กว่า 20 ปีที่นางเอกและนักแสดงแถวหน้าของวงการ “ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์” ส่ง ความสุขผ่านบทบาทที่หลากหลายบนหน้าจอทั้งจอแก้วและจอเงินให้เราได้ชม หากจะพูดคุยถึงประสบการณ์น่าสนใจในแวดวงบันเทิงของเธอ เชื่อว่านิตยสารเล่มนี้คงมีเนื้อที่ไม่พอ ดังนั้นเมื่อได้รับโอกาสพบปะพูดคุยกับสาวมากความสามารถคนนี้ เราจึงขอเก็บเรื่องราว “ความสนุกจากห้องครัว” ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในชีวิตของเธอไม่แพ้กองถ่ายละครเลยทีเดียว
“สำหรับป๊อกการแสดงกับการทำอาหารเป็นสิ่งที่เรารักและสนุกกับมันทั้งคู่ ปกติป๊อกทำอาหารเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว โดยเฉพาะขนม แล้วก็เริ่มเปิดยูทูบลองทำเค้ก ทำโน่นทำนี่ ทีนี้เล่นเองทำเองเสียหายเยอะ พี่ตั๊ก (นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์) จึงแนะนำให้ไปเรียนจริงจัง เลยไปสมัครเป็นนักเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ จนตอนนี้เรียนจบทุกคอร์ส ทั้งเพสตรี ขนมปัง และอาหารฝรั่งเศสค่ะ
“ตอนเรียนก็แอบกังวลว่าจะทำได้ไหม แต่ปรากฏว่าสนุกมาก เราสามารถอยู่ในครัวได้ทั้งวัน บางวันทำขนมได้จนเช้า บางวันต้องยืนในครัว 9 ชั่วโมงก็ยังแฮปปี้ เหมือนกับการถ่ายละครซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำแล้วเพลินโดยไม่คิดว่าเป็นงาน แต่เหมือนการได้เล่นสนุกมากกว่า (ยิ้ม)”
แล้วพี่ป๊อกก็เริ่มเล่าเรื่องราว “ความสนุก” และประสบการณ์สุดท้าทายในห้องครัวให้เราฟังด้วยแววตาเป็นประกาย โดยบางเรื่องนั้นนอกจากความสนุกที่เธอเปรียบเทียบว่าเหมือนการพิชิตภารกิจหรือการฝ่าด่านเกมที่น่าตื่นเต้นแล้ว ยังช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดและเป็นการบำบัดจิตใจของเธออีกด้วย
“เรื่องสนุกเวลาทำอาหารมีเยอะมาก เอาจริงๆ แค่คอยลุ้นว่าขนมที่เราอบออกมาจะขึ้นไม่ขึ้น ฟูไม่ฟู หน้าขนมจะแตกไหมก็ตื่นเต้นแล้ว หรือตอนเรียนทำขนมปังต้องเลี้ยงยีสต์ เชฟจะให้แป้งโดก้อนเล็กๆ แล้วกำชับว่าต้องคอยเติมแป้ง ต้องเอาใจใส่เหมือนดูแลเด็ก ดูแลต้นไม้ แต่ประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงคือ เรากลัวการจับสัตว์ตั้งแต่เด็กๆ สัตว์มีขนนี่ไม่ได้เลย ปลาเราก็ไม่กล้าจับ กลัวเหม็นคาว ทีนี้พอต้องเรียนอาหารฝรั่งเศส ต้องทำเนื้อนก เนื้อกระต่าย อาหารทะเล จึงเลี่ยงไม่ได้ เลยต้องสะกดจิตตัวเองว่าเราเป็นเชฟ เราทำได้ คิดว่าเรากำลังแสดงเป็นแม่ครัวให้สมบทบาท (หัวเราะ)
“แล้วเรียนวันแรกก็เจอแจ๊กพอตเลยค่ะ ป๊อกต้องทำไก่ต้มแจกให้เพื่อนๆ ในคลาสใช้ทำอาหาร แรกๆ ขนาดใส่ถุงมือยังขนลุกมาก แต่เรากลัวคนอื่นจะเดือดร้อนมากกว่า เลยพยายามเริ่มด้วยการจับคอไก่แล้วหยิบใส่ถาด ตอนเจอเมนูเนื้อกระต่ายก็ใช้วิธีโฟกัสว่าต้องเลาะตรงนี้ หั่นตรงนั้นจนผ่านไปได้ ที่โหดที่สุดคงเป็นนกกระทาซึ่งเป็นเมนูในการสอบด้วย มีแว่บหนึ่งเผลอคิดว่านี่คือลูกนกก็ช็อกไปเหมือนกัน แต่พอตั้งสติได้ก็ค่อยๆ ถอดกระดูก ยัดไส้ เย็บเป็นตัว จนส่งเป็นนกกระทายัดไส้ได้สำเร็จ ตอนนั้นโล่งใจมาก เหมือนได้เอาชนะตัวเอง ได้ก้าวผ่านความกลัวในจิตใจที่ฝังแน่นมานาน
“ทั้งการแสดงและการทำอาหารเป็นเหมือนการบำบัดจิตใจ การแสดงทำให้เราได้แสดงออกในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น ได้สัมผัสประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในชีวิตจริง เพราะจริงๆ เราเป็นคนราบเรียบ ไม่โลดโผน ส่วนการทำอาหารเหมือนเราได้สร้างสิ่งใหม่ๆ ได้ทำภารกิจอย่างหนึ่งให้สำเร็จ มีวัตถุดิบมากมายอยู่บนโต๊ะ แต่เราต้องหยิบสิ่งเหล่านั้นมาทำให้เป็นอาหารหนึ่งจาน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เวลาอบเค้กออกมาอร่อย สวยน่ากินอย่างที่ต้องการเราก็สบายใจ รู้สึกเหมือน Mission Complete (ยิ้ม)”
ฟังเรื่องราวสุดมันส์ในห้องครัวของพี่ป๊อกแล้วใครยังไม่จุใจ อย่าลืมติดตามความสนุกของเธอในฐานะพิธีกรและเซเลบริตีเชฟรายการมาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2 ได้เร็วๆ นี้
Tag:
, Interview, ป๊อก ปิยธิดา,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น