หลังจากคว้าตำแหน่งผู้ชนะรายการมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนแรกของประเทศไทยมาครองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้ “แก้ว-ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร” หรือ “เชฟแก้ว” ที่แฟนรายการหลายคนคอยเชียร์ก็ได้ทำตามอีกหนึ่งความฝันของเธอสำเร็จ นั่นคือการเป็นเจ้าของร้านอาหารสไตล์ Experience Dining ที่เธอใส่ทุกความตั้งใจและความสร้างสรรค์ร่วมกับเชฟผึ้ง (ปุญญเนตร ธนัพประภัศร์) เพื่อนสนิทร่วมการแข่งขัน

แม้จะออกตัวว่าจากประสบการณ์ที่สั่งสมและความเป็นมืออาชีพในครัวที่มากขึ้นทำให้เธอทำอาหารด้วยความนิ่งและความชำนาญยิ่งขึ้น แต่ “ความสนุก” ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีในอาหารสไตล์เชฟแก้ว เพื่อให้คนกินได้รับทั้ง “ความอร่อย” และ “ความสุข” กลับคืนไป

“Le Lapin Bangkok คือมุมมองที่แก้วมีต่ออาหาร ซึ่งเป็นทั้งประสบการณ์และศิลปะ เราไม่อยากให้คนกินแล้วจบไป แต่มันต้องอร่อยและมีอะไรมากกว่านั้น อาหารคือความสนุก คือ ความสุขของทั้งคนกินและคนทำ สำหรับแก้วโลกของอาหารยิ่งใหญ่มาก เป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบ ตอนนี้แก้วกำลังเรียนทำขนมที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ซึ่งเวลาอยู่ในครัวก็ยังสนุกเหมือนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ถ้าเปรียบการทำอาหารคาวเหมือนเข้าสู่สนามรบ ออกมาไม่รู้เลือดเราหรือเลือดไก่ (หัวเราะ) แต่ครัวขนมฝึกให้เราเป็นคนละเอียดใจเย็น ทุกอย่างต้องเป๊ะ ออกมาตัวหอมกลิ่นเนย แต่แก้วก็ยังชอบทำอาหารคาว ชอบอยู่ในสมรภูมิ (ยิ้ม)

“หรืออย่างเวลาทำอาหารที่ร้านจะมีเหตุการณ์ให้เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตลอดเวลา เช่น สั่งเนื้อมาเตรียมไว้ตามสั่ง แต่ลูกค้ามาถึงบอกว่าวันนี้แก้บน กินเนื้อไม่ได้ เราก็ต้องคิดและใช้วัตถุดิบอื่นแทน หรือมีลูกค้ามาฉลองวันครบรอบที่ร้าน เราก็เลยเซอร์ไพรส์ทำเค้กวันเกิดเล็กๆ ให้ เขาประทับใจจนร้องไห้ เราเห็นก็หายเหนื่อยเลยค่ะ ดีใจที่ได้เห็นคนกินอาหารของเราแล้วมีความสุขค่ะ”

เห็นฝีไม้ลายมือในการสร้างสรรค์เมนูแสนน่ากินแบบนี้ แต่เชฟแก้วบอกว่าในชีวิตประจำวันกลับชอบทำและกินอาหารง่ายๆ ซึ่งดูขัดแย้งกับภาพความเป็นเชฟของเธออย่างสิ้นเชิง

“เมนูที่ทำกินเองบ่อยที่สุดคือผัดกะเพราค่ะ แต่ของเราต้องใส่ตะไคร้ซอยบางๆ คั่วให้หอม ตำกับพริกกระเทียม และต้องไม่ใส่น้ำมันหอยหรือซีอิ๊ว จะใส่แค่น้ำปลา เกลือ และน้ำตาล ส่วนใหญ่จะทำผัดกะเพราหมูสับ กินคู่กับไข่ดาวทอดกรอบๆ แค่นี้ก็แฮปปี้สุดๆ แล้ว (ยิ้มกว้าง)

 “ส่วนร้านโปรดประจำบ้านเราคือเอ็มเคสุกี้ (อมยิ้ม) เพราะไม่ต้องคิดอะไรมาก ทุกคนมีสูตรของตัวเอง จะต้มอะไรก่อนหลัง สำหรับของหวานจริงๆ แก้วไม่ชอบกินขนมนะ แต่ที่กินได้เยอะคือพวกมูสผลไม้ เช่น มูสสตรอว์เบอร์รี ที่ชอบมากอีกอย่างคือวิปครีมเปล่าๆ เอามาตีแล้วกินเลย คนอื่นเห็นก็จะทำหน้าแบบสงสัยว่ากินทำไม อร่อยเหรอ (หัวเราะเสียงดัง)”

ก็คงเหมือนกับภาพลักษณ์ภายนอกที่คนส่วนใหญ่มองว่าเธอเป็นสาวหวานแสนเรียบร้อย แต่เชฟมากความสามารถคนนี้ยืนยันว่าตัวเธอยังมีอีกหลายมุม ซึ่งหากเปรียบเป็นอาหารคงเป็นเมนูที่ดูธรรมดาหน้าตาเรียบๆ แต่กินเข้าไปแล้วต้อง (อร่อยจน) แปลกใจ

“หลายคนบอกว่าแก้วดูเป็นคนเซนซิทีฟ ร้องไห้ง่าย ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคนที่ชนะเลิศในรายการ แต่เราก็แสดงให้เห็นว่าเราทำได้ และจะยังคงทำอาหารต่อไปเรื่อยๆ ด้วยความสนุกและความสุขแน่นอนค่ะ”

เอื้อเฟื้อสถานที่โดย : ร้าน Le Lapin Bangkok ซอยสุขสวัสดิ์ 30 กรุงเทพฯ โทร. 08-9499-3888

Tag: , Interview, มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์,