พอพูดถึง "ซอสพริกศรีราชา" ขึ้นมาครั้งใด แก้มแดงมักจะแอบน้อยใจอยู่หน่อยๆ เมื่อซอสพริกสุดเลื่องชื่อที่ทำให้อำเภอศรีราชาจังหวัดชลบุรีคุ้นหูคนทั่วโลกนั้น ไม่ได้เป็นของคนไทย
โชคดีที่ Sriracha (2013) สารคดีสั้นของกริฟฟิน แฮมมอนด์ (Griffin Hammond) ก็ได้พยายามพาทุกคนมารู้จักกับซอสพริกศรีราชากันมากยิ่งขึ้น ด้วยเวลาเป็นมิตรกับคนดูเพียง 33 นาที ซึ่งนั่นนับเป็นข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน เพราะหากมองเนื้อก็ได้เนื้อ มองน้ำก็ได้น้ำเช่นกัน (ย้อนแย้งกันน่าดู)
โครงเรื่องของ "ศรีราชา" ผูกขึ้นมาอย่างง่ายๆ ด้วยการสัมภาษณ์บุคคลทั่วไปว่ารู้จักซอสพริกศรีราชาหรือไม่ แน่นอนว่ามีทั้งคนไม่รู้จัก รู้จัก ไปจนถึงคลั่งไคล้ แต่พอถามว่าซอสพริกนี้มาจากไหนเท่านั้นแหละ เรื่องนี้ก็กลายเป็นปริศนายิ่งกว่าซีรีส์เรื่องดิเอ็กซ์ไฟล์เสียอีก คำตอบจึงมีทั้งเอเชีย มาเลเซีย ไทย ไปจนถึงไม่รู้ (ฮา!) ทั้งที่ความจริงแล้วคำตอบก็เฉลยอยู่บนขวดใสรูปไก่หัวจุกสีเขียวอย่างโต้งๆ ว่า "แคลิฟอร์เนีย" นี่เอง
ซอสศรีราชาที่พูดถึงอยู่นี้ผลิตโดยบริษัท "หัวฟงฟู้ด" (Huy Fong Foods) ของนายเดวิด ทราน (David Tran) ชาวเวียดนามที่คิดค้นสูตรซอสสีแดงรสเผ็ดขึ้นมาขายในช่วงทศวรรษ 1980 เอาเข้าจริงสารคดีเรื่องนี้นับเป็นการพาทุกคนไปรู้จักกับนายเดวิดเป็นครั้งแรก จนนักวิจารณ์หนังหลายคนหยอกเอินว่านี่คือโฆษณาขนาดยาวของซอสศรีราชาต่างหาก (อุบส์!) เท่านั้นไม่พอ เพราะเรายังได้ยลโฉมโรงงานใหม่ใสกิ๊ง หลังจากโรงงานเก่าของเขาถูกทางการสั่งปิด เพราะถูกร้องเรียนเรื่องสุขอนามัยและเสียงรบกวน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีรายงานว่ามีใครที่ได้รับผลกระทบจากการกินซอสชนิดนี้
สำหรับข้อสงสัยที่มาของชื่อ "ศรีราชา" ตัวสารคดีก็ฉลาดพอที่จะพามาดูซอสพริกศรีราชาพานิชฉบับออริจินัลที่ประเทศไทย พร้อมกับบอกความต่างของส่วนผสมระหว่างซอสไทยกับซอสของนายเดวิด อย่างเสร็จสรรพ โดยของบ้านเราจะเป็นพริกชี้ฟ้าแดง แต่ของฝั่งโน้นจะเป็นพริกฮาลาเปโย (Jalapeño) พริกที่ขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดร้อนที่สุด ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เห็นฝรั่งตาน้ำข้าวมาบอกว่าซอสพริกบ้านเรา "หวาน" (รู้สึกเหมือนโดนหยามอยู่หน่อยๆ)
แม้เราจะเป็นแหล่งกำเนิดที่แท้จริง แต่ถ้าเทียบกันแล้วคนไทยกับคนอเมริกันมีความ "อิน" ในซอสพริกไม่เท่ากัน แก้มแดงเคยได้ยินชื่อของซอสพริกศรีราชาสมัยเป็นเด็กน้อย (จำได้ว่าจิ้มกับกุ้งต้มอร่อยมาก) แต่ตอนนี้ก็แทบจะไม่รู้สึกว่านี่คือเครื่องปรุงสำคัญเท่ากับ "พริกน้ำปลา" (หรือน้ำปลาพริก) แต่ทางฝั่งอเมริกาพวกเขาแทบจะเอามาใส่ทุกอย่างทั้งแฮมเบอร์เกอร์ ฮอตดอก แซนด์วิช แคลิฟอร์เนียโรล ไปจนถึงกินเพียวๆ อีกทั้งยังมีศรีราชาชาเลนจ์แข่งกันกินเผ็ด เพลงซอสศรีราชา เสื้อลายสกรีนรูปขวดซอส รวมถึงงานแฟร์ด้วย
ส่วนชื่อ "ศรีราชา" แก้มแดงขอทำความเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ชื่อเฉพาะ สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ผิดกติกา ในตัวสารคดีเองก็บอกว่าวัฒนธรรมศรีราชากำลังเฟื่องฟู เมื่อมีซอสหลากหลายยี่ห้อในชื่อซอสศรีราชาวางจำหน่าย แต่สิ่งที่เป็นลิขสิทธิ์จริงๆ ก็คือรูปไก่บนขวด (ปีเกิดของนายเดวิด) และจุกสีเขียวบนขวด
กลายเป็นว่าสิ่งที่เป็นจุดแข็งของสารคดีเรื่องนี้กลับเป็นความตั้งใจของนายเดวิด เพราะเขาสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นพลเมืองอเมริกาได้ด้วยสูตรซอสศรีราชา แม้ตอนนี้เขาจะกลายเป็นเศรษฐีจากยอดขายที่มากกว่า 20 ล้านล้านขวดต่อปี แต่เขายังคงทำงานที่โรงงานเหมือนเดิม
เพื่อส่งมอบความอร่อยเผ็ดร้อนในราคาประหยัดอย่างที่ทำมาตลอด 30 ปี
แหล่งข้อมูล
ภาพประกอบจาก
Tag:
, Food on Film, ซอสพริก, ศรีราชา,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น