ลิ้นจี่หนึ่งในผลไม้ที่หลายคนชอบมาก เพราะรสชาติที่หอมหวานชื่นใจและกลิ่นเฉพาะที่คล้ายกับกลิ่นของดอกไม้ ยิ่งทำให้ลิ้นจี่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับผลไม้ชนิดอื่น
การกินลิ้นจี่สามารถกินได้ทั้งผลสดหรือนำไปแช่เย็น แช่แข็ง แล้วปั่นก็อร่อยมาก หรือการสกัดน้ำลิ้นจี่มาดื่มก็เป็นที่นิยมในผู้รักสุขภาพ ส่วนในอุตสาหกรรมอาหารเองก็นำเอาลิ้นจี่มาทำเป็นอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายทั้งกลุ่มไวน์ น้ำผลไม้ ไอศกรีม เจลลี ลูกอมลูกกวาด
นอกจากรสชาติที่หวามหอมชื่นใจและอร่อยแล้ว หลายคนอาจไม่รู้ว่าลิ้นจี่นั้นมีประโยชน์มากต่อสุขภาพ โดยเฉพาะใครที่รักสวยรักงาม ลิ้นจี่เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้มีผิวที่สวยและผมที่เงางามได้ด้วย
อ่านต่อ
วิตามิน แร่ธาตุ และสารพฤกษเคมีที่มีอยู่ในลิ้นจี่
วิตามินซี เป็นตัวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่น รวมถึงเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวพรรณ จากการศึกษาพบว่าในคนที่เป็นสิวเมื่อได้รับวิตามินซีเพิ่มขึ้นจะทำให้สิวหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุว่าผิวที่ถูกแสงแดดเป็นเวลานานเมื่อได้รับอาหารที่มีวิตามินซีสูงก็จะลดอาการผิวคล้ำเสียลง
ทองแดง ทำหน้าที่เปลี่ยนแร่ธาตุเหล็กให้เป็นเฮโมโกลบิน และกระตุ้นให้ไทโรซีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งทำงานให้เกิดสีผมที่เงางามและลดผมแห้งเสียแตกปลาย
โพแทสเซียม เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เส้นผมได้รับออกซิเจน ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม ลดการเกิดภูมิแพ้ผิวหนัง รวมถึงทำหน้าที่เป็น Cofactor ในกระบวนการสังเคราะห์และสร้างโปรตีน ทำให้โปรตีนของผิวดีขึ้น
เหล็ก มีหน้าที่ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ซึ่งช่วยให้ผิวและรากผมแข็งแรง
ฟลาโวนอยด์กลุ่ม Epicatechin เป็นสารพฤกษเคมีที่มีโมเลกุลคล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิง (เอสโตรเจน) เมื่อร่างกายได้รับฟลาโวนอยด์จะช่วยให้ผิวเพิ่มความชุ่มชื้นและเต่งตึง และด้วยคุณสมบัติการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) จะช่วยลดการเกิดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น
ลูทีน เป็นสารที่โดยปกติจะมีอยู่ในร่างกายของมนุษย์อยู่แล้วในจอประสาทตาของคนเรา แม้ว่าจะพบลูทีนอยู่ในร่างกายมนุษย์ แต่ร่างกายของเราไม่สามารถผลิตลูทีนได้ ต้องได้รับจากการกินเข้าไปเท่านั้น ลูทีนยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ขจัดสารอนุมูลอิสระออกนอกร่างกายให้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณผ่องใสไม่หมองคล้ำ
ในเรื่องของความปลอดภัยมีรายงานเรื่องการแพ้ลิ้นจี่ว่าทำให้เกิดผื่นคันและหายใจลำบาก แต่ยังเป็นกรณีที่พบได้น้อยมากๆ ส่วนเรื่องของสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงที่ฉีดลงบนลิ้นจี่ยังพบว่ามีอยู่ แต่มีปริมาณลดลงจากปี พ.ศ. 2560 และ 2559 โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แนะนำว่าวิธีล้างผักผลไม้ที่ถูกต้องจะช่วยลดสารเคมีลงได้มาก เช่น ล้างด้วยน้ำไหลผ่าน หรือล้างด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่า... ซึ่งจะช่วยให้กินลิ้นจี่ได้อย่างปลอดภัย
Tag:
, Food for life, ลิ้นจี่,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น