ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

วันที่ 20 พฤษภาคม 2562  6,056 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 226 เดือนพฤษภาคม 2562

คงต้องแอบสารภาพว่าทริปครั้งนี้เราได้แรงบันดาลใจจากคอนเซ็ปต์และการตกแต่งของโรงแรม Hotel Indigo Phuket Patong ที่บอกเล่าให้ฟังว่าภูเก็ตไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวยเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยสีสันและวิถีชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านชาวประมง อาหารทะเล สตรีทฟู้ด เครื่องดื่ม มวยไทย และแสงไฟในยามค่ำคืน

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

ราไวย์ในความทรงจำ

เมื่อเอ่ยถึงหมู่บ้านชาวประมง ชื่อของ “หาดราไวย์” ก็เข้ามาอยู่ในใจเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก อีกทั้งยังเป็นแหล่งของซีฟู้ดอร่อยๆให้พูดถึงกันปากต่อปาก

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

หาดราไวย์เป็นหาดที่มีความกว้างเป็นอันดับสองรองจากหาดป่าตอง โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตราวๆ 16.5 กิโลเมตร แม้จะเป็นหาดที่ขึ้นชื่อเรื่องความกว้างขวาง แต่เนื่องจากทรายบนหาดเม็ดค่อนข้างใหญ่ไม่ละเอียด อีกทั้งยังมีสีค่อนข้างเข้ม ทำให้หาดราไวย์ไม่ได้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่เล่นน้ำทะเลยอดนิยมเหมือนกับหาดชื่อดัง

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

แต่ใช่ว่าหาดราไวย์จะไม่คึกคัก เพราะบริเวณนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวเล (มอร์แกน) และเป็นแหล่งจับปลาที่สำคัญ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นเรือประมงจอดลอยลำอยู่เรียงรายให้เราได้ถ่ายรูปเล่นอย่างสนุก อีกทั้งที่นี่ยังเป็นจุดขึ้นเรือของนักท่องเที่ยวเพื่อไปยังเกาะต่างๆ ทั้งในภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้หาดราไวย์เปรียบเสมือนจุดแวะพักของนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับร้านอาหารซีฟู้ดที่ทยอยเปิดตัวต้อนรับการเติบโตที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีให้หลัง ซึ่งถ้าถามคนในพื้นที่คงต้องยอมรับว่าที่นี่ได้เปลี่ยนโฉมไปมากเลยทีเดียว

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

ตอนนี้ทั้งสองฝั่งถนนได้ถูกจับจองด้วยแผงของร้านค้าและร้านอาหารซีฟู้ด ถ้าใครอยากเห็นซีฟู้ดสดๆ หน้าตาแปลกๆ ขอบอกว่าการแวะชะโงกเข้าแต่ละร้านรับรองไม่มีผิดหวัง เพราะเราจะได้เห็นหอยนางรมสดๆ ที่ถูกเทออกมาจากถุง ก่อนที่เหล่าคุณลุงคุณป้าจะหยิบมีดสั้นมาคนละเล่มล้างและทำความสะอาดก่อนขาย ร่วมด้วยกั้งหลากสีสันที่แหวกว่ายน้ำทักทายราวกับกำลังบอกว่าให้เลือกฉันเถอะ (ฮา!)แถมยังพรั่งพร้อมด้วยปลาหลากหลายชนิด (หน้าตาแปลกๆ) จนเลือกไม่ถูก และที่ห้ามพลาดก็คงไม่พ้นล็อบสเตอร์ภูเก็ตของถูกและดีของที่นี่

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

วิถีชีวิตชาวเล

แม้จะบอกว่าหน้าตาของหาดราไวย์จะเปลี่ยนไปจากเดิมอยู่มาก แต่ถึงกระนั้นเรายังคงได้เห็นภาพวิถีชีวิตของชาวมอร์แกนที่ยังดำรงตนและอาศัยอยู่ในบริเวณนี้อย่างเรียบง่าย ภาพของเด็กวิ่งเล่นว่ายน้ำ ภาพของเรือประมงที่เข้าและออกจากฝั่ง ภาพชาวประมงกำลังตกปลา เรื่อยไปจนถึงรอยยิ้มต้อนรับยังคงมีให้เห็นเหมือนเคย

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

อย่างในวันนี้ก็ได้เห็นคุณลุงขนปลาเป็นๆ ออกจากเรือ ว่ายน้ำขึ้นฝั่ง ก่อนจะโยนใส่ตะกร้าหน้ามอเตอร์ไซค์แล้วแว้นหายลับไปหลังหมู่บ้าน แถมยังโชคดีได้เจอกับคุณพี่ชาวเลตัวจริงเสียงจริงที่กำลังนั่งถักลอบดักปลาหมึก (หรือที่ชาวภูเก็ตเรียกว่าหยองดักปู) ด้วยความเร็วสูง ที่ต้องบอกว่าโชคดี เพราะลอบที่ใช้จับปลาเหล่านี้จะถูกเก็บกู้ขึ้นมาจากทะเลเพื่อทำความสะอาดและตรวจเช็กเมื่อครบกำหนด 15-20 วัน ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงครบรอบพอดิบพอดี

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

คุณพี่ใจดีเล่าให้ฟังต่อว่าตาข่ายที่ถักอยู่ต้องทำให้มีความกว้างเล็กน้อยให้ปลาหมึกขนาดเล็กสามารถว่ายน้ำหนีออกไปได้ ซึ่งลอบที่ใช้วางจะเปิดประตูไว้ข้างหนึ่ง (เรียกว่างา) ให้ปลาเข้า บริเวณที่ใช้วางลอบนั้นจะอยู่ในน้ำลึกไม่ไกลจากบริเวณชายฝั่ง ส่วนใหญ่พี่ๆ ชาวประมงจะดำน้ำลงไปวางในช่วงเช้ามืด ก่อนจะใช้เวลาแทบทั้งวันวางจนกว่าจะเสร็จ จากนั้นก็สามารถเก็บกู้ลอบจับปลาหมึกขึ้นเรือได้ทุกวัน ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าข้างลอบรูปทรงกระบอกครึ่งซีกนั้นจะมีช่องประตูเล็กๆ ปิดเปิดได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เอามือล้วงเข้าไปหยิบปลาหมึกได้อย่างสะดวกนั่นเอง

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

ค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

หลังจากเดินจนสุดหาดราไวย์และแวะชิมซีฟู้ดไปนิดหน่อย เราก็มุ่งหน้าต่อไปยัง Chalong Bay Distillery & Bar ที่เราขอบอกว่าใกล้จากหาดราไวย์แค่นิดเดียว

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

สำหรับนักดื่มเชื่อว่าคงจะเคยได้ยินชื่อของ “รัมฉลองเบย์” (Chalong Bay Rum) กันมาบ้าง และหากใครยังไม่รู้เราก็ขอบอกว่ารัมแบรนด์นี้ได้เปิดบาร์เป็นของตัวเองให้นักท่องเที่ยวและคนที่สนใจได้ศึกษาและพาทัวร์ชมวิธีการผลิตทุกวันเป็นรอบๆ ตั้งแต่ 14.00-18.00 น. ในราคา 450 บาท แถมยังมีเวิร์กชอปทำค็อกเทลให้ได้สนุกกันอีกด้วย

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

จุดเด่นของรัมฉลองเบย์คงต้องยกให้กับวัตถุดิบที่ทำมาจากน้ำอ้อยออร์แกนิกของไทยทั้งหมด จนได้รสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ร่วมด้วยรสชาติใหม่ๆ ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นมา หากแต่ยังเป็นรสชาติแบบไทยๆ ที่ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ โหระพา (ขึ้นจมูกมากๆ) อบเชย มะกรูด และมะนาว ที่ได้ลองเป็น Island Sour ที่มีส่วนผสมของรัมฉลองเบย์ ช็อกโกแลตบิทเทอร์ (เหล้าช็อกโกแลต) ไข่ขาว น้ำมะนาว และกลิ่นพริกแดงอีกเล็กน้อย

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

ลัดเลาะริมหาดราไวย์ ก่อนแวะชิมค็อกเทลของดีอ่าวฉลอง

รสชาติจะเผ็ดร้อนแค่ไหนนั้น ต้องมาพิสูจน์กัน


Tag: , ท่องเที่ยว, ภูเก็ต, หาดราไวย์,

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed