เมื่อหนุ่มสาวนักกินจากคนละขอบฟ้าโคจรมาพบกัน เรื่องราวของจานอร่อยก็เริ่มขึ้น!

ผ่านเดือนกุมภาพันธ์มาแล้วแต่กลิ่นอายความหวานยังเบ่งบานในคอลัมน์ Food in Biz เมื่อทีมงานได้สัมภาษณ์พี่โอ๋-กษมา เหล่าพาณิชย์ และพี่บิลลี่-วิลเลี่ยม อาเล็กซานเดอร์ บาวธิสต้า สองสามีภรรยานักกินตัวยงที่เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่า “พรหมลิขิต” หรือ “ร้านอร่อย” กันแน่ที่ชักนำให้ทั้ง 2 คนมาพบกัน  

“เราพบกันครั้งแรกที่ร้านอาหารในซานฟรานซิสโก และพบกันอีกหลายครั้งที่เดิม” พี่โอ๋เริ่มบทสนทนาด้วยรอยยิ้มก่อนเล่าต่อว่า “ช่วงที่อยู่ซานฟรานนอกจากจะตระเวนหาของอร่อยนอกบ้านแล้ว เรายังชอบชวนเพื่อนมาทำอาหารกินที่บ้านด้วย เรา 2 คนไม่ได้เรียนทำอาหาร แต่อาศัยประสบการณ์การเป็นลูกมือของคุณพ่อคุณแม่มาตั้งแต่เด็ก ทำให้คุ้นเคยกับวัตถุดิบและเทคนิคในการปรุง พี่โอ๋ได้ฝีมือการปรุงอาหารไทยจากคุณแม่ ส่วนพี่บิลลี่ได้อาหารสเปนจากคุณพ่อและอาหารอิตาเลียนจากคุณแม่

“พอเรากลับมาอยู่เมืองไทยบางวันก็นึกอยากกินอาหารเม็กซิกัน แต่ช่วง 10 ปีก่อนนั้นไม่มีร้านอาหารเม็กซิกันอร่อยๆ เลย จึงเป็นที่มาของ La Monita ร้านอาหารเม็กซิกันเล็กๆ ที่เกิดจากความตั้งใจที่จะทำอาหารที่ตัวเองชอบกินและให้คนที่อยากกินได้กินเหมือนกัน อีกทั้งมองว่าคนไทยน่าจะเข้าถึงอาหารเม็กซิกันได้ง่ายเพราะวัตถุดิบหลายอย่างคล้ายกันอย่างซอสซัลซาที่มีมะเขือเทศ หัวหอม ผักชี มะนาว เป็นส่วนผสม เราเริ่มต้น ตั้งแต่คิดค้นและทดลองจนได้สูตรที่ลงตัว ไปจ่ายตลาดและเข้าครัวด้วยตัวเอง บางครั้งก็ไปเดินแจกโบรชัวร์แนะนำร้านอยู่ปากซอย เพราะร้านอยู่ลึก (ย่านมหาทุน พลาซ่า) ค่ำๆ แทบไม่มีคนรู้เลยว่ามีร้านอาหารอยู่ด้านใน” พี่โอ๋เล่าถึงแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจที่เกิดขึ้นจากความรักในการกินอย่างแท้จริง

ในยุคที่โซเชียลยังไม่แพร่หลาย อาศัยเพียงคำบอกเล่าจากปากต่อปากว่าถ้าจะกินอาหารเม็กซิกันต้องมาร้านนี้ เพียงปีแรกก็ส่งให้ La Monita คว้าใจสายกินมาครองแบบลอยลำ พอย่างเข้าสู่ปีที่ 2 จากพื้นที่ 1 คูหาก็เพิ่มเป็น 2 คูหา และปีที่ 3 ก็ขยายสาขาไปยังศูนย์การค้าสยามพารากอนและเอ็มควอเทียร์ในลำดับต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ากว่า 11 ปีที่ผ่านมาลาโมนิต้ายืนหนึ่งในกลุ่มคนรักอาหารเม็กซิกันมาโดยตลอด

“หลังจากส่งร้านอาหารเม็กซิกันต้นตำรับขึ้นอันดับร้านต้องกินไปแล้วก็ถึงเวลาของการเปิดตัวแบรนด์ที่ 2 และ 3 ได้แก่ Osito ร้านอาหารสเปน เน้นเมนูเรียบง่ายมื้อกลางวันอย่างซุป สลัด และแซนด์วิช ส่วนกลางคืนเน้นทาปาสและเครื่องดื่มเป็นหลัก และ Billy’s Smokehouse ชูเมนูบาร์บีคิวที่หอมกลิ่นควันแบบต้นตำรับอเมริกันขนานแท้ ซึ่งพี่บิลลี่คิดค้นจนได้สูตรเฉพาะของเขาเอง “แรงบันดาลใจในการเปิดร้านต่อมาก็เหมือนกับร้านแรก คือเราอยากกินอาหารสเปนและบาร์บีคิวสไตล์อเมริกันแท้ๆ แต่หากินไม่ได้ การเปิดร้านจึงเป็นทางออกของคนชอบกินแบบเราที่สุด”

จากอาหารตะวันตกสู่ “ไทยนิยม” ร้านอาหารไทยรสจัดจ้านที่เปิดมาเอาใจชาวออฟฟิศย่านเพลินจิต โดยคัดสรรเฉพาะจานเด็ดตั้งแต่เหนือจรดใต้มาให้อร่อยครบรสในที่เดียว และยังเป็นความต้องการเติมเต็มความรักที่มีต่ออาหารจานโปรดของทั้งคู่ โดยเฉพาะพี่บิลลี่หนุ่มอเมริกันที่หลงรักอาหารเอเชียนแบบถอนตัวไม่ขึ้น ใครจะนึกว่าเชฟฝรั่งที่ประจำการอยู่หลังสเตชันอาหารยุโรปคนนี้จะมีมุมเอนจอยกับอาหารรสเผ็ดร้อนได้อย่างสบายปาก “ถ้าเป็นส้มตำขอเผ็ดๆ และอย่าลืมใส่ปลาร้าให้ด้วยนะ” พี่บิลลี่เสริมยิ้มๆ

สำหรับหัวใจในการทำธุรกิจของร้านมุ่งเน้นทั้งเรื่องของรสชาติ วัตถุดิบคุณภาพ การบริการ ราคาสมเหตุผล ทำเลที่ตั้ง และกำหนดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ทั้งหมดคือองค์ประกอบสำคัญที่ต้องล้อไปด้วยกัน รวมถึงการลงมือทำด้วยตัวเองทำให้รู้จุดแข็งและจุดอ่อน เมื่อธุรกิจเติบโตก็สามารถส่งต่อหรือมอบหมายความรับผิดชอบให้กับทีมงานได้อย่างมั่นใจ

ส่วนกุญแจสู่ความสำเร็จนอกจากองค์ประกอบที่กล่าวมาคือประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกฝนอย่างจริงจัง “ทุกคนมีศักยภาพที่จะทำในสิ่งต่างๆ ต้องหมั่นฝึกฝน การทำอาหารก็เช่นเดียวกัน ตอนเด็กๆ เราได้เรียนรู้และฝึกฝนโดยไม่รู้ตัวจากการเป็นลูกมือในครัวของคุณพ่อคุณแม่ โตขึ้นก็ได้ตระเวนกินไปในที่ต่างๆ ใช้ความชอบกินเป็นตัวนำแล้วฝึกฝนทักษะในการจดจำรสชาติ นำมาทดลองทำจนได้รสชาติใกล้เคียงต้นฉบับและมีความลงตัวในแบบของเรา ไม่ใช่แค่การปรุงอาหาร แต่ยังรวมถึงการเลือกซื้อวัตถุดิบและการบริหารจัดการในร้าน การฝึกฝนทำให้มีประสบการณ์และความชำนาญมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า สิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับร้านอย่างยิ่งคือรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ ปี 2019 ที่ไทยนิยมคว้ามาครอบครองหลังจากเปิดร้านได้ไม่นาน “เราไม่เคยหวังรางวัลอะไร แค่ได้ทำอาหารที่ชอบกินให้กับคนที่ชอบกินเหมือนกัน วันที่รู้ว่าได้รางวัลทั้งตื่นเต้นและดีใจ เพราะเกินความคาดหวังไปไกลมาก” พี่โอ๋เล่าย้อนถึงความรู้สึกในวันนั้น

ใครเป็นแฟนคลับพี่โอ๋และพี่บิลลี่กลางปีนี้มีเซอร์ไพรส์มาให้นักกินทั้งหลายได้เปิดประสบการณ์แห่งรสชาติรูปแบบใหม่สไตล์ Taco Omakase ภายใต้แบรนด์ Santiaga เปลี่ยนภาพทาโก้ที่คุ้นเคยด้วยวัตถุดิบสุดพรีเมียม และได้เชฟมืออาชีพส่งตรงจากเม็กซิโกมาปรุงให้กินแบบครบเครื่องถึงรส...

เตรียมล้างท้องไว้รอเลย

Tag: , Interview, อาหารเม็กซิกัน,