หนึ่งในเทศกาลระดับโลกที่เบียร์เลิฟเวอร์ใฝ่ฝันถึงคงหนีไม่พ้นเทศกาล อ็อกโทเบอร์เฟสต์(Oktoberfest) ที่จัดขึ้นที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ในช่วงปลายเดือนกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคม (ปี 2019 นี้จัดระหว่างวันที่ 21 ก.ย.-6ต.ค.) งานนี้ดึงดูดผู้คนมาจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันคือน้ำสีทองอำพันมีพรายฟองระยิบระยับ

หลังจากเราเฝ้าชื่นชมงานเทศกาลเบียร์นี้ผ่านการรีวิวตามเว็บไซด์ต่างๆ บวกกับไปฉลองเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ตามร้านเบียร์เยอรมันในกรุงเทพฯ จนคุ้นเคย ก็ได้โอกาสจับมือเพื่อนรักคอเบียร์มุ่งสู่มิวนิค เมืองหลวงแห่งแคว้นบาวาเรีย เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศจริงสักครั้งในชีวิต


อุ่นเครื่องด้วยเบียร์ที่ขายบนรถไฟระหว่างเข้าเมือง
ยามเช้าที่สถานีมิวนิคเซนทรัลอันกว้างใหญ่นั้นแสนโกลาหล เต็มไปด้วยผู้คนที่มุ่งหน้าไปทำงาน เหล่านักท่องเที่ยวต่างทยอยลงจากรถไฟ พวกเราลากกระเป๋าผ่านกลุ่มโฮมเลสและนักดื่มกลุ่มใหญ่ มุ่งออกจากสถานีไปสูดอากาศเย็นๆ ข้างนอก มองซ้ายขวา มิวนิคดูใหญ่โตมีตึกรามบ้านช่องขนาดใหญ่ โชคดีที่เราจองที่พักไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก เดินเพียง 5 นาทีเราก็ถึงโฮสเทล หลังจากฝากกระเป๋าไว้แล้ว ก็ออกสำรวจเมืองและหามื้อเช้ากิน
ระหว่างทางเข้าเมือง เราตั้งใจเดินผ่าน Thereisienwiese ลานกว้างประจำเมืองที่ใช้จัดเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ เช้านี้ดูเงียบร้างร้านรวงยังไม่เปิด แต่ก็พอจะเดาได้ถึงความสนุกสนานของเทศกาลงานเบียร์ที่เราจะมาสัมผัสในคืนนี้ เราเดินผ่านเพื่อไปที่ Marienplatz จตุรัตมาเรียนพลาส จตุรัตใจกลางเมืองที่มีโบสถ์ ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยว ลานเพลินนี้ผู้คนต่างมารอมาดูตุ๊กตาเต้นระบำบนหอนาฬิกาประจำเมือง พอถึงเวลา 11 โมงตรงตุ๊กตาพร้อมเสียงเพลงก็ออกมาเรียกเสียงชัตเตอร์ของทัวร์ริสได้เป็นทิวแถว

หอนาฬิกาประจำเมือง
อีกที่ในเมืองมิวนิคที่ห้ามพลาดคือ Munich Residenz ราชวังเก่าที่เก็บสมบัติของชาติเอาไว้มากมาย เราซื้อบัตรปราสาทแบบเหมาแบบคู่ราคา 44 ยูโร สามารถเข้าชมปราสาทและราชวังได้หลายที่ในแคว้นบาวาเรียได้ภายใน 14 วัน ว่าแล้วก็ต่อแถวทัวร์ริสชาวจีนเข้าชมความเวอร์วังอลังการของราชวังแห่งนี้

Munich Residenz
เดินดูวังจนขาลากก็ได้เวลาเดินกลับมาใกล้จตุรัตมาเรียนพลาสเราแวะร้าน Paulaner im Tal ร้านเบียร์พอลลาเนอร์ เพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อนที่จะเริ่มเปิดศึกจริงจังในค่ำคืนนี้ เปิดเมนูเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษแล้วจิ้มสั่งขาหมู ไส้กรอก ไก่ย่าง และเบียร์แบบครบสูตร ร้านนี้ตั้งบริเวณแหล่งนักท่องเที่ยวคนจึงมีมาก แต่การบริการก็รวดเร็วและมืออาชีพมากเช่นกัน มื้อนี้อิ่มเอมเปรมปรีกันมาก เดินกลับโฮสเทลเพื่ออาบน้ำและเตรียมตัวเข้าสู่งานจริงที่อ็อกโทเบอร์เฟสต์




เมนูในร้าน Paulaner im Tal
ระยะทางจากโฮสเทลที่พักมาที่งานเบียร์ประมาณกิโลนิดๆ เราถึงกับขอบคุณในใจที่จองโฮสเทลนี้ไว้เพราะมวลมหาประชาชนที่ทยอยออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินนั้นถึงขั้นมหาศาล ปริมาณคนที่มากินเบียร์นั้นเอางานกาชาดบ้านเราคูณสิบได้สบาย เดินไหลตามฝูงชนเข้าไปในงานเราก็ตื่นตาตื่นใจกับแสงสีเสียงของเต้นท์เบียร์ขนาดยักษ์และเครื่องเล่นขนาดใหญ่ แม้จะมาสำรวจดูเมื่อเช้าแล้ว แต่ได้อารมณ์ความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง


บรรยากาศก่อนพระอาทิตย์ตกดิน
หลังจากตั้งสติได้ สิ่งแรกที่ทำคือพยายามเข้าไปในเต้นท์เบียร์เจ้าดัง แม้จะเรียกว่าเต้นท์แต่ดูแล้วเป็นเหมือนอาคารขนาดใหญ่มหึมามากกว่า เราถูกต้อนรับด้วยฝูงชนล้นหลามแออัดกันอยู่ในเต้นท์ส่งเสียงดังเซ็งแซ่ พนักงานสาวทรงโตในชุดพื้นเมืองวิ่งวุ่นเสิร์ฟเบียร์แก้วยักษ์ เบียร์เลิฟเวอร์ยืนออกันอยู่หน้าประตูเต้นท์ต่อคิวรอเช่นเดียวกับเรา อาจเป็นเพราะเป็นช่วงหัวค่ำคนจะมากเป็นพิเศษ

คิวหน้าเต้นท์เบียร์





บรรยากาศหน้าเต้นท์เบียร์ต่างๆ
เราลองเดินเข้าเต้นท์โน้นออกเต้นท์นี้เพื่อสำรวจบรรยากาศ คนที่มาร่วมงานเบียร์นี้กว่า 90% ใส่ชุดพื้นเมือง ผู้ชายนุ่งกางเกงขาสั้นมีสายเอี๊ยม ใส่เสื้อเชิ้ตลายตาราง ใส่หมวก ส่วนผู้หญิงเป็นชุดกระโปรงสั้งบ้างยาวบ้าง คอเสื้อดีไซน์กว้างเว้าเผยให้เห็นเนินอกตูมๆ เป็นที่น่ามองยิ่งนัก มากกว่าความอิจฉาแต่เป็นความรู้สึกประทับใจที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวพร้อมใจกันใส่ชุดประจำชาติออกมาร่วมเทศกาลเบียร์กันอย่างพร้อมเพรียง

ชุดประจำชาติ มีขายและเช่า

หนุ่มเยอรมันในชุดประจำชาติ
นอกจากเต้นท์เบียร์แล้ว ยังมีร้านขายอาหารที่มีโต๊ะสูงให้ยืนกินได้สะดวก ขายอาหารอย่างไก่ย่าง ปลาแมคคอเรลย่าง (คล้ายปลาซาบะ) เพรสเซล ถั่วอบ ขนมคุกกี้ ฯลฯ มีเครื่องเล่นหวาดเสียวแบบเดียวกับสวนสนุก สร้างบรรยากาศครึ้นเครงให้กับเฟสติเวลนี้

ปลาย่างร้อนๆ

ปลาแมคเคอเรลย่าง

ร้านขายของที่ระลึกประจำเทศกาล

คุกกี้ประจำงาน

ถั่วอบของกินเล่นที่มีขายทั่วไปบริเวณงาน

บรรยากาศความสนุก

เครื่องเล่นหวาดเสียวในงาน

รถไฟเหาะ

รถ BMW ไต่ถัง

บ้านผีสิงฝรั่ง
เดินจนคอแห้งก็ยังหาที่นั่งในเต้นท์ไม่ได้ จึงตัดสินใจนั่งโต๊ะเอาท์ดอร์นอกเต้นท์ เรารีบจับจองม้านั่งยาวสักพักสาวเสิร์ฟเจ้าถิ่นยื่นเมนูภาษาอังกฤษมาให้ หลังจากสั่งเบียร์คนละแก้ว ไส้กรอกเยอรมันและไก่ชุบเกล็ดขนมปังทอด สั่งปุ๊บจ่ายเงินสดให้สาวเสิร์ฟทันที

เบียร์แก้วยักษ์

กับแกล้มคู่เบียร์
แล้วเราก็ได้จิบเบียร์ประจำเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์อย่างเป็นทางการ แก้วเบียร์มีขนาดเดียวคือความจุ 1 ลิตร เมื่อเทเบียร์เต็มแก้วมีน้ำหนักมากต้องใช้สองมือประคองยกแก้วขึ้นดื่มเลยทีเดียว น่าทึ่งในความสามารถของสาวเสิร์ฟที่สามารถยกมาหลายแก้วพร้อมกันในมือเดียวได้ หลังจากเสิร์ฟเบียร์แล้วสาวเสิร์ฟยิ้มแล้วชี้ไปที่หมวกมีกิ๊บตัวเล็กๆ ติดข้อความว่า “tip me please” เราให้ทิปไปอย่างสมน้ำสมเนื้อแล้วก็ไม่ต้องเสียดายเพราะหลังจากนั้นเธอจะมาบริการเราอย่างดี

แก้วใหญ่มาก
อากาศปลายเดือนกันยายนยังถือว่าหนาวเย็นสำหรับคนเมืองร้อนอย่างเรา ยิ่งดึกก็ยิ่งหนาวทำให้เบียร์ที่มาเสิร์ฟนั้นเย็นอยู่ตลอดเวลา ดื่มแล้วรับรู้ถึงความสดหวานของเบียร์ประจำเทศกาลที่ทำสดใหม่อร่อยสุดๆ คอเบียร์คงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี พอแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ก็เริ่มสนุกยิ่งคุยยิ่งเสียงดัง นั่งมองไปรอบๆ ดูแล้วเป็นคนท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ โต๊ะใหญ่ข้างหลังเราเป็นกลุ่มหนุ่มสาวชาวเยอรมันเจ้าถิ่นเข้ามาขอชนแก้วพร้อมบอกว่าพวกเขาทายว่ากลุ่มเราเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศอะไร พอได้รับคำตอบว่า “THAILAND” พร้อมกับยิ้มสยามสวยๆ หนุ่มหล่อในกลุ่มถึงกับเฮลั่นเพราะเขาทายถูก แล้วการชนแก้วพร้อมแนะนำตัวก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อเริ่มสนุกเบียร์แก้วยักษ์ก็พร่องลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างมีน้ำใจเทเบียร์จากแก้วตัวเองแบ่งปันให้เพื่อนกันอย่างสนุกสนาน

หนุ่มสาวชาวเยอรมันมาดื่มเบียร์หลังเลิกงาน

แล้วมิตรภาพไร้พรมได้ก็เกิดขึ้นได้เพราะแก้วเบียร์!
Tag:
, อาหารเยอรมัน, เบียร์,
ความคิดเห็น