สังเกตไหมว่าเรื่องราวรอบๆ ตัวเราไม่หยุดนิ่งเลยสักครั้ง ทุกอย่างมักเกิดขึ้น ดับไป และเกิดขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วเสมอ บ่อยๆ เข้าจนเรารู้สึกว่าความหวือหวาที่เข้ามากระทบใจ สุดท้ายจะหายไปในช่วงเวลาสั้นๆ มีเพียงแต่ความทรงจำเท่านั้น ที่ยังย้ำถึงสถานะการคงอยู่ของสิ่งๆ หนึ่งที่เคยมี
บ้านบางเขน คืออีกหนึ่งสถานที่ชวนให้รู้สึกถึงอดีตอันหอมหวาน ชวนให้เรานึกถึงความอบอุ่นในวัยเด็ก นึกถึงเนื้อเพลงรักเชยๆ แต่โคตรกินใจเลยในเทปม้วนนั้น นึกถึงข้าวของเครื่องใช้ที่เดี๋ยวนี้หาซื้อแทบไม่ได้แล้ว นึกถึงเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดของคุณแม่ รถคันเก่าของคุณปู่ หรือขนมกรุบกรอบที่พกสตางค์ 5 บาทก็ได้กินแบบเต็มห่อจนอิ่มแปล้ แต่รู้อะไรไหม.. เราไม่ต้องเอาแต่นึกถึงอีกแล้ว เพราะเราสามารถมาย้อนเวลาและความทรงจำกันได้ที่นี่ แถมได้ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
บ้านบางเขนเป็นแหล่งรวบรวมของเก่าซึ่งมีอายุมากที่สุดถึง 123 ปี เจ้าของคือคุณกล้วย สมพงษ์ พิศาลกิจวนิช ผู้ชื่นชอบการสะสมของเก่าและใช้เวลานานกว่า 10 ปี ในการเก็บหอมรอมริบก่อนนำมาเผยแพร่ให้ทุกคนได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตแทนที่จะเก็บไว้ดูคนเดียว
ที่นี่มีไฮไลต์ให้เข้าชมอยู่หลายโซนด้วยกัน ใครที่ชอบของวินเทจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเราว่าเดินเพลินๆ ได้ทั้งวัน จุดแรกเราแนะนำให้เดินโซนในสุดก่อน เสียค่าเข้าชม 20 บาท (นำคูปองไปแลกน้ำหรือเป็นส่วนลดอาหารและเครื่องดื่มในคาเฟ่ก็ได้) ข้างในจะเจอกับอาคารไม้จำลองวิถีชุมชนสมัยก่อน ซึ่งแบ่งห้องออกเป็นหมวดหมู่ชัดเจนตามลักษณะของสะสมตั้งแต่ยุค 60 อาทิ ห้องเรียน ร้านขายยา ร้านค้าโชห่วย ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเสริมสวย หรือร้านนาฬิกาและเครื่องครัวโบราณ ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยเช่น ยี่ห้อ ความหายาก หรือความสมบูรณ์ของสิ่งของแต่ละชิ้นดูแล้วไม่ธรรมดาเลย เราเซอร์ไพรส์กับการหามาและเก็บรักษาของคุณกล้วยมากๆ
โซนต่อมาคือ ห้องสมุด เราปลื้มโซนนี้สุดๆ เพราะนอกจากห้องแอร์เย็นฉ่ำไว้หลบร้อนจากสภาพอากาศบ้านเราแล้ว ยังดูสะอาดและแบ่งพื้นที่ใช้งานได้คุ้มค่าทุกมุม จะพกโน๊ตบุคมาก็ดี หรือหนังสือเล่มโปรดสักเล่มก็เหมาะเหม็ง ที่สำคัญ "ไม่ต้องแมรี่มีก็ฟรีไวไฟและปลั๊กไฟ" นะจ๊ะ นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงได้รับความนิยมจากนักศึกษาละแวกนี้
ต่อมาคือโซน คาเฟ่ ชวนสะดุดตาตั้งแต่การตกแต่งสไตล์เรโทร จำลองบรรยากาศในวันวาน ดูกลางเก่ากลางใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว มีมอเตอร์ไซค์รุ่นคุณพ่อตอนยังหนุ่ม ที่เติมน้ำมันสีพาสเทล ป้ายไฟนีออน ฯลฯ รวมถึงการเพ้นท์ผนังเรียกความทรงจำในอดีตให้สมจริงมากขึ้น ส่วนอาหารและเครื่องดื่มเน้นเมนูเบาๆ กินง่ายประเภทแซนด์วิช กาแฟ เค้ก โทสต์ บิงซู(ก็มี) ฯลฯ ให้เราสั่งมารองท้องก่อนเที่ยวเล่นต่อ
แต่! ถ้าใครยังอิ่มไม่หนำใจ ให้เดินตรงมาอีกหน่อยจะเห็น ฟู้ดคอร์ท อาคารไม้ย้อนยุคเข้าธีม ขายอาหารไทยในราคาไม่แพง ซึ่งคุณกล้วยเลือกมาแล้วว่ารสชาติดีงามถูกปาก บางร้านอยู่ต่างจังหวัดก็ชักชวนมาให้เราได้อร่อยกันถึงที่ แล้วแต่ละร้านก็มีทีเด็ดชวนท้องร้องต่างกันทั้งเบื้องญวนโบราณ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ปังหยายายนงค์ ข้าวแกงปักษ์ใต้เมืองคอน ผัดไทยชุมแสงนครสวรรค์ ส้มตำไก่ย่าง ก๋วยเตี๋ยวหลอด มหานครชาชัก ฯลฯ ให้เลือกกินกันจนพุงกาง
จากนั้นให้เดินย้อนกลับมาใกล้กับทางเข้า ผ่านลานกิจกรรม ผ่านห้องแถววินเทจ จะเจอกับพิพิธภัณฑ์โค้ก ในนี้มีผลิตภัณฑ์โค้กมากมายหลากหลายบรรจุภัณฑ์ อาทิ โค้กขวดแก้วใบแรกที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาปี 1894 ตู้โค้กหยอดเหรียญรุ่นแรก Coca Cola Swarovski Limited Edition และอื่นๆ อีกเพียบ จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับโค้กที่น่าสนใจอีกแห่งในเอเชียก็ว่าได้ แถมคุณกล้วยยังใจดี นำของบางชิ้นมาแบ่งขายในโซน จำหน่ายของที่ระลึก ให้ซื้อเก็บหรือจะซื้อไปฝากใครก็เก๋ไม่หยอก
ฝั่งตรงข้ามเป็น “บ้านพ่อหลวง” จัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง ร.9 อาทิ แสตมป์ เหรียญ ธนบัตร รูปหล่อ พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบรมฉายาลักษณ์ และเครื่องเบญจรงค์ ฯลฯ ใครที่พกกล้องไปอย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกนะ
บ้านบางเขน ตรงข้ามราบ11 ติดกับร้านอาหารบัว
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม www.facebook.com/baanbangkhen
โทร. 08-5921-6666
เปิดตั้งแต่ 08.00 น. เป็นต้นไป
Tag:
, ท่องเที่ยว, บ้านบางเขน,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น