แผลร้อนในเป็นแผลที่นอกจากจะทำให้รู้สึกเจ็บแสบแถมสร้างความรำคาญสำหรับหลายๆ คนแล้ว ยังขัดขวางการกินอาหารอร่อยๆ และทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าแผลชนิดนี้ใช้เวลามากกว่าสัปดาห์ถึงจะหาย ที่สำคัญยังสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้อีกเรื่อยๆ

แผลร้อนในคืออะไร?
แผลร้อนใน หรือแผลชนิดแอฟทัส (Aphthous Ulcer) คือแผลเปื่อยที่เกิดจากการแตกออกของเยื่อเมือกบริเวณช่องปาก มักเกิดขึ้นที่เนื้อเยื่อริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม เงือก เพดาน ใต้ลิ้น รอยต่อระหว่างริมฝีปากกับเหงือก หรือบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นเกิดขึ้นบริเวณลำคอ พบได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นและพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เป็นอาการที่ไม่อันตราย และจะหายเองภายใน 3 สัปดาห์

สิ่งที่ทำให้เกิดแผลร้อนใน
เกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน และมีความสัมพันธ์กับภูมิต้านทานของร่างกาย เช่น เนื้อเยื่อช่องปากได้รับการเสียดสีรุนแรงอย่างการกัดกระพุ้งแก้ม การแปรงฟันผิดวิธี กินอาหารที่เป็นกรดหรือมีรสเผ็ด การดื่มน้ำน้อย การพักผ่อนไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน มีความเครียดทางจิตใจ วิตกกังวล และการสูบบุหรี่ เป็นต้น

อาหารที่ควรกินในช่วงเป็นแผลร้อนใน
• โฮลเกรน นม เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา
• ผักผลไม้ฤทธิ์เย็น เช่น ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ฝรั่ง ฟักเขียว มะระ แตงโม กีวี่
• อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ถั่ว และไข่
• อาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง เช่น ตับและอาหารทะเล
• ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ช่วยให้อุณหภูมิร่างกายเย็นลง
• อาหารเย็นๆ เช่น ไอศกรีม น้ำเย็น เพราะจะทำให้ปากชุ่มชื้นขึ้น

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงเป็นแผลร้อนใน
• อาหารเผ็ดร้อน เช่น หอม กระเทียม
• อาหารกรดสูงหรืออาหารที่มีรสเปรี้ยว เช่น สับปะรด ส้ม ส้มโอ มะนาว มะเขือเทศ
• อาหารทอด อาหารมัน
• ผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น ทุเรียน ลำไย ขนุน เงาะ
• อาหารประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มรสซาบซ่า

เรียบเรียงจากบทความ “อาหารสำหรับแผลร้อนใน” โดย ผศ.ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล สถาบันโภชนวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล คอลัมน์ Food For Life นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับ 187 เดือนกุมภาพันธ์ 2016

Tag: , อาหารรักษาแผลร้อนใน, อาหารเพื่อสุภาพ, แผลร้อนใน,