ช่วงปลายปีที่ผ่านมาคงต้องบอกว่าฮ่องกงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดฮิตที่เพื่อนพ้องน้องพี่พากันแพ็กกระเป๋าเดินทางอวดรูปในเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) กันเป็นว่าเล่น เพราะตอนนี้ฮ่องกงไม่ได้มีดีแค่อาหารอร่อยหรือป้ายนีออนสีสวยเท่านั้น หากยังกลายเป็นเมืองที่น่าหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพประทับใจได้ตลอดทั้งวัน จากตึกสีสวยที่มาพร้อมภาพวาดสตรีทอาร์ตเก๋ๆ ที่ให้เห็นตลอดทั้งเส้นทาง เราจึงไม่ลืมแนะนำ 3 จุดถ่ายรูปที่ขอบอกว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด!

★ Choi Hung Estate : สนามบาสกับตึกสีรุ้ง ★

เชื่อว่าภาพของสนามบาสที่มีตึกสีสวยอยู่เบื้องหลังน่าจะกลายเป็นภาพคุ้นตาใครหลายคนกันไปแล้ว เมื่อภาพนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในโฆษณาโทรศัพท์มือถือแบรนด์ดัง จนน่าจะกลายเป็นหนึ่งในภาพจำของฮ่องกงไปเป็นที่เรียบร้อย

ความจริงแล้ว Choi Hung Estate หรือ “เคหะสีรุ้ง” (Rainbow Estate) ก็น่าจะให้อารมณ์ไม่ต่างกับแฟลตการเคหะของบ้านเรา เพราะเป็นพื้นที่ที่ทางรัฐบาลจัดสรรให้เป็นที่อยู่อาศัยของประชากร แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือ เราจะเห็นบรรดาตึกการเคหะเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วเมืองฮ่องกง เนื่องจากพื้นที่ที่มีอยู่ค่อนข้างจำกัดอย่างที่เรารู้กัน การสร้างตึกสูงเช่นนี้จึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยได้อย่างตรงจุดที่สุด จนดูเหมือนที่นี่จะเป็นเมืองที่มีความอึดอัดคับแคบ แต่สีสันที่ถูกแต่งแต้มลงบนตึกกลับทำให้เมืองแห่งนี้น่ารักและมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

เช่นเดียวกับเคหะสีรุ้งที่ผ่านการออกแบบให้มีสีสันที่ไล่เลียงถึง 8 สี (เยอะกว่าสีของรุ้งกินน้ำเสียอีก) จากโทนสีอ่อนไล่ไปหาโทนเข้ม โดยที่นี่นับเป็นหนึ่งในอาคารการเคหะที่มีความเก่าแก่ที่สุดในฮ่องกงหรือมีอายุราวๆ เกือบ 60 ปี อีกทั้งยังเคยได้รับรางวัลเหรียญเงินจาก Hong Kong Institute of Architects ในปี ค.ศ. 1965 อีกด้วย จากความสวยงามทางสถาปัตยกรรม เพราะถ้ามองจากภาพมุมสูงเราจะเห็นตึกขนาดใหญ่สร้างอยู่ล้อมรอบอาคารจอดรถที่อยู่ตรงกลางทั้งสี่ด้าน และด้านบนสุดหรือชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถนี่เองที่เป็นที่ตั้งของสนามบาสจุดถ่ายรูปยอดฮิต ซึ่งนั่นนับเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างชาญฉลาดเลยทีเดียว เพราะสนามบาสใช่ว่าจะต้องอยู่บนพื้นดินเสมอไป

ด้วยการสร้างอย่างที่เล่ามาข้างต้น ทำให้สนามบาสแห่งนี้ถูกโอบด้วยตึกสีรุ้งและกลายเป็นจุดถ่ายภาพที่ใครๆ ก็อยากมาเยือน แต่สำหรับคนในท้องที่แล้วที่นี่เสมือนเป็นลานสันทนาการ (สนามเด็กเล่น) ของคนในชุมชน เพราะมีทั้งเก้าอี้ตัวยาวสำหรับนั่งพัก ศาลาหลังใหญ่ไว้หลบแดด ลานปลูกต้นไม้ เรื่อยไปจนถึงราวตากผ้า อย่างตอนที่เราไปก็เห็นน้องๆ นักเรียนกำลังเรียนวิชาพละวิ่งรอบสนามกันอยู่อย่างสนุก

วิธีการเดินทางมาที่นี่ขอบอกว่าง่ายมาก เพียงลง MTR (รถไฟใต้ดิน) สถานี Choi Hung (ที่ออกแบบทาสีเป็นสีรุ้งล้อกับที่นี่) ทางออก C4 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าตัวแฟลต จากนั้นให้มองหาอาคารจอดรถที่เขียนว่า STAIRCASE NO.3 ปีนบันไดไปอีก 3 ชั้นก็เจอแล้ว

★ Lok Wah Estate : วงกลมมหัศจรรย์ ★

หากใครคิดว่าการปีนบันไดขึ้นตึก 3 ชั้นเพื่อไปถ่ายรูปสนามบาสนั้นเหนื่อยแล้ว การเดินทางมา Lok Wah Estate อาจจะทำให้เหงื่อตก เพราะตึกการเคหะแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างเขามังกร (Dragon Hill) และเขาจระเข้ (Crocodile Hill) ซึ่งใช้เวลาเดินเท้าทางตาม GPS จากรถไฟใต้ดินสถานี Kwun Tong ราวๆ 20 นาที แต่ถ้าใครไม่อยากออกกำลังกายแล้วล่ะก็ ขอแนะนำว่าให้นั่งรถมินิบัสสาย 22A ซึ่งจะไปจอดหลังอาคารจอดรถ จุดหมายของเราแบบพอดิบพอดี (เราได้ลองทั้ง 2 แบบ เดินขาไปและนั่งมินิบัสขากลับ)

Lok Wah Estate เป็นอาคารการเคหะที่สร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นทศวรรษ 1980 มีอยู่ทั้งหมด 14 อาคาร หากใครไปถึงที่แล้วอาจจะหลงๆ นิดหน่อย เพราะที่นี่ยังจะแบ่งออกเป็น Lok Wah North Estate และ Lok Wah South Estate ทำเอาถามทางกันจนงง ซึ่งจุดถ่ายรูปของเราจะอยู่บนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ Lok Wah South Estate (หรือเรียกว่า “Le Huanan Parking” ในภาษาจีนกลาง) เช่นเดียวกับของ Choi Hung Estate ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าคนฮ่องกงก็ช่างคิดดีนะ ที่สามารถทำให้ดาดฟ้าว่างๆ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้เราตามหาได้

ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องขึ้นบันไดไปอีก 5-6 ชั้น เพื่อจะไปเจอกำแพงสีฟ้าสดใสที่เจาะรูเป็นวงกลมวางซ้อนๆ กัน จนดูคล้ายกับอุโมงค์ขนาดยักษ์ซึ่งรอให้เราครีเอตท่าถ่ายรูปอย่างสนุก แม้จะดูเป็นการสร้างที่เรียบง่าย แต่ถ้าลองมองให้ดีจะเห็นได้ว่าทุกอย่างถูกสร้างอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งสีส้มที่สร้างระหว่างกำแพงสีฟ้า เรื่อยไปจนถึงราวเหล็กที่ทำให้เกิดแสงและเงาเวลาถ่ายรูปเป็นริ้วสวย

ผู้สันทัดในการถ่ายรูปล้วนบอกตรงกันว่าวิธีการถ่ายรูปที่นี่ให้สัมฤทธิ์ผลจะต้องรอให้พระอาทิตย์ตกและลอดผ่านวงกลมก็จะได้ภาพแสงสว่างปลายอุโมงค์นั่นเอง

★ Hollywood Street : ถนนสายอาร์ต ★

ปิดท้ายกันที่ถนนฮอลลีวูด (Hollywood Street) ถนนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในย่านฮิปของฮ่องกง (เช่นเดียวกับที่ Sham Shui Po ที่เรายังไม่ได้ไป) เพราะเต็มไปด้วยร้านกาแฟ ชา และขนม ก่อนที่หลังพระอาทิตย์ตกจะกลายร่างเป็นสถานบันเทิงผับและบาร์นั่งชิลในเวลาค่ำคืน ดังนั้นถ้าใครเล็งร้านกาแฟบริเวณนี้คงต้องเผื่อเวลาสักเล็กน้อย เพราะถ้าเลยเวลาห้าโมงครึ่งร้านก็จะทยอยๆ กันปิด

การเดินทางมาถนนแห่งนี้สามารถลงได้ทั้งสถานี Central และ Sheung Wan แล้วเดินเรียบเข้าตรอกซอยซอกแซกกันได้เลย แต่หลังจากตอนแรกที่เรามาสำรวจที่นี่ตอนกลางคืนแล้วพบว่าการเดินทางขึ้นเขาหน่อยๆ มันช่างเหนื่อยล้า พอได้มาอีกครั้งก็เลยขอทางลัดลองนั่งรถบัสที่เขียนว่ามา Hollywood Street เสียเลย เรียกว่าเป็นตัวช่วยที่ดีเลยล่ะ (ฮา!)

จริงๆ แล้วการมาเดินถนนแห่งนี้ไม่ได้มีจุดตายตัวว่าต้องมาตรงไหนเป็นพิเศษ เพราะความสนุกที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การมองหาภาพวาดงานอาร์ตที่ซุกซ่อนตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตามบันไดขึ้นเขา ซอกตึก หน้าร้านกาแฟ เสาไฟ ไปจนถึงพื้นถนน ให้เราเลือกตามใจชอบ แต่ถ้าใครอยากได้ลายแทงก็สามารถไปดาวน์โหลดได้ที่ www.discoveryhongkong.com

เอาเป็นว่ามีเวลาทั้งวันก็อาจจะเก็บภาพไม่หมด!

Tag: , travel, สตรีทอาร์ต, ฮ่องกง,