ฮัลโลวีนปีนี้เราจะไม่พูดพร่ำทำเพลงเล่าเรื่องราวความเป็นมาประวัติศาสตร์น่ากลัวหรือความสยดสยองใดๆ ทั้งสิ้น หากแต่เราจะมาถกกันเรื่องสถิติความอร่อยกันล้วนๆ เพราะว่ากันว่านี่คือหนึ่งในเทศกาลที่ชาวอเมริกันออกมาใช้จ่ายกันมากที่สุด หรือราวๆ 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ!!
Scares and Surprises (ไม่) กลัวเรื่องเซอร์ไพรส์
สาเหตุที่ทำให้ชาวมะกันออกมาจับจ่ายก็น่าจะเป็นเพราะเทศกาลนี้เป็นหนึ่งในเทศกาลที่พวกเขารอคอยนั่นเอง เพราะจากการสำรวจพบว่าประชากร 7 ใน 10 คน ต่างบอกว่าเตรียมพร้อมมากกับการเฉลิมฉลอง โดยมีเป้าหมายหลักในการแจกขนมให้กับเด็กๆ ที่จะมาเคาะประตูบ้านเล่น Trick or Treat
ส่วนคนที่ไม่เตรียมการก็ใช่ว่าจะไม่ซื้อขนม เพราะกลับพบว่าประชากรร้อยละ 95 จะต้องซื้อขนมติดไม้ติดมือกันอยู่แล้ว (เกือบซื้อกันทุกคน) ขณะที่กิจกรรมอื่นๆ ที่นิยมทำกันก็จะมีตั้งแต่แต่งบ้าน แต่งตัวแฟนซี แกะสลักฟักทอง และเล่น Trick or Treat ตามลำดับ และนั่นก็ทำให้แต่ละครอบครัวใช้จ่ายประมาณ 86 ดอลลาร์สหรัฐในการเตรียมการความสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้น
ถ้านับออกมาเป็นเม็ดเงินค่าขนมก็จะสะพัดอยู่ที่ 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และก็ยังน้อยกว่าค่าแต่งตัวที่พุ่งสูงถึง 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน่าจะมาจากมูลค่าราคาที่แตกต่างกันนั่นเอง
Chocolate Candies ช็อกโกแลตดีที่สุด
ถึงแม้เทศกาลฮัลโลวีนจะพกพาสีลูกกวาดมาอย่างเต็มพิกัด แต่เอาเข้าจริงของหวานที่ครองใจผู้คนทุกเพศทุกวัยมาอย่างนำโด่งก็คือ “ช็อกโกแลต”
แต่ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะยังมีการโหวตแบรนด์ช็อกโกแลตที่ชอบกันอีกด้วย โดยช็อกโกแลตที่มาเป็นอันดับ 1 ก็คือรีสเซส (Reese’s) ช็อกโกแลตบาร์สอดไส้เนยถั่วเครือเดียวกับช็อกโกแลตเฮอร์ชีส์ (Hershey’s) ที่เราคุ้นเคยกัน ตามด้วยสนิกเกอร์ส (Snickers) ช็อกโกแลตบาร์สอดไส้เนยถั่วและคาราเมล และอันดับ 3 ก็ตกเป็นของเอ็มแอนด์เอ็ม (M&M's) ช็อกโกแลตเม็ดกลมๆ เคลือบน้ำตาลสุดฮิตขวัญใจเด็กๆ
นอกจากนี้ยังมีขนมอื่นๆ ที่ติดโผอย่างแอร์เฮดส์ (AirHeads) ทอฟฟี่เคี้ยวหนึบรสผลไม้ พิซี่ สติ๊ก (Pixy Stix) ลูกอมแบบแท่งเด่นที่รสเปรี้ยวอมหวาน และซาวร์ แพทช์ (Sour Patch) ลูกอมประจำเทศกาลที่เคลือบข้างนอกด้วยรสเปรี้ยวก่อนจะเจอความหวานที่ซ่อนอยู่ภายใน
Candy Corn “แคนดี้ คอร์น” พระเอกประจำเทศกาล
จริงอยู่ที่ช็อกโกแลตจะเป็นขวัญใจมหาชน แต่ถ้าถามถึงพระเอกตัวจริงเสียงจริงของต้องยกให้ “แคนดี้ คอร์น” ที่รั้งอันดับ 2 มาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
แคนดี้ คอร์นเป็นลูกกวาดที่นิยมผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นหลัก โดยมีลักษณะเด่นอยู่ที่รูปทรงพีระมิดซึ่งแทบกลมรีจนคล้ายทรงกรวย โดยมีสามสีไล่เรียงกันมาเริ่มด้วยสีเหลืองตรงฐาน สีส้มตรงกลาง และสีขาวนิดๆ ตรงยอด อันเป็นสีประจำฮัลโลวีน หากใครได้ลองชิมก็คงจะรู้สึกถึงรสชาติที่มาทั้งความหวานจับใจ ความยืดหยุ่นแบบเจลลี แต่ก็ยังแฝงความนุ่มแบบมาร์ชแมลโลว์อยู่ในตัว ซึ่งเกิดจากการผสานของส่วนผสมอย่าง น้ำตาล คอร์นไซรัป ที่เพิ่มรสสัมผัสความอร่อยด้วยมาร์ชแมลโลว์และฟองดองต์ (Fondant) และด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างนี้เองที่ทำให้ประชากรกว่า 49 เปอร์เซ็นต์บอกว่าลูกกวาดสีส้มแสนอร่อย ขณะที่ 23 เปอร์เซ็นต์ร้องยี้ และอีก 21 เปอร์เซ็นต์บอกว่ารสชาติจะอย่างไรไม่รู้ แต่ของมันต้องมี
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่ยอดผลิตของแคนดี้ คอร์นจะทะลุถึง 35 ล้านปอนด์ หรือเกือบๆ 16 ล้าน กิโลกรัมต่อปีเลยล่ะ
Eat 'Em All จะกินดีไหม?
แม้ลูกอมหลากสีจะดูเป็นอริกับเหล่าผู้ปกครอง แต่เทศกาลนี้นับว่าเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ เพราะจากการสำรวจพบว่าพ่อแม่ใจกว้างอนุญาตให้เด็กกินขนมทั้งหมดทั้งมวลจากการ Trick or Treat หรือการตระเวนหลอกชาวบ้านชาวช่องเพื่อเอาขนมกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ทีเดียวเชียว
ที่ต้องบอกว่าการกินขนมหวานน่าเป็นห่วงก็เพราะความหวานที่มากเกินไปนั้นไม่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว โดยเฉพาะ “แคนดี้ คอร์น” ที่นักโภชนาการให้ความเป็นห่วง เพราะกว่าจะมาเป็นลูกอมสีสวยได้นั้นต้องเกิดจากรวมตัวของสารให้ความหวานและสีสันไม่ต่ำกว่า 12 ชนิด และเป็นสารสังเคราะห์แทบทั้งหมด ทำให้ขนมสีสวยตัวนี้เป็นอาหารที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ไปจนถึงโรคมะเร็ง เอาเป็นว่าบริโภคแต่น้อยน่าจะดีที่สุด
แต่ถ้านับจากยอดผลิตแล้วนั้น เรียกว่ากินเท่าไรก็คงไม่หมด (ฮา!)
แหล่งข้อมูล
Tag:
, Nice To Know, วันฮาโลวีน,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น