เมื่อความเบื่อหน่ายในเมืองหลวงเริ่มซึมแทรกเข้าสู่หัวใจ เราจึงอยากผละตัวจากชีวิตเร่งรีบ และควันพิษของรถรา แล้วพาตัวเองเข้าสู่โหมดสงบนิ่ง จนวันนึงได้รับคำชวนจากพี่ในก๊วนให้ไปชิลที่ชุมชนบ้านบุ ย่านคลองบางกอกน้อยด้วยกัน เรารีบตอบตกลงทันที

ชุมชนบ้านบุ มีประวัติน่าสนใจตรงที่มีชุมชนนี้อพยพมาจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อ 200 ปีที่แล้ว แถมพกวิชาทำ "ขันลงหิน" ติดตัวมาด้วย (ภาชนะสำหรับใส่อาหารและน้ำซึ่งใช้กันแพร่หลายในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2) เป็นมรดกทางปัญญาที่สืบทอดกันหลายชั่วอายุคนตั้งแต่ปี 2310 จนถึงวันนี้ และที่นี่ก็ถือเป็นแหล่งสุดท้ายที่มีการโชว์วิธีทำงานหัตถกรรม 5 ดาวโดยเหล่ากูรูคุณลุงคุณป้าอายุกว่า 60 ปีให้ดูกันในระยะประชิด แถมพูดคุยถามไถ่ได้อย่างเป็นกันเอง แต่ในความปิติก็มีเรื่องน่าสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย เมื่อรู้ว่าช่างฝีมือจากบ้านบุอาจหมดไปภายใน 10 ปี เพราะการฝึกนายช่างขึ้นมาสักคนต้องใช้ระยะเวลาและความละเอียดอ่อน ซึ่งคนรุ่นใหม่มักไม่มีความอดทนพอที่จะฝึกจนสำเร็จเป็นนายช่างได้เลย (น่าเสียดายมาก)

ขันลงหินที่เราเห็นทำจากโลหะสามชนิดคือ ทองแดง ดีบุก และเศษสัมฤทธิ์ มีหลายขนาดให้เราเลือกซื้อตามกำลังเงินในกระเป๋า เหมาะมากถ้าเอาไว้ใส่น้ำดื่มเย็นๆ เพราะทำให้น้ำยิ่งเย็นเจี๊ยบสดชื่นขึ้นอีก 100 เปอร์เซ็นต์!! เมื่อเอามือเคาะๆ ดูก็มีเสียงดังกังวาน เลยได้ความรู้อีกอย่างว่าสามารถเอาไปทำเป็นเครื่องดนตรีประเภทฉิ่ง ฉาบ และฆ้องได้ด้วย!

จากขันลงหิน ก็ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดที่ชาวบ้านละแวกนั้นเรียกกันว่า "ตลาดไร้คาน" เป็นตลาดเก่าอายุกว่า 80 ปี ที่นี่มีการแสดงความสามารถพิเศษจากน้องๆ ในชุมชนให้เราชมความน่ารักน่าเอ็นดู ที่สำคัญยังมีอาหารและขนมโบราณอย่างหมี่กะทิ ที่ราดกะทิลงบนเส้นหมี่สีชมพูจริงๆ!! หรือขนมเรไรที่หากินยากมากแล้ว และขนมเบื้องเตาถ่านที่เพียงแค่เห็น ท้องก็ร้องขึ้นมาดื้อๆ ซะอย่างนั้น.. ตลาดเปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน มาถึงสัก 9 โมงเช้า ก็เดินได้ยาวได้ถึงสี่โมงเย็น

ส่วนใครที่คลั่งไคล้รถไฟวินเทจ แนะนำให้เดินต่อไปที่ "โรงรถจักรธนบุรี" เป็นที่จัดเก็บและซ่อมรถไฟทั้งรถจักรดีเซลและรถจักรไอน้ำ ซึ่งตอนนี้ก็ยังเปิดใช้งานอยู่ให้เราไปดูและแชะรูปสวยๆ เป็นที่ระลึกได้ ก่อนกลับอย่าลืมแวะ "วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร" พระอารามหลวงชั้นโทที่มีจิตรกรรมฝาผนังโดดเด่นและงดงามซึ่งวาดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 รวมถึง "ร้านยาสงวนโอสถ"  ร้านยารุ่นเก๋าที่เปิดขายมากว่า 75 ปี ที่นี่มียาโบราณขึ้นชื่อคือยาหอมอินทรจักร มีสรรพคุณบำรุงหัวใจและแก้วิงเวียนศีรษะ น่าจะเหมาะกับคนอกหักที่สุด! (ฮา)

การเดินทางมายังชุมชนบ้านบุ เขตบางกอกน้อย

- ขับรถเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 จอดที่โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม

- รถประจำทางสาย 40, 42, 56, 68, 509, 80, 108 และ 175

- นั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่ารถไฟ และขึ้นสองแถวแดง หรือนั่งเรือข้ามฝากไปท่าศิริราช แล้วเดินไปศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ขึ้นสองแถวแดง

- รถสองแถว(แดง) เล็กสายศิริราช-คลองสาน สายศิริราช-ตลาดพลู แล้วลงตรงสถานีรถไฟธนบุรี เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟเดินตรงมาก็ถึงหลังตลาดแล้ว

Tag: , ตลาด, ท่องเที่ยว, บางกอกน้อย,