UTM ย่อมาจากอะไร สำคัญยังไงกับ Digital Marketing

วันที่ 24 เมษายน 2568  283 Views

TH
EN
CN

UTM เป็นสิ่งที่นักการตลาดออนไลน์มืออาชีพเข้าใจดี แต่สำหรับนักการตลาดออนไลน์มือใหม่อาจยังไม่คุ้นเคยกับสิ่งนี้มากนัก โดยเฉพาะในคนทำธุรกิจที่เพิ่งเข้ามาใช้งานออนไลน์ อาจยังไม่เคยได้ยินหรือรู้จักกับสิ่งนี้มาก่อน ครั้งนี้ทางบทความจึงจะมาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับ UTM คืออะไร และ UTM ย่อมาจากอะไร มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหนในการทำธุรกิจที่ต้องพึ่งพาช่องทางออนไลน์ในการโปรโมท

UTM ย่อมาจากอะไร สำคัญยังไงกับ Digital Marketing

UTM ย่อมาจากอะไร
คำถามที่พบบ่อยก็คือ UTM ย่อมาจากอะไร โดย UTM ย่อมาจาก “Urchin Tracking Module” มีความสำคัญในเรื่องของการทำให้รู้ว่าการเข้าถึงเนื้อหาบนออนไลน์นั้น มาจากแหล่งไหนบ้าง

UTM คืออะไร
หลังจากรู้แล้วว่า UTM ย่อมาจาก Urchin Tracking Module มาดูความหมายที่ชัดเจนกันว่า UTM คืออะไร โดย UTM เป็นสิ่งที่คนทำออนไลน์จะติดไว้เหมือน Tag เพื่อติดตามดูว่าการเข้าถึงเนื้อหานั้น ๆ มาจากแหล่งไหน

ยกตัวอย่างเช่น ทำ Sale page ขึ้นมา 1 หน้า และมีการนำ Sale page ไปโปรโมทบนช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

  • โปรโมทด้วย Banner ที่ติดอยู่บนเว็บไซต์อื่น ๆ
  • โปรโมทในแคปชั่นบน Facebook
  • โปรโมทด้วยการตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดต่าง ๆ
  • โปรโมทด้วยการนำลิงค์ Sale page ไป Comment บน Social media 

หากต้องการทราบว่าการเข้าถึง Sale page แต่ละครั้งนั้นมาจากไหนบ้าง ต้องทำการติด UTM จะทำให้รู้ว่ามีการเข้าถึงเนื้อหาจากช่องทางไหนบ้าง เมื่อเก็บข้อมูลได้ว่ามาจากไหน ก็จะสามารถวางแผนการโปรโมทครั้งต่อไปได้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้ว่าควรใช้งบกับช่องทางไหน และควรเลิกใช้งบกับช่องทางไหน

องค์ประกอบของ UTM
นอกจากรู้ว่า UTM ย่อมาจากอะไร อยากให้มาดูในส่วนขององค์ประกอบของ UTM กันบ้าง เพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้น โดย UTM ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ utm_source, utm_medium และ utm_campaign นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่ม utm_term และ utm_content เข้าไปได้อีก ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน

  • utm_source ใช้บอกแหล่งที่มาของผู้เข้าถึงเนื้อหา เช่น Facebook, Twitter, Instagram
  • utm_medium ใช้บอกวิธีการในการเข้าถึงเนื้อหา เช่น คลิกแบนเนอร์, คลิกโฆษณา, คลิกลิงค์
  • utm_campaign ใช้บอกว่าแคมเปญที่ทำอยู่ชื่ออะไร เป็นเรื่องอะไร เพื่อแยกแยะในกรณีที่ทำหลายแคมเปญ
  • utm_term ใช้บอกถึง Keyword ที่ใช้ในแคมเปญนั้น
  • utm_content ใช้บอกเนื้อหาที่แตกต่างกันในแคมเปญนั้น

เมื่อไรที่ควรติด UTM
เมื่อรู้ว่าแล้ว UTM ย่อมาจาก Urchin Tracking Module ก็ควรรู้ด้วยว่าเมื่อใดที่ควรติด UTM ที่จริงแล้วการติด UTM สามารถทำได้ทุกเมื่อที่ต้องการทราบว่าคนเข้ามารับชมเนื้อหาจากที่ไหนบ้าง และต้องการเก็บข้อมูลเพื่อวางแผนการโปรโมทต่อไป กล่าวโดยสรุปคือ

  • เมื่อต้องการทราบว่าการเข้าถึงเนื้อหาว่าแต่ละครั้งนั้นมาจากไหน
  • เมื่อต้องการเลือกช่องทางการโปรโมท หากติด UTM ก็จะรู้ว่าช่องทางไหนพาคนเข้าถึงเนื้อหาได้ดี และเลือกช่องทางนั้นในอนาคต
  • เมื่อต้องการประหยัดงบยิงโฆษณา เพราะถ้าหากรู้ว่าช่องทางไหนพาคนเข้ามารับชมเนื้อหาได้น้อย ก็จะได้ลดงบในยิงโฆษณาช่องทางนั้น และเก็บงบมาลงทุนในช่องทางที่พาคนเข้าถึงเนื้อหาในจำนวนมากแทน
  • เมื่อต้องการจัดการกับโหลดการทำงาน เนื่องจากบางคนทำเนื้อหาสำหรับหลายแพลตฟอร์ม ซึ่งมีผลต่อโหลดการทำงาน หากต้องการจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การติด UTM เพื่อให้รู้ว่าช่องทางไหนพาคนมาเข้าถึงเนื้อหาได้มากกว่า ก็จะได้เอาเวลาไปใช้กับช่องทางนั้นจะดีกว่า

แต่ถ้าจะสรุปจริง ๆ ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่ต้องการทราบว่าการเข้าถึงเนื้อหานั้นมาจากไหน ก็ควรติด UTM ไว้ทุกกรณี แม้จะมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวไปในข้างต้น

วิธีติด UTM0

1. เข้าเว็บไซต์ Google Analytics Demos & Tools

2. ไปที่ Campaign URL Builder

3. กรอกช่องที่มี * ให้ครบถ้วน

  • ช่องแรก website URL ให้กรอก URL ที่ต้องการโปรโมท และต้องการจะรู้ว่าคนเข้าถึงหน้าเว็บนั้นมาจากไหนกันบ้าง
  • ถัดมาช่อง campaign source ให้กรอกแหล่งที่มาที่ทำให้ไปถึงหน้า URL นั้น เช่น ชื่อเว็บไซต์หนึ่ง, Google, Facebook, Line เป็นต้น
  • ถัดมาช่อง campaign medium ให้กรอกวิธีการในการเข้าถึงเนื้อหา เช่น Clicklink, Clickbanner เป็นต้น
  • ส่วนช่อง campaign name, campaign term, campaign content ไม่ได้บังคับ แต่ส่วนมาก campaign name มักถูกกรอกลงไปด้วยชื่อแคมเปญนั้น ๆ  เพราะนักการตลาดส่วนมากมักทำหลายแคมเปญ จะได้แยกแยะถูกว่ามาจากแคมเปญไหน ส่วน campaign term, campaign content หากมีก็ใส่ลงไปด้วยได้
  • หลังกรอกช่องที่มี * ครบแล้ว ด้านล่างจะมีกรอบ Share the generated campaign URL ปรากฏขึ้นมา ซึ่งจะเป็นลิงค์ยาว ๆ ประกอบไปด้วย URL ที่ต้องการโปรโมทและต่อท้ายด้วย utm ที่เราติดไว้ สามารถ Copy ลิงค์นั้นไปใช้งานได้เลย อาจจะเอาไปแปะใน Banner หรือเอาไปใส่ในแคปชั่น หรือเอาไป Comment ก็แล้วแต่ว่าผู้ใช้งานว่าติด utm เอาไว้ว่ามาจากไหน

หลายคนคงจะพอเข้าใจแล้วว่า UTM ย่อมาจากอะไรและมีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไร โดย UTM ย่อมาจาก Urchin Tracking Module เหมาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องโปรโมทธุรกิจทางออนไลน์ ควรใช้ UTM ให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้เงินไปกับการโปรโมทธุรกิจ เพราะผลลัพธ์จากการติด UTM จะทำให้รู้ว่าช่องทางไหนเหมาะสำหรับการทำการตลาดในครั้งต่อไป เพื่อการบริหารงบประมาณที่คุ้มค่ามากขึ้น


Tag: การตลาด

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed