ร้านอาหารจีนแห่งนี้ได้ดาวมาประดับฟ้า 3 ดวง ซึ่งถือเป็นขั้นเทพของนักชิม เราเลือกชุดอาหารสำหรับ 8 ที่ สนนราคาก็ถือว่าไม่แพงมากสำหรับร้าน 3 ดาว รายการแรกเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยคือหอยเชลล์ (Scallop) ห่อแป้งที่ทอดแล้วจะมีบางส่วนหลุดออกไป เหลือใยเป็นฝอยสวยงาม เราเคยไปหัดทำที่ครัวจีนโรงแรมแกรนด์ไชน่า เยาวราช พอทำได้แต่ก็นับว่าไม่ง่ายนัก รสชาติของจานนี้แค่พอผ่าน
จานที่ 2 เป็นทีเด็ดของที่นี่ เนื้อปูชุบเกล็ดขนมปังทอด เนื้อปูอัดแน่นในกระดองคล้ายปูจ๋า แต่จานนี้เป็นเนื้อปูล้วนๆ ปรุงรสอ่อนๆ ด้วยเกลือ พริกไทย หอมหัวใหญ่ และซอสจีน นำไปอบให้หอมก่อนแล้วชุบเกล็ดขนมปังทอดให้กรอบ เมนูนี้จัดว่าอร่อยและคุณภาพคับกระดอง แต่มีที่ติคือปูสดก็จริงแต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ คิดถึงปูกระป๋องตรา Sea Munch ที่สดสุดๆ ทุกครั้งที่กิน และถ้าเจอรากผักชี พริกไทย กระเทียม เมนูนี้จะสุดยอด
ต่อมาเป็นซุปรังนก เคยตั้งใจว่าจะไม่กิน แต่ไหนๆ ก็มาเสิร์ฟแล้วก็กินเสียหน่อย แต่ถ้าเป็นหูฉลามจะมังสวิรัติอย่างแน่นอน ซุปรังนกตุ๋นกับหอยเชลล์และเอ็นหอย (Conpoy) น้ำซุปสีส้มอ่อนๆ รสเปรี้ยวนิดๆ รสชาติกลมกล่อมดี เข้ากันได้ดีกับหอยเชลล์ตุ๋น แต่กินแล้วคิดถึงรังนกที่เตี่ยเหลือติดก้นถ้วยให้กินตอนเด็กๆ หวานอ่อนๆ ลื่นเป็นวุ้นๆ เราชอบแบบนั้นมากกว่า
ตามติดมาด้วยปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว ปลาตัวไม่โตแต่สดมาก สงสัยว่าจะพลีชีพก่อนจะถูกนึ่งนี้เอง ซีอิ๊วที่ราดปลารสอ่อนๆ แต่อาศัยหอมซอยที่โรยมาและปลาสดมากทำให้ไม่คาวเลย
แล้วก็มาถึงกุ้งผัดในตะกร้าเผือก กุ้งสดและเนื้อหวานอร่อยมาก มีเนื้อหอยสังข์ตัวใหญ่แล่เป็นแผ่น และก้านหน่อไม้ฝรั่งที่สด อ่อน ไม่มีเสี้ยนเลย จานนี้ผัดมาแห้งๆ น้ำสต๊อกที่ผัดกุ้งใส่แป้งให้ข้นจนเคลือบเนื้อกุ้งมาบางๆ เมนูนี้ให้คะแนนที่รสกุ้งอร่อย เนื้อหอยสังข์แผ่นใหญ่ และหน่อไม้ผัดมากรอบหวาน
จานต่อมาเป็นหอยอะบาโลนกับปลิงทะเลตุ๋นน้ำแดง หอยตัวย่อมๆ กับปลิงทะเลน้ำขลุกขลิก ปลิงทะเลมีหนามแหลมๆ คุณภาพดีสุดๆ เนื้อหนา สด ใส เคี้ยวแล้วหนึบๆ เป็นปลิงทะเลที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกิน หอยตัวย่อมๆ แต่น้ำแดงรสชาติอ่อนไปหน่อยสำหรับคอคนไทยที่เคยชินกับน้ำแดงแบบแต้จิ๋วในเมืองไทย
ส่วนเมนูไก่อบเกลือก็อร่อย ที่น่าประทับใจคือหนังไก่บางกรอบชนิดที่ไขมันถูกขจัดไปหมดเหลือแต่คอลลาเจน ข้าวผัดของที่นี่ผัดด้วยซีอิ๊วดำ สีจึงเข้มหน่อย เครื่องปรุงหั่นชิ้นเล็กๆ ทำให้เข้ากันดีกับเมล็ดข้าว กุ้ง และเป็ด มีรสชาติในตัวเอง เป็นข้าวผัดที่อร่อย แต่มีคนบอกว่าถ้าได้น้ำปลาพริกสักถ้วยจะหลงรักเชฟ
ของหวานปิดท้ายคือเต้าฮวยนมอัลมอนด์ใส่ไข่ขาวกับแป้งอบไส้ถั่วแดงที่ปั้นมาเป็นลูกสาลี่จิ๋วๆ น่าเอ็นดู และวุ้นเม็ดเก๋ากี้ หรือเรียกให้อินเตอร์ว่าโกจิเบอร์รี นมอัลมอนด์รสนุ่มหวานกำลังดี กลิ่นอัลมอนด์ค่อนข้างจะแรงแต่เรากินได้สบาย ส่วนวุ้นอร่อยผ่านมาตรฐาน ส่วนแป้งอบนั้นรสอ่อนเพื่อไม่ให้ขัดกับไส้ถั่วแดง แต่ก็กรุบกรอบแบบมีความพิเศษในตัวของตัวเอง
ครบเซ็ต 8 อย่างแล้ว แต่ต้องขอแถมอีกอย่างที่สั่งมานอกชุดคือเนื้อวากิวญี่ปุ่นผัด จานนี้ผัดอย่าง stir fried เชฟหั่นเนื้อขนาดเต๋าใหญ่แต่บาง เนื้อนุ่มระดับ A5 ผัดกับซีอิ๊วจีน และแอบมีรสวาซาบิแทรก ต้นหอม หอมหัวใหญ่ซอย มาเสริมกลิ่นรสอย่างกลมกล่อม พอเคี้ยวคำแรกก็เคลิ้มเลย รสชาติไม่มีที่ติ ทั้งหมดทั้งมวลยกให้จานนี้ได้เหรียญทองไปครอง
จบทุกเมนูด้วยความรู้สึกแรกเลยคืออิ่มมาก กระเป๋าสตางค์อาจเบาโหวงไปบ้าง แต่ท้องก็อิ่ม ใจก็เอิบ ถือว่าคุ้มราคา อย่างที่บอกไว้ว่าเป็นเมนูที่ปรุงแบบกวางตุ้งเลย อาจทำให้แต้จิ๋วไทยแลนด์อย่างเราเซ็งๆ กับบางเมนู...
แต่ในความพิถีพิถันของอาหารนั้นหากจะให้เคี่ยวให้ไกลกว่านี้ก็คงยากอยู่ไม่น้อย
Tag:
, World Food, มิชลินสตาร์, อาหารจีน,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น