สำหรับเหล่านักชิมคงไม่มีอะไรสนุก(และอิ่ม)ไปกว่าการออกเดินทางท่องเที่ยวพร้อมตะลุยชิมของอร่อยในสถานที่ต่างถิ่นที่เต็มไปด้วยประสบการณ์แปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจ “มาเก๊า” (Macao) คือ หนึ่งในเมืองน่าสนใจที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งผู้คน วิถีชีวิต ศาสนา วัฒนธรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อาหาร” หลากหลายสัญชาติที่กระจายตัวอยู่ใน 4 ย่าน(อร่อย)หลัก ทั้งมาเก๊า ไทปา โคไท และโคโลอาน หากใครมีโอกาสไปเยือน เราแนะนำให้เตรียมท้องให้ว่าง เพราะที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของนักชิมไม่แพ้ที่ไหนในโลกเช่นกัน
1. มาเก๊า (Macao / Peninsula)
“ฝั่งเกาะมาเก๊า” หรือ “Macao Peninsula” ถือเป็นย่านเก่าแก่และมีความสำคัญมากที่สุดของมาเก๊า นอกจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการค้าซึ่งเต็มไปด้วยความทันสมัยผสมผสานกับการเป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมายแล้ว ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยอาหารจานเด็ดหลากหลายรูปแบบและสัญชาติ ตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์
สำหรับสายของหวาน ร้านดังในฝั่งมาเก๊าที่เราไม่อยากให้พลาดคือ Margaret’s Café e Nata หนึ่งในร้านทาร์ตไข่ยอดนิยมที่มีนักกินแวะเวียนมาชิมกันไม่ขาดสาย ส่วนคนรักอาหารจีนต้องลองไป Wong Chi Kei ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในจตุรัสเซนาโดสแควร์ เกี๊ยวกุ้งตัวโตเต็มคำในน้ำซุปรสกลมกล่อมที่เราเผลอยกซดจนหมดชาม และ Long Wa Restaurant ร้านน้ำชาในตำนานเจ้าของเมนูขายดีอย่างซาลาเปาไส้หมูแดง ที่หากไปช้ากว่าบ่ายสองก็อาจจะอดกินกันเลยทีเดียว
ใครอยากชิมอาหารโปรตุเกส เราแนะนำ Albergue 1601 ร้านอาหารสไตล์โปรตุกีสดั้งเดิมในอาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่พร้อมให้ชิมเมนูเด็ดอย่าง Polvo a Lagareiro หนวดปลาหมึกอบเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบดในน้ำมันกระเทียม นอกจากนี้ฝั่งมาเก๊ายังเต็มไปด้วยร้านกาแฟดีๆ มากมาย ร้านโปรดของเราคือ Bloom Coffee ที่มีเมล็ดกาแฟจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งอุปกรณ์ชองกาแฟแบบพรีเมียมให้เลือกซื้อกันเพลินใจ แถมยังมีเจ้าแฮปปี้ แมวน้อยน่ารักประจำร้านคอยต้อนรับด้วยนะ
2. ไทปา (Taipa)
รู้จักของอร่อยย่านมาเก๊าไปแล้วก็ถึงเวลาขยับมาย่านที่ 2 อย่าง “ไทปา” (Taipa) ย่านเก๋อีกฝั่งทะเล นอกจากจะมีบ้านเรือนสีสันน่ารักสะดุดตาให้ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้ว ที่นี่ยังเป็นย่านรวมของกินห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็นร้านโปรตุกีสชื่อดังอย่าง Castico ร้านอิตาเลียนบรรยากาศดี Bella Taipa รวมถึงร้านล็อบสเตอร์ที่การันตีความอร่อยทุกเมนูอย่าง King’s Lobster
และไฮไลต์ของฝั่งนี้ คงต้องมอบตำแหน่งให้ “ถนนสายอาหาร” (Rua Do Cunha) ที่รวมสตรีทฟู้ดของมาเก๊าไว้ครบถ้วนในราคาค่อนข้างเป็นมิตรกับคนต่างถิ่น (โปรดระวังความหิวครอบงำ) ไม่ว่าจะเป็นทาร์ตไข่แบรนด์ดัง Lord Stow’s Bakery หรือจะเป็นขนมหวานสไตล์โปรตุกีสอย่าง Serradura Pudding พุดดิงนมเนื้อเบาสลับชั้นกับครีมแล้วโรยด้วยบิสกิตบด ต่อด้วย Turkish Ice Cream ไอศกรีมตุรกีสุดสนุกที่เจ้าของร้านอารมณ์ดีรอประลองฝีมือแย่งโคนกับเราอยู่ รวมถึงร้านโจ๊กปูระดับตำนานอย่าง Seng Choeng ก็ตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้เช่นกัน
ส่วนสาย Café Hopping ห้ามพลาดร้านเก๋ที่ชวนใจละลายอย่าง Rooftop Macau เพราะนอกจากชั้นล่างจะมีเสื้อผ้า เครื่องประดับไว้ให้ช้อปกันแล้ว ชั้นบนยังเป็นดาดฟ้าขนาดย่อมให้เราได้จิบกาแฟไปด้วย มองเห็นไทปาจากมุมสูงไปด้วย เพลินเชียว
3. โคไท (Cotai)
ไม่ไกลจากไทปา เราไปกันต่อที่ “โคไท” (Cotai) ย่านแห่งแสงสีตระการตาที่เต็มไปด้วยโรงแรมระดับห้าดาวและแหล่งท่องเที่ยวอลังการแล้ว ที่นี่มีของอร่อยที่หลายคนอาจไม่ค่อยรู้ซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวน่าตื่นตาตื่นใจต่างๆ อีกด้วย
หนึ่งในนั้นคือ “Studio City” แหล่งรวมความบันเทิงครบวงจรที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าโรงละคร และเครื่องเล่น รวมทั้งโชว์สุดตระการตาต่างๆ ที่สำคัญที่นี่ยังเต็มไปด้วยของอร่อยให้เลือกชิมมากมาย ที่เราไม่อยากให้พลาดคือ Joy Ride คาเฟ่สีนีออนที่จะพาเหล่านักขิมกลับไปในยุค 50 ของเหล่าอเมริกันชนผ่านโต๊ะรูปรถยนต์เปิดประทุนสุดเท่และเมนูอร่อยแบบอเมริกันจ๋า เช่น Coney Island Chili Dog ฮอตดอกรสเผ็ดนิดๆ ราดชีสหอมมันกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งแผ่นบางทอดกรอบที่กินเข้ากันสุดๆ
ส่วนใครชอบความ(อร่อย)อลังการต้องไป Wing Lei Palace ห้องอาหารสไตล์จีนกวางตุ้งระดับ 1 ดาวมิชลินของโรงแรม Wynn Palace Cotai ที่มีเมนูเด็ดอย่าง Barbecued Black Iberian Pork with Honey หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ฝีมือเชฟ Tam Kwok Fung เชฟใหญ่ชาวจีนกวางตุ้งที่บอกได้คำเดียวว่าอร่อยจนน้ำตาไหล! เพราะใช้หมูดำสเปนเนื้อนุ่ม(มาก)หมักกับซอสบาร์บีคิวและน้ำผึ้ง ซี่งเป็นสูตรลับเฉพาะที่ไม่ว่าใครได้ชิมก็ยากจะลืมเลือนความอร่อยแบบนี้แน่นอน
4. โคโลอาน (Coloane)
ปิดท้ายด้วยย่านท่องเที่ยวสำคัญอย่าง “โคโลอาน” (Coloane) พื้นที่ฝั่งใต้สุดของมาเก๊า เมืองท่องเที่ยวอันแสนสงบ เรียบง่าย และยังคงกลิ่นอายวิถีความเป็นอยู่ในอดีตเอาไว้ได้เป็นอย่างดี นอกจากการได้แวะสักการะรูปปั้นเทพธิดาอาม่าที่สูงที่สุดในโลกที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาโคโลอาน เดินชมความคลาสสิกของโบสถ์ Chapel of St. Francis Xavier ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1928 แล้ว โคโลอานยังเป็นที่รู้จักในฐานะดินแดนแห่งทาร์ตไข่ เพราะเป็นที่ตั้งของ Lord Stow’s Bakery สาขาแรกในมาเก๊า อีกทั้งตอนนี้ยังเปิดคาเฟ่ในละแวกเดียวกัน Lord Stow’s Garden Café เพิ่มความพิเศษด้วยเมนูอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ Handmade Croissants with Gammon Ham & Cheese ครัวซองต์แบบโฮมเมดไส้แฮมและชีส กินคู่กับ Rose Coffee กาแฟที่มีกลิ่นหอมของกุหลาบบางๆ พร้อมฟองนมนุ่มละมุน
ส่วนใครอยากได้ฟีลโลคอล ลองแวะไปฝากท้องที่ Lou Van Fai Kei ที่ขายทั้งชา กาแฟ แซนวิช ติ่มซำ ข้าว ก๋วยเตี๋ยว เมนูยอดฮิตยังเป็นขนมปังไส้ไข่และแฮม ความอร่อยอยู่ที่ขนมปังอบจนด้านนอกกรอบ เนื้อในเหนียวนุ่ม เคี้ยวสนุกมาก! รวมถึงร้านเด็ด (มาก) อย่าง Café Kiu Kei ที่ฮอตเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีตลอดเวลา แนะนำให้ชิมมักกะโรนีเนื้อตุ๋นในซอสมะเขือเทศ รสออกเปรี้ยวนิดๆ โปะหน้าด้วยใส่ออมเล็ตต์นุ่มๆ อร่อยเชียว แล้วปิดท้ายด้วยสมูทตี้เย็นเจี๊ยบชื่นใจสักแก้วที่ร้าน Sobremesa อิ่มแล้วอย่าลืมถ่ายรูปกับคุณหมาจิ้งจอกหน้าร้านเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะ
Tag:
, macao aroi mak mak, Taipa food Street, มาเก๊า, ไทปา,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น