ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้คงต้องบอกว่าเกาหลีเป็นประเทศยืนหนึ่งนำเทรนด์เรื่องอาหารกันไปเสียแล้ว โดยเฉพาะเมนู “กาแฟทัลโกนา” (Dalgona Coffee) ที่พาคนทั่วโลกลุกขึ้นมาตีกาแฟสำเร็จรูปพร้อมกับน้ำตาลและน้ำจนเกิดฟองโฟม ซึ่งกระแสของเมนูนี้แท้จริงแล้วมาจากคลิปการกินอาหาร รีวิวอาหาร และสูตรอาหารที่นิยมอยู่ในเกาหลีมานมนาน ฉบับนี้เราเลยมาทำความรู้จักเทรนด์การกินที่ว่านี้กันสักหน่อย
★ ม็อกบัง (Mukbang) : เพื่อนกันเวลาหิว ★
หากจะแปลให้ตรงตัวคงต้องบอกว่า “ม็อกบัง” (Mukbang - 먹방) หมายถึง “กินถ่ายทอดสด” (Eating Broadcast) โดยคำนี้เป็นภาษาเกาหลีที่เกิดจากคำว่า “ม็อกนึน” (Meongneun - 먹는) ที่แปลว่า “กำลังกิน” รวมกับคำว่า “บังซง” (Bangsong - 방송) ที่แปลว่า “ถ่ายทอดสด”
ต้นกำเนิดของม็อกบังนั้นเริ่มต้นจากรายการโชว์กินอาหารในอาฟรีคาทีวี (AfreecaTV) ผู้ให้บริการสตรีมมิงวิดีโอแบบเรียลไทม์สัญชาติเกาหลีในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งรูปแบบรายการมีตั้งแต่นั่งกินอาหารให้ดูเฉยๆ หรือจะเป็นการปรุงอาหารให้ดูก่อนแล้วค่อยมานั่งกิน [บางครั้งเรียกว่าคุกบัง (Cookbang)] ก่อนที่รายการแนวนี้จะได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีอย่างล้นหลาม ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอย่างยูทูบ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม สำหรับม็อกบังที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดีคงไม่พ้น “ยาง ซูบิน” (Yang Soobin) ที่ความโด่งดังทำให้เธอบินมารับงานที่บ้านเรามาแล้ว
จากนั้นความนิยมของม็อกบังก็ค่อยๆ เผยแพร่ไปยังฝั่งอเมริกา ก่อนจะมาเริ่มบูมในปี ค.ศ. 2015 เมื่อมีม็อกบังสัญชาติอเมริกาถือกำเนิดขึ้น ซึ่งนั่นนับเป็นเครื่องยืนยันว่าคลิปกินอาหารในรูปแบบนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างแท้จริง แถมยังมีการเพิ่มภารกิจหรือธีมให้คลิปดูน่าตื่นเต้นและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารเต็มโต๊ะให้หมด กินอาหารตามสี กินอาหารไม่มีประโยชน์ ให้เราได้ลุ้นตาม ที่สำคัญนี่ยังเป็นช่องทางที่เจ้าของคลิปสามารถทำรายได้อย่างมหาศาลจากค่าโฆษณานั่นเอง
★ Autonomous Sensory Meridian Response (ASMR) : ใช้เสียงบำบัด ★
เมื่อพูดถึงม็อกบังเทรนด์ต่อมาที่ตามมาติดๆ ก็ต้องเป็น “ASMR” หรือที่เขียนแบบร่ายยาวว่า “Autonomous Sensory Meridian Response” หรือแปลแบบตรงตัวได้ว่า “การตอบสนองต่อประสาทรับความรู้สึกอัตโนมัติ” ซึ่งจะหมายถึงเสียงธรรมดาๆ ที่เราได้ยินในชีวิตประจำวัน เช่น เสียงบนท้องถนน เสียงฝนตก เสียงเคี้ยวอาหาร ไปจนถึงเสียงกระซิบ แต่ทั้งหมดถูกนำเสนอในเวอร์ชันสามมิติ โดยการนำไมค์ไปจ่อใกล้ๆ เพื่ออัดลงคลิป และเพื่อการรับฟังอย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องใช้หูฟัง
แม้ ASMR จะเริ่มเป็นที่รู้จักกันทางฝั่งตะวันตกอย่างอังกฤษ ฟินแลนด์ และอเมริกาก่อน แต่ทว่าม็อกบังชาวเกาหลีได้นำเทคนิคนี้มาใช้ในการกินและปรุงอาหารของพวกเขาด้วยเพื่อให้เสียงมีความสมจริงยิ่งขึ้น ว่ากันว่าประโยชน์ของ ASMR คือช่วยให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลายและมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น โดยบางคนบอกว่าเสียงเหล่านั้นจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างแน่ชัดว่า ASMR จะได้ผลกับทุกคน เพราะบางคนก็รู้สึกว่าเสียงที่ชัดเกินไปดูน่าขนลุกหรือน่ารำคาญเสียมากกว่า
แต่ถึงกระนั้นส่วนผสมระหว่าง ASMR กับอาหารก็เป็นอะไรที่ลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนเรียกได้ว่าแค่ได้ยินเสียงก็น้ำลายสอแล้ว ซึ่งนั่นก็การันตีด้วยจำนวนคลิปประเภทนี้ในยูทูบระหว่างปี ค.ศ. 2017-2019 ที่มีมากกว่า 100,000 คลิป
★ Why are so Popular? : ทำไมถึงโด่งดัง ★
เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าทำไมคลิปนั่งกินอาหารหรือคลิปเสียงต่างๆ ถึงโด่งดังนัก โดยเฉพาะคนไทยเราที่มักถูกสอนเสมอว่าอย่าเคี้ยวอาหารเสียงดัง แล้วทำไมภาพและเสียงดังกล่าวถึงกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ถูกอกถูกใจคนทั่วโลกไปเสียได้
สำหรับชาวเกาหลีที่ชื่นชอบคลิปประเภทนี้เป็นเพราะมารยาทในการรับประทานอาหารที่ค่อนข้างเคร่งครัดระหว่างผู้ใหญ่ ผู้น้อย ผู้หญิง และผู้ชาย แต่เมื่อมีการถ่ายทอดสดและคนดูก็กินอาหารไปพร้อมๆ กับการชมโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะต้องดูแลใคร หรือต้องเทเหล้าให้ใครก่อน หรือจะต้องจับแก้วด้วย 2 มือ ซึ่งนั่นนับเป็นการลดช่องว่างระเบียบกฎเกณฑ์ที่ว่าได้อย่างชะงัก อีกทั้งคนดูก็สามารถปฏิสัมพันธ์กับม็อกบังได้ด้วยการคอมเมนต์ระหว่างดูคลิป หรือจะมอบของขวัญให้กับม็อกบังคนโปรดก็ได้
นอกจากนี้ยังมีเหตุผลง่ายๆ อย่างเช่นการดูม็อกบังกินนู่นกินนี่ก็เป็นการบรรเทาความอยากอาหารสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน เพราะมีคนกินอาหารที่บางครั้งดูไม่มีประโยชน์แทนเราแล้ว หรือบางคนก็ชอบดูพลางๆ ไว้แก้หิว...
เพราะจะมีใครบ้างล่ะที่ไม่ชอบอาหาร!
แหล่งที่มา
Tag:
, เกาหลี, เทรนด์อาหาร,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น