9 ผักคู่ครัว ปลูกง่าย เก็บกินได้ทุกวัน

วันที่ 1 เมษายน 2563  11,348 Views

อยู่บ้านอย่าปล่อยให้เวลาว่างผ่านเลยไป ปลูกผักสวนครัวไว้ปรุงอาหารกินกันดีกว่า โดยเฉพาะผัก 9 ชนิดที่มักเป็นส่วนประกอบสำคัญในเมนูจานเด็ดของทุกบ้าน ทั้งยังปลูกง่ายและเก็บกินได้ทุกวัน ยิ่งหามุมจัดวางสวยๆ ยังเป็นสวนผักประดับบ้านที่ชวนมอง จะอยู่บ้านนานแค่ไหนก็ไม่มีคำว่าเบื่อ

★ 1. ถั่วงอก 

9 ผักคู่ครัว ปลูกง่าย เก็บกินได้ทุกวัน

ใครไม่เคยเพาะถั่วงอกส่งครูบ้างยกมือขึ้น (ฮา!) หรือใครเริ่มลืมเลือนเรามาฟื้นวิชาเพาะถั่วงอกไว้ติดครัวที่บ้านกันเถอะ เริ่มจากแช่ถั่วเขียวไว้ 1 คืน เตรียมตะกร้ามาปูทิชชูลงไปพรมน้ำให้ชุ่มใส่เมล็ดถั่วเขียวเกลี่ยให้กระจายทั่ว ระวังอย่าให้แน่นเกินไปจากนั้นเอากระดาษทิชชูปิดทับแล้วรดน้ำอีกครั้ง เก็บไว้ในที่ไม่มีแสงแดด รดน้ำเช้าเย็นจนครบ 3 วันเราก็จะได้ถั่วงอกสดกรอบ นำมาปรุงอาหารได้ตามชอบเลย
 

★ 2. ต้นอ่อนทานตะวัน 

ต้นอ่อนทานตะวัน

มาแรงเรื่อยๆ สำหรับต้นอ่อนทานตะวัน โดยเฉพาะในกลุ่มของคนรักสุขภาพ สามารถนำมาเป็นส่วนประกอบได้หลากหลายเมนู แต่ง่ายสุดก็เมนูสลัดผักนี่แหละ วิธีปลูกไม่ยุ่งยากให้นำเมล็ดทานตะวันมาตากแดดก่อนสัก 1 วันแล้วค่อยนำมาแช่น้ำ 4-6 ชั่วโมง จากนั้นนำเมล็ดมาบ่มในผ้าขนหนูประมาณ 18-20 ชั่วโมง เตรียมตะกร้าหรือถาดใส่ดิน ควรร่อนดินแยกเศษใบไม้หรือขุยมะพร้าวออกเพื่อให้ดินละเอียดแล้วโรยเมล็ดลงดิน ระวังอย่าให้หนาหรือบางเกินไป โรยดินกลบบางๆ รดน้ำพอชุ่ม จะทำไว้หลายๆ ถาดก็ได้แล้วนำมาซ้อนกันประมาณ 1 คืน ตอนเช้าค่อยมาแยกถาดแล้วรดน้ำเช้าเย็น ต้นอ่อนจะค่อยๆ เติบโตพร้อมให้เรานำมาปรุงอาหารได้แล้ว
 

★ 3. เห็ดนางฟ้า 

เห็ดนางฟ้า

ปลูกง่ายไม่น้อยหน้าใครก็ต้องยกให้เห็ดนางฟ้านี่แหละ เพราะเราสามารถหาซื้อก้อนเชื้อเห็ดที่ทำสำเร็จแล้ว ไม่ต้องวุ่นวายกับการหาแกลบมาใส่ถุงแล้วเอาเชื้อเห็ดใส่อีกต่อไป ราคาก็ย่อมเยาอีกทั้งวิธีดูแลก็ง่ายดายเพียงเก็บให้พ้นแสงแดด อากาศถ่ายเทสะดวก รดน้ำเช้าเย็นเท่านี้ก็เตรียมตัวเก็บมาปรุงเมนูอร่อยได้ทุกวัน
 

★ 4. กะเพรา 

กะเพรา

ผัดกะเพราได้ชื่อว่าเป็นอาหารจานโปรดของทุกคนในบ้านที่กินได้บ่อยครั้งแบบไม่มีเบื่อ แล้วทำไมเราจะไม่ปลูกกะเพราไว้ติดบ้านล่ะ อยากกินเมื่อไรก็ไม่ต้องออกไปหาซื้อ แค่โรยเมล็ดใส่กระถางแล้วหาฟางกลบ ถ้าไม่มีฟางก็เอาดินกลบบางๆ ก็ได้แล้วรดน้ำตาม ต้นอ่อนจะงอกขึ้นภายใน 7-10 วัน ถ้าต้นกล้าติดกันเกินไปให้แยกปลูก รอจนต้นสูงแตกใบก็ได้เวลาเด็ดยอดไปทำผัดกะเพราหอมๆแล้ว อย่าลืมเด็ดยอดทุกวันเพราะจะทำให้แตกยอดใหม่เรื่อยๆ หรือถ้าไม่มีเมล็ดสำหรับนำมาเพาะให้นำต้นกะเพราที่ซื้อจากตลาดและเด็ดใบใช้ไปแล้วปักลงในกระถางรดน้ำทุกวันก็จะแตกยอดรอให้เรากินได้เหมือนกัน
 

★ 5. โหระพา 

โหระพา

โหระพาใช้วิธีเดียวกับการปลูกกะเพราคือปลูกด้วยเมล็ด รอให้เมล็ดงอกเป็นต้นกล้าแล้วจึงย้ายต้นปลูกกับอีกวิธีคือการปักชำ สำหรับมือใหม่เราแนะนำให้ใช้วิธีปักชำน่าจะง่ายกว่า โดยใช้ต้นโหระพาที่ซื้อมาทำอาหารจากตลาดทดลองปลูกดูก่อนก็ได้ ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ จากนั้นค่อยทดลองปลูกจากเมล็ด เฝ้าดูการเติบโตทีละเล็กทีละน้อย เพลินอย่าบอกใคร
 

★ 6. แมงลัก 

แมงลัก

ใบแมงลักเป็นพืชอีกชนิดที่ได้รับความนิยมนำมาปรุงอาหาร วิธีปลูกเหมือนกะเพราและโหระพาคือใช้วิธีปักชำกิ่งหรือใช้เมล็ดเพาะเป็นต้นกล้าแล้วค่อยย้ายไปปลูกในกระถางที่มีดินเตรียมไว้ก็ได้
 

★ 7. สะระแหน่ 

สะระแหน่

สะระแหน่สมุนไพรไทยกลิ่นหอมๆ ที่ปรุงได้ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ปลูกติดบ้านไว้ดีต่อใจแน่นอน เริ่มต้นด้วยการเตรียมดินใส่กระถางให้พร้อม เลือกกิ่งสะระแหน่ที่สมบูรณ์ไม่อ่อนหรือแก่เกินไปมาปักให้เอนทาบลงไปกับดิน รดน้ำให้ชุ่ม นำแกลบมาโรยกลบดินเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับดิน รดน้ำต่อเนื่องเช้าเย็นประมาณ 4-5 วันก็จะแตกยอดเลื้อยคลุมดินให้เก็บมากินได้เรื่อยๆแล้ว
 

★ 8. ตะไคร้ 

ตะไคร้

สำหรับตะไคร้จะใช้วิธีการปักชำต้นเหง้า โดยตัดใบออกให้เหลือเพียงโคนต้น (ต้องมีราก)ประมาณ 10 เซนติเมตร นำส่วนโคนปักลงในดิน หมั่นรดน้ำให้ชุ่มทั้งเช้าและเย็น ตะไคร้ชอบแดดจึงควรตั้งไว้ให้โดนแดดตลอดวันจะยิ่งโตเร็ว ถ้าตะไคร้ที่ซื้อมาไม่มีรากให้ตัดโคนต้นเหลือความยาวสักนิ้วครึ่งแล้วนำไปแช่น้ำรอให้รากงอกค่อยนำไปปักชำก็ได้
 

★ 9. พริก 

พริก

อาหารรสชาติจัดจ้านจะขาดพริกไม่ได้ฉันใด ในครัวของบ้านเราก็เช่นกัน นำพริกที่จะปลูกไปแช่น้ำอุ่นไว้ 1 วัน แล้วผึ่งแดดอีกครึ่งวันก่อนแกะเมล็ดออกมาปลูก ขุดหลุมในกระถางดินประมาณครึ่งนิ้วหย่อนเมล็ดพริกลงหลุมประมาณ 3-4 เมล็ด กลบดินแล้วรดน้ำให้ชุ่มทุกวัน เมื่อพริกน้อยเริ่มงอกสูง 6 นิ้วขึ้นไปให้ถอนต้นที่อ่อนแอทิ้ง เหลือเฉพาะต้นที่แข็งแรงไว้ 1 ต้น จากนั้นย้ายต้นกล้าไปปลูกในกระถางใหม่ที่ใส่ดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยหมัก รดน้ำเช้าเย็น ระวังอย่าให้แฉะ และพริกชอบแสงแดดอย่าลืมวางไว้ในที่แสงแดดส่องถึงเสมอ พริกแต่ละชนิดมีระยะเวลาการออกดอกให้ผลไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่ถ้าเป็นพริกขี้หนูแค่เดือนที่ 2 ก็เก็บมาทำอาหารได้แล้ว

ปลูกง่าย ไร้สารเคมี และเก็บกินได้ทุกวันแบบนี้ เชฟมือใหม่อย่างเราต้องรีบแล้วล่ะ


Tag: , ผักสวนครัว,

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed