นักกินยกย่องกันว่าหอยนางรมที่ดีที่สุดต้องมาจากฝรั่งเศส ถ้าในบ้านเราหอยนางรมที่ดีที่สุดต้องมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ ตามคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ”
หอยใหญ่ก็คือ หอยนางรม นี่เอง
จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีนั่งรถไปประมาณ 25 นาทีก็ถึงท่าเรือลงเรือไปสู่ทะเลอ่าวท้องบึกเพื่อพาเราไปสู่ “ขนำ” ซึ่งคนกรุงเทพฯ บางคนฟังครั้งแรกคงนึกไม่ออกว่าคืออะไร ขนำก็คือที่พักของชาวประมง ปลูกอยู่ในทะเลเวลาออกจับสัตว์น้ำและไว้เฝ้าฟาร์มหอยนางรมเพื่อไม่ให้คนมาขโมย
เรือหางยาวพาเราแล่นออกสู่ทะเล ลมเย็นๆ สดชื่นบริสุทธิ์ที่ไม่เคยได้สัมผัสในเมืองหลวงพัดมาปะทะหน้า คนกรุงเทพฯ เริ่มตื่นเต้นกับท้องฟ้าสีครามทาบทับด้วยเมฆสีขาวบางๆ ฟุ้งๆ ท้องทะเลสีเขียวอมฟ้าจรดกับเส้นขอบฟ้า เห็นขนำหลังเล็กๆ ปลูกเรียงรายกันเป็นระยะ และเพียง 10 นาทีเรือหางยาวก็พาเรามาจอดที่ “ขนำน้อยหอยใหญ่” ขนำที่สร้างไว้เฝ้าระวังขโมย และจัดเป็นร้านอาหารของคนที่อยากลิ้มรสหอยนางรมสดในฟาร์มหอยว่าจะสดอร่อยสมคำร่ำลือเพียงใด
ขนำน้อยหอยใหญ่เลยไม่ใช่ขนำเล็กๆ แต่สามารถจัดวางโต๊ะรับคนได้ประมาณ 30-50 คนได้อย่างไม่แออัด คุณสิริพล ใจงาม หรือคุณเชน เจ้าของขนำเล่าว่าอ่าวท้องบึกบริเวณนี้มีหอยนางรมอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติมาแต่ดั้งเดิมอยู่แล้ว เพราะเป็นพื้นที่น้ำกร่อยซึ่งน้ำทะเลกับน้ำจืดไหลมารวมกัน มีแพลงก์ตอนตามธรรมชาติที่เป็นอาหารของหอยนางรม วันที่เราไปน้ำขึ้นสูงเห็นไม้กลมเล็กโผล่พ้นน้ำ คุณเชนบอกว่านี่เป็นเสาหลักที่ทำให้หอยนางรมเกาะ หรือใช้เลี้ยงหอยนางรม หอยตัวใหญ่ที่กินกันนี้ต้องเลี้ยงหรือมีอายุถึง 3-4 ปี ฉะนั้นคนเลี้ยงก็ต้องจำให้ดีว่าหลักไหนหอยอายุเท่าไรก่อนจะไปงมขึ้นมา
ลมเย็นๆ ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส เห็นทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ชวนให้ใครก็อยากมาพักผ่อนเฮฮา เริ่มจากเพื่อนๆ ของเจ้าของที่มาพบปะสังสรรค์กินอาหารกันเป็นประจำ จนเกิดความคิดอยากแบ่งปันความสุขและหอยนางรมให้คนที่สนใจได้ชิมบ้าง เลยจัดขนำเป็นร้านอาหารไปด้วย แต่ต้องเฉพาะคนที่จองมาเท่านั้นเพื่อดูแลได้เต็มที่ อาหารเริ่มจากหอยนางรมที่เลี้ยงในฟาร์มกันสดๆ เรียกว่างมและเปิดฝากันเดี๋ยวนั้นเลย หอยนางรมกินได้ไม่อั้น ใครจะกินเท่าไรก็ได้
หอยนางรมของบ้านเราเป็นหอยในกระแสน้ำอุ่น จึงแตกต่างจากที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เนื้อหอยหนานุ่ม ตัวใหญ่ รสเค็มนิดๆ รสหวานอร่อยตามธรรมชาติโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไร แต่จะหวานอร่อยมากขึ้นถ้าได้กินกับใบกระถินอ่อนและหอมเจียวซึ่งเป็นเครื่องเคียงที่เข้ากันอย่างมหัศจรรย์ จนต้องขอคารวะผู้ที่นำมาพบกัน และได้กลายเป็นเอกลักษณ์ความอร่อยที่จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้ แต่คนที่ชอบรสร้อนแรงนอกจากน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเผ็ดแซ่บแล้ว ที่นี่ยังเตรียมพริกสด น้ำพริกเผา และกระเทียมสดให้ด้วย
ทะเลแถบนี้ยังเป็นแหล่งของหอยแครง หอยแมลงภู่ เราจึงได้กินหอยแครงตัวอ้วนใหญ่ไซส์พรีเมียมที่ลวกได้เวลาเป๊ะ เพราะเนื้อเด้ง น้ำหอยชุ่มฉ่ำ หวานอร่อย และหอยแมลงภู่ตัวอวบใหญ่ ซีฟู้ดที่ขาดไปไม่ได้คือปูทะเลสดต้มสุก เปลือกหอยสีส้มแดงสด ได้ลิ้มรสหวานธรรมชาติของเนื้อปูโดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยใดมาเสริม
ในชุดอาหารใต้จะขาดแกงส้มหรือแกงเหลืองรสร้อนแรงได้อย่างไร แกงส้มปลาดุกทะเลกับหน่อไม้ดอง รสเปรี้ยวเค็มของหน่อไม้ดองช่วยชูรสแกงส้มให้ออกรสออกชาติ แล้วยังมีห่อหมกไข่ปลาริวกิว หอมกลิ่นเครื่องแกงที่ผสมผสานไปกับเนื้อปลานุ่มๆ และมีไข่ปลามันๆ ให้เคี้ยว แปลกจากห่อหมกที่กินทั่วไป เมนูขึ้นชื่ออีกอย่างคือน้ำพริกขยำ น้ำพริกที่ไม่ต้องใช้ครกตำ แต่ขยำจนได้รสเค็ม เปรี้ยว หวานนิดๆ ชูรสด้วยกุ้งหัวมันต้ม กุ้งตัวเล็กเท่านิ้วชี้ซึ่งเป็นกุ้งน้ำกร่อยตามธรรมชาติ มาพร้อมผักพื้นบ้านนานาชนิดให้กินแก้เผ็ด และกุ้งหวานที่ใช้กุ้งหัวมันผัดกับหอมแดงปรุงรสหวานนำ ตำรับของที่นี่จะแตกต่างจากกุ้งหวานที่เห็นในกรุงเทพฯ เพราะจะไม่ผัดจนเปลือกกุ้งมันเงา
ของหวาน ลูกจากลอยแก้ว ต้นจากเป็นต้นไม้ประจำถิ่นของที่นี่ เนื้อลูกจากสีขาวเนื้อมันอร่อย มาพร้อมผลไม้ประจำฤดูและขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมจากใจ (ขนมจากแต่คนทำฝากบอกว่าทำจากใจเลยขอตั้งชื่อนี้) เนื้อในมีมะพร้าวอ่อนเป็นชิ้นรวมอยู่ในเนื้อด้วย หอมกลิ่นใบจากที่ใช้ห่อปิ้งขนมจนสุก จัดไว้พร้อมกับขนมพื้นบ้านให้เลือกชิม เช่น ขนมโค (คล้ายขนมต้มขาว) ขนมใส่ไส้ ส่วนใหญ่เป็นขนมที่ใช้มะพร้าวซึ่งเป็นผลไม้ประจำถิ่น และห้ามพลาดมะพร้าวอ่อนที่เฉาะให้ดื่มน้ำกันสดๆ เป็นการท้าพิสูจน์ของอร่อยของที่นี่อีกรายการ
อ่านต่อ
อิ่มแล้วยังนั่งนอนเอกเขนกชมวิว กินบรรยากาศลมเย็นๆ ให้หนำใจบนเปลญวนที่ผูกไว้รอบขนำ หรือถ้าจะใกล้ชิดทะเลขึ้นอีกนิดก็ไปนั่งบนแคร่ตาข่ายที่ปลูกไว้เพื่อให้นั่งเล่นโดยเฉพาะ แต่ไม่ต้องกลัวเพราะเจ้าของขนำยืนยันว่ารับน้ำหนักได้มากกว่า 100 กิโลกรัม พักจนอิ่มเอมใจ สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด ก็อำลาขนำน้อยด้วยการนั่งเรือกลับมาที่ท่าเดิม
กิจกรรมแนะนำหลังจากอิ่มท้องแล้ว และเป็นการรู้จักจังหวัดนี้ให้มากขึ้น ชวนให้ล่องเรือแม่น้ำตาปี แม่น้ำสายที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เรือพาเราแล่นไปตามแม่น้ำใหญ่ เห็นเรือโดยสารใหญ่จอดเทียบท่าพานักท่องเที่ยวหรือผู้คนไปเกาะเต่าและเกาะสมุยได้จากที่นี่ เรือลัดเลาะไปตามคลองร้อยสายที่มีต้นลำพู เถาวัลย์ขึ้นอยู่ริมคลอง และแล่นลึกไปเรื่อยๆ บางช่วงใบต้นจากโค้งงุ้มเข้าหากันเหมือนเรือกำลังลอดผ่านอุโมงค์เล็กๆ อากาศเย็นๆ ชวนตื่นเต้น ก่อนจะสลับกับช่วงที่แสงแดดลอดผ่านเงาไม้ เห็นนกกระเต็นบินผ่าน และไปหยุดพักสักครู่ที่บ้านของเจ้าของเรือซึ่งเป็นประธานชมรม ต้อนรับเราด้วยน้ำมะพร้าวสดที่สอยจากต้นกันเดี๋ยวนั้น สาธิตการปอกมะพร้าวด้วยพร้าอย่างดั้งเดิมให้ดู และประโยชน์ของใบจากที่ใช้ประโยชน์ได้สารพัด ทั้งเพลิดเพลินและสบายอารมณ์จนรู้สึกว่าเวลาแล่นเรือประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
คนที่ยังพอมีเวลาเหลือยามเย็นแนะนำให้ไปเดินเที่ยวตลาดวัดท่าไทร วัดใหญ่ประจำอำเภอกาญจนดิษฐ์ แม่ค้าขายปลากันหลากหลายชนิด ปลาบางชนิดไม่เคยเห็นในกรุงเทพฯ จัดเป็นการทัวร์ดูซีฟู้ดของจังหวัดได้ดีทีเดียว
ถ้าจะให้คึกคักกันขึ้นอีกและเห็นการผสมผสานวัฒนธรรมไทยจีนควรไปตลาดคนเดินในอำเภอเมือง ย่านที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจของจังหวัดใกล้กับศาลเจ้าฮกเกี้ยนที่ทั้งสวยและใหญ่ ถนนคนเดินที่รวบรวมสตรีทฟู้ดของจังหวัดทั้งไทยและจีนไว้ครบครัน อย่างเช่นขนมดอกโดน ขนมไข่ของภาคใต้ คล้ายขนมถังแตก ตัวแป้งใส่ข้าวโพด และมีไส้มะพร้าวอ่อน และโล่งโต้ง เส้นหมี่น้ำใสใส่ลูกชิ้นปลาแผ่น อาหารของคนจีนที่เป็นอาหารพื้นเมืองของที่นี่
ในยามที่หลายคนโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศในเมืองหลวง การไปพักผ่อนในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในภาคใต้ที่ยังอุดมสมบูรณ์ น่าจะช่วยให้ชุ่มฉ่ำหัวใจขึ้น และเมื่อได้ชิมซีฟู้ดสดกันถึงฟาร์มต้องบอกว่าซีฟู้ดไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก...
โดยเฉพาะหอยนางรมสดที่อวดเพื่อนบ้านได้เลย
ข้อมูลเพิ่มเติม : ขนำน้อยหอยใหญ่
เปิดบริการ 11.00-18.30 น. รับมื้อละ 1 โต๊ะ 2 ช่วงเวลา มื้อกลางวัน 11.00-14.00 น., มื้อเย็น 16.00-18.30 น. รับ 6 คนขึ้นไป
ราคา ผู้ใหญ่/คน อาหาร + เรือรับส่ง 1,200 บาท, เด็ก 8-12 ปี ลด 50 %, เด็ก 1-7 ปี ฟรีอาหาร
การจอง จองล่วงหน้า 3 วัน โดย Inbox มาทาง FB : ขนำน้อยหอยใหญ่ หรือติดต่อคุณเชน 08-9645-5333
ล่องเรือแม่น้ำตาปี ชมรมส่งเสริมท่องเที่ยวคลองร้อยสาย นายพาณุ ประธานชมรมฯ 08-6267-6695
Tag:
, การท่องเที่ยว, สุราษฎร์ธานี, อาหารทะเล,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น