิ่นเครื่องเทศไม่ฉุนแรงเหลือเพียงกลิ่นหอมกระตุ้นความหิว ทำให้รู้สึกอยากกินต่อเรื่อยๆ อีกทั้งการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นยังให้ความรู้สึกเฟรนด์ลีเข้าถึงง่าย

คุณสิธเล่าถึงจุดเริ่มต้นของอินดัสก่อนติดอันดับร้านต้องกินในวันนี้ “ผมได้แรงบันดาลใจจากร้านอาหารในนิวยอร์กเมื่อครั้งไปเรียนต่อ ประสบการณ์จากการทำงานในร้านอาหารทำให้ผมรู้สึกทึ่งกับวิธีการทำงานของพวกเขา นิวยอร์กยังเป็นสวรรค์ของนักกินเพราะมีความหลากหลายของอาหาร และร้านอาหารอินเดียก็มีหลายแบบที่เหมาะกับทุกคน ตั้งแต่ร้านบุฟเฟต์ ร้านระดับกลาง ร้านอาหารชั้นเลิศ และร้านอาหารแบบฟิวชัน เมื่อเรียนจบกลับมาผมพบว่ากรุงเทพฯ มีร้านอาหารอินเดียแบบไฟน์ไดนิงไม่กี่แห่ง และการนำเสนอยังทำให้เข้าใจว่าเป็นอาหารเลี่ยน หนักท้อง เหม็น และไม่อร่อย

“ผมเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะเปิดร้านอาหารอินเดียชั้นเลิศ เน้นวัตถุดิบคุณภาพสูงในบรรยากาศสแตนด์อะโลน ผ่อนคลายเข้าถึงง่าย จึงเริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับอาหารอินเดียอย่างจริงจัง โดยเดินทางไปอินเดีย ดูไบ และลอนดอน ได้ลองกินอาหารอินเดียในร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น ได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารอินเดียและเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย รวมถึงทดสอบสูตรอาหารแบบดั้งเดิมด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุด ปรับสูตรให้น้ำหนักเบาลง แต่ยังคงรสชาติที่เข้มข้นและสร้างเอกลักษณ์เฉพาะของอินดัส

“ผมให้ความสำคัญกับส่วนผสม อย่างเครื่องเทศจะนำเข้าจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุด ซึ่งหลายชนิดนั้นหายากมาก อาหารได้แรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำอินดัสซึ่งไหลผ่านตอนเหนือของอินเดีย แต่ก็มีอาหารจากภาคอื่นมาเสริมบ้าง อาทิ Kati Rolls สไตล์กัลกัตตา, Biryani Chicken จากลัคเนา เป็นต้น ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านเป็นผู้ที่ชื่นชอบอาหารอินเดียอยู่แล้ว แต่เราก็มีลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์แห่งรสชาติเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ผมคิดว่าคนที่ไม่เคยกินอาหารอินเดียแล้วได้กินอาหารของเราจะต้องรู้สึกประหลาดใจและคิดว่าตัวเองนั้นลองช้าไป”

อาหารอินเดียเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของรสชาติที่เหล่านักกินตัวจริงแสวงหาในยุคที่วัฒนธรรมอาหารจากหลายสัญชาติหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย คุณสิธพูดถึงกระแสดังกล่าวว่า “ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเมืองไทยมีร้านอาหารอินเดียเปิดใหม่จำนวนมาก อาจเป็นเพราะการเดินทางที่สะดวกสบาย คนไทยไปเที่ยวต่างประเทศจำนวนมาก อาหารอินเดียก็เหมือนอาหารชาติอื่นที่เติบโตและขยายไปหลายประเทศ คนเริ่มคุ้นเคยกับรสชาติและเข้าใจอาหารอินเดียมากขึ้น ในส่วนของร้านอินดัสเราเปิดมานานกว่า 15 ปี ทุกปีเราไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาสูตรและบริการให้ดียิ่งขึ้น เราจึงมีลูกค้าประจำและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ทำให้เชื่อได้ว่ารสชาติของอาหารอินเดียได้เข้าไปอยู่ในหัวใจของนักกินทั้งหลายแล้ว”

ความสำเร็จของอินดัสการันตีด้วยรางวัลมากมาย คุณสิธพูดถึงหัวใจของความสำเร็จว่า “เราต้องมีความรักและความทุ่มเท มีเป้าหมายแน่ชัด มีความเพียรและมั่นคง ไม่มีวันไหนที่เราจะไม่พยายามทำให้ดีขึ้นกว่าวันก่อน ทั้งเรียนรู้ ปรับปรุง ทดลอง แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสอบถามความคิดเห็นจากลูกค้า ความมุ่งมั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลมากมายจากสำนักพิมพ์และองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทย รวมถึง Top Tables ของ BK Magazine ร้านอาหารที่ดีที่สุดของ Thailand Tatler, รางวัลจากการเลือกของผู้ใช้ Wongnai, TripAdvisor Hall of Fame และ Bangkok Best Dining Awards และหนึ่งในรางวัลที่น่าตื่นเต้นคือรางวัลจากมิชลินเมื่อเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย อินดัสเป็นร้านอาหารอินเดียเพียงแห่งเดียวในเล่ม ทุกคนปลาบปลื้ม รู้สึกคุ้มค่ากับความทุ่มเทและการทำงานหนักของทุกคน”

สำหรับเป้าหมายในอนาคตคุณสิธตอบเพียงว่า “ทำทุกสิ่งให้ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าประจำของเรากลับมา  ขณะเดียวกันก็สร้างความประหลาดใจให้แก่ลูกค้าที่มากินครั้งแรก” พร้อมทิ้งท้ายข้อคิดเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น “ให้ค้นหาวิธีรับใช้สังคม ทุกเช้าที่มองกระจกให้ถามตัวเองว่าเราทำเต็มศักยภาพที่มีแล้วหรือยัง วิธีรับใช้สังคมของผมคือการเลี้ยงอาหารอร่อย ๆ ให้แก่ผู้คน และทุกเช้าที่ผมตั้งคำถามกับตัวเอง จนถึงตอนนี้คำตอบของผมคือใช่” ช่วงเวลาสั้นๆ ของการสนทนาหลายประโยคกระตุกต่อมคิด...

พรุ่งนี้เราจะตั้งคำถามกับตัวเองบ้างแล้วนะ!

Tag: , Food in Biz, อาหารอินเดีย,