From 'Garosu-gil' to 'Noryangjin' อาหารรสมือแม่และปลาหมึกดิบ

วันที่ 8 สิงหาคม 2560  5,182 Views

ควันหลงทริปย่ำต๊อกในกรุงโซลต้นเดือนมีนาคม ขณะกรุงเทพฯ อุณหภูมิกำลังร้อนแรง แต่โซลช่วงนั้นคุมโทนความหนาวและเหงานิดๆ แต่หญิงใหญ่ก็ยังมีแรงเดินฝ่าลมจนโค้ทปลิวเพื่อความอยู่รอดของปากท้อง            

ด้วยความที่ตระเวนกินสตรีทฟู้ดอยู่หลายวัน โดยเฉพาะเครันปัง หรือเจ้าขนมปังไข่ที่กินไปเรื่อยจนซึ้งแล้วว่ามีเจ้าอร่อยกว่าแถวมยองดงมากมาย แถมราคาถูกกว่าเยอะ (น้ำตาจะไหล)  

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

หญิงใหญ่และเพื่อนสาวผู้เบื่อแผงอาหารข้างทาง เลยควงกันไปเดินย่านเก๋ๆ สักวัน นั่นคือ คาโรซู-กิล (Garosu-gil) ถนนสายอาร์ตชื่อดังของกรุงโซลที่มีต้นแปะก๊วยเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง ที่นี่มีคาเฟ่ดังหลายร้าน โดยเฉพาะ  Dore-Dore คาเฟ่สีชมพูหวานแหวว (เค้กในร้านก็แหวว) ยิ่งตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าทำให้ดูเหมือนเป็นย่านสีพาสเทลไปโดยปริยาย

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

แต่จุดหมายในครั้งนี้อยู่ที่ร้าน 엄마손맛집 (ออมม่าซนมัทจิบ)  ร้านอาหารโลคอลที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความฮิป พิกัดหาง่ายมากลงสถานี Sinsa เริ่มเดินจาก J Tower ตรงขึ้นมาให้เกือบสุดปลายถนน (สังเกต A Land เข้าไว้) ร้านจะอยู่ในตรอกเล็กๆ ด้านขวามือ เดินตรงเข้ามาไม่ไกล ร้านอยู่ฝั่งซ้ายมือพอดี

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

ชื่อร้านนี้แปลว่ารสมือแม่ แว่บแรกที่เห็นให้ความรู้สึกเหมือนร้านโบราณตามซีรีส์ ซึ่งเก๋มากเมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้ง เลื่อนประตูเข้าไปก็เจอกับเจ้าของร้านท่าทางใจดี จัดแจงให้นั่งพักให้คลายหนาว (พื้นอุ่นมากด้วยอิทธิฤทธิ์ฮีตเตอร์) เราสื่อสารด้วยภาษามือและสั่งอาหารผ่านรูปภาพ เมนูของร้านมีไม่มากแต่หน้าตาใช้ได้แถมราคาเป็นมิตร อย่างเมนูปลาหมึกผัดซอสเผ็ดกับซุปเต้าหู้กิมจิที่สั่งไป ราคาอยู่ที่ราวๆ จานละ 7,000 วอน เสิร์ฟมาพร้อมข้าวสวยและเครื่องเคียง 8 อย่าง ซึ่งไม่ใช่เครื่องเคียงขนาดจุ๋มจิ๋มคีบ 2 ทีหมด แต่มาแบบจริงจังประดุจเป็น 1 ในกับข้าว (คุณพระช่วย)

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

ปลาหมึกผัดของคุณป้าเจ้าของร้านมาแบบชิ้นใหญ่ ผัดกับซอสพริกเกาหลี ใส่หอมใหญ่ พริกสด รสเผ็ดนำแล้วตามด้วยรสหวาน ปลาหมึกก็เหนียวสู้ฟันของอิฉันมาก ซดซุปกิมจิร้อนๆ ตามลงไปให้คล่องคอ แล้วบรรจงชิมเครื่องเคียงอย่างสบายอารมณ์ กิมจิเสิร์ฟ 4 แบบ แต่ที่ประทับใจขอยกให้กิมจิจานใหญ่ ลองแหวกดูถึงรู้ว่าเป็นกิมจิผัดปลาแมคเคอแรล (ขอเรียกให้ไทยหน่อยว่ากิมจิผัดปลากระป๋อง) จานนี้ทั้งเผ็ดทั้งเปรี้ยว มีรสเค็มจากปลา อร่อยแบบกินกับข้าวสวยได้ (อ้าว) ยังมีแพนเค้กเกาหลี ซุปสาหร่าย ปลาตัวเล็กคั่วกับน้ำตาลเหนียวๆ ตอนแรกแอบคิดว่าต้องมีขอเติมเครื่องเคียง แต่เอาเข้าจริงคืออิ่มแปล้จนท้องกาง เสียเงินไปแค่คนละ 200 บาทโดยประมาณ

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

ภารกิจเรื่องปากท้องยังไม่จบ เพราะเรามุ่งมั่นเหลือเกินกับมื้อเย็นที่นอร์ยางจิน (Noryangjin Fisheries Wholesale Market) ตลาดขายปลาและของทะเลที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโซล (ตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้อยู่ที่เมืองปูซาน) ยอมรับตามตรงว่า ก่อนมาเรามีภาพตลาดสึกิจิของญี่ปุ่นฝังอยู่ในหัว เลยอยากสัมผัสตลาดปลาที่เกาหลีดูสักครั้ง

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

วิธีไปตลาดปลานอร์ยางจินไม่ยาก ลงสถานี Noryangjin แล้วเดินข้ามสะพานลอยแป๊บเดียว ที่นี่สร้างความตื่นเต้นให้สาวไทยได้พอดู ด้วยความใหญ่โตของอาคารหลังใหม่และขนาดของกุ้งหอยปูปลาที่ ใหญ่จนสะดุ้งไปหลายรอบ ด้านในสะอาดเป็นระเบียบ สายรับประทานสามารถซื้อของสดจากร้านด้านล่างแล้วถือขึ้นไปให้ร้านบนชั้น 2 ปรุงได้ จุดนี้หญิงใหญ่แอบคิดถึงบรรยากาศตลาดริมหาดราไวย์ที่ภูเก็ตบ้านเราขึ้นมาเหมือนกัน

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

เดินข้างล่างพอเป็นพิธีก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาสำรวจชั้นบน มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน ทั้งแบบบ้านๆ และดูหรูหราหน่อย บางร้านดูป๊อปมากสังเกตจากลายเซ็นคนดัง (มีร้านนึงลายเซ็นดาราไทยโชว์หรา) เราเลือกเข้าร้านที่ค่อนข้างดูดีข้างๆ ร้านสุดป๊อป บอกคุณป้าว่าอยากกินปลาหมึกดิบที่หนวดยังดิ้นได้แบบในซี่รีส์ พ่วงด้วยสลัดปลาดิบ และซุปปลา (เราเลือกแบบต้มกระดูกปลาแทนเนื้อปลาเพียวๆ เพราะคุณป้าบรรยายไว้ว่าต้มแล้วจะนัวกว่า)

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

รอไม่นานจานแรกก็ยกมาเสิร์ฟ ปลาหมึกดิบแบบดิ้นได้คลุกน้ำมันงา หรือ ซันนักจี คุณป้าเสิร์ฟจานใหญ่มาก แม้จะเป็นการลองกินซันนักจีครั้งแรกแต่เราก็ศึกษามาแล้วว่าต้องเคี้ยวให้ดีเพื่อความปลอดภัย สัมผัสแรกที่คีบเข้าปากไปสับสนพอสมควร ข้อแรก ด้วยความสดจึงไม่ได้รู้สึกเหม็นคาว จากนั้นตามมาด้วยความจั๊กจี๋ เพราะหนวดหมึกดิ้นดุ๊บๆ พัวพันอยู่ในปาก จนต้องรีบเคี้ยวสกัดให้หมดฤทธิ์ พอเริ่มชินก็สบาย คีบสลับกับเครื่องเคียงทั้งเต้าหู้เย็น กิมจิ ฯลฯ รสชาติพอไหว (แต่คงไม่สั่งแล้ว เคี้ยวเหนื่อยเหลือเกิน)

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

From 'Garosu-gil'  to 'Noryangjin'

สลัดปลาดิบอร่อยดี แซลมอนและทูน่าหั่นเต๋า โปะด้วยสารพัดผัก สาหร่าย โรยงา น้ำสลัดเป็นน้ำมันงาใส่เกลือ ส่วนซุปกระดูกปลาของคุณป้านั้น แม้ในหม้อจะมีแค่หัวปลา กระดูกปลา และผักไม่กี่อย่าง แต่รสชาติชนะขาด ค่อยๆ ต้มจนเครื่องในหม้อเดือดปุด รสชาติเผ็ดและเค็ม หอมกลิ่นปลา ซดซุปคำนึง ตักข้าวเปล่าตามไปอีกคำ โอ้ สวรรค์ มื้อนี้จ่ายไปคนละ 1,000 บาทโดยประมาณ คุ้มไหม หญิงใหญ่ว่าไม่ถึงขนาดนั้น แต่พอคิดว่าเป็นการซื้อประสบการณ์ก็นับว่าโอเค

เย็นนั้นหญิงใหญ่สวมเสื้อโค้ทที่มีกลิ่นทะเลๆ นั่งรถใต้ดินกลับที่พักแถวมยองดงแบบสบายใจ คิดไปว่าวันนี้เรารอดจากสตรีทฟู้ดแล้ว จนกระทั่ง 3 ทุ่มก็เกิดอาการไส้กิ่ว...

สุดท้ายได้เดินออกไปซื้อเครันปัง ราคา 2,000 วอนที่มยองดงอยู่ดี     


Tag: , ท่องเที่ยว, อาหารเกาหลี,

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed