ใกล้เที่ยง บรรยากาศในร้านสีฟ้า ทองหล่อ ซึ่งเป็นสาขาที่เก่าแก่ที่สุดของร้านสีฟ้า ณ เวลานี้ เต็มไปด้วยลูกค้าหลากวัย ทั้งลูกสาวลูกชาย คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า บนโต๊ะมีเมนูประจำบ้านส่งกลิ่นหอมอยู่ตรงหน้า และเสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ เพิ่มอรรถรสในมื้ออาหาร

นี่คือเสน่ห์ของร้านระดับตำนานอายุ 89 ปี

คุณกร รัชไชยบุญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารด้านปฏิบัติการ แห่ง SEEFAH Group Co., Ltd. ทายาทรุ่นที่ 3 พาเราย้อนเวลากลับไปที่จุดเริ่มต้นของร้านระดับตำนานที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าร้านสีฟ้าไม่ได้เริ่มต้นจากร้านอาหาร แต่เป็นร้านไอศกรีม

คุณเปล่ง รัชไชยบุญ คุณปู่ของคุณกรเป็นชาวจีนไหหลำมาพบรักกับคุณย่าหรือคุณอรุณศรี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายผลไม้ที่ตลาดสะพานหัน และชวนกันเปิดร้านขายไอศกรีมในห้องแถวห้องเล็กๆ ย่านราชวงศ์ ก่อนจะขยับขยายเป็นร้านอาหารในเวลาต่อมา

“สมัยนั้นลูกค้าเป็นพวกเถ้าแก่บ้าง เป็นเจ้าสัวบ้าง แวะเวียนมาเป็นประจำ ซึ่งย่านราชวงศ์ในตอนนั้นก็คล้ายๆ กับย่านบรรทัดทองในตอนนี้ เปิดได้สักพักก็ย้ายร้านจากราชวงศ์ไปวังบูรพา จากนั้นเปิดที่สยามสแควร์ เฉลิมโลก ทองหล่อ ตามมาด้วยขยายสาขาอื่นๆ จนถึงตอนนี้ ส่วนชื่อ ‘สีฟ้า’ เป็นชื่อเรียกติดปากของผู้คนละแวกนั้น เพราะตัวร้านทาผนังเป็นสีฟ้า มีไฟหลอดนีออนสว่าง ซึ่งแตกต่างจากร้านอื่นๆ ในยุคนั้น”

“อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว”
ประโยคติดหูตลอดกาลที่คุณพ่อของคุณกร ทายาทรุ่นที่ 2 เป็นคนตั้งขึ้น โดยดึงความเป็นสากลเข้ามาใช้ ทั้งการตั้ง Motto ประจำร้าน พร้อมๆ กับตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษว่า SEE FAH ควบคู่ไปด้วย ส่วนเพลง “อย่าลืม” เป็นฝีมือการแต่งของขวัญใจคนยุค 90 อย่างคุณบอย โกสิยพงษ์ ขับร้องโดยคุณป๊อด โมเดิร์นด็อก และถูกเปิดในร้านสีฟ้ามานานกว่า 30 ปีแล้ว

“เมนูแรกจริงๆ ของสีฟ้าคือไอศกรีม สมัยนั้นคุณปู่ต้องปั่นสดด้วยมือ ไม่มีเครื่องปั่นแบบตอนนี้ ไอศกรีมที่ทำให้ร้านมีชื่อเสียงคือไอศกรีมกะทิและไอศกรีมทุเรียน ซึ่งรสทุเรียนนี่เรียกว่าเป็น Love Story ของคุณปู่คุณย่า เพราะคุณย่าเป็นแม่ค้าขายผลไม้ที่เลือกทุเรียนเก่งมาก คุณปู่เลยเอามาปั่นเป็นไอศกรีม จนทุกวันนี้ก็ยังมีขายในร้าน ส่วนอาหารที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นคือข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว เรามีวิธีปรุงที่ทำให้มีกลิ่นหอมกว่า ก่อนกินแนะนำว่าให้ลองยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จะได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศในนั้น”

นอกจากนี้ยังมีเมนูหม้อดินที่เป็นซิกเนเจอร์อย่างข้าวราดหน้าอัศวิน ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลากะพง รวมถึงอีหมี่ ที่ใช้เส้นบะหมี่ของสีฟ้าไปทอดให้กรอบแล้วจึงราดน้ำซุปลงไป ก่อนอบในหม้อดิน โรยด้วยแฮมและไก่ฉีก กินกับซอสสูตรลับ ส่วนเมนูโปรดของคุณกรคือก๋วยเตี๋ยวแห้งเนื้อสับใส่ไข่ที่เราได้ชิมแล้วชอบมาก ก่อนกินคลุกเคล้าให้ไข่แดงดิบเคลือบเส้นตอนเสิร์ฟร้อนๆ จะได้รสชาติกลมกล่อมพอดี

เวลาไม่เคยหยุดเดิน ปัจจุบันสีฟ้าเดินทางมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว โดยมีหัวเรือใหญ่อย่างคุณนิษฐา รัชไชยบุญ นันทขว้าง พี่สาวของคุณกรเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สิ่งที่เกิดขึ้นในเจเนอเรชันที่ 3 คือ SEE FAH GROUP ที่เข้าไปอยู่เบื้องหลังเรื่องอาหารและเครื่องดื่มให้กับโรงแรมและหน่วยงานหลายแห่ง อาทิ โรงแรมแกรนด์เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ที่กำลังจะเปิดตัว รวมถึงได้ดูแลอาหารร้อนบนเครื่องบินแอร์เอเชีย ซึ่งสิ่งที่ทำให้ร้านเก่าแก่ยืนอยู่อย่างมั่นคง นั่นเพราะสีฟ้าไม่เคยหยุดนิ่งและพัฒนาแบรนด์อยู่เสมอ

ส่วนปีนี้เราจะได้เห็นสีฟ้าโฉมใหม่ที่สดใส สนุกสนาน เข้ากับทุกเจเนอเรชัน รวมถึงโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่จะได้เห็นกันเร็วๆ นี้ “เราใช้คำว่า Full ทุก Feel ที่สีฟ้า” เพราะรู้ว่าคนที่มาที่ร้านต้องการอะไรมากกว่าแค่ความอิ่ม เขาอาจอยากได้พลัง อยากให้วันนั้นมีความสุขขึ้น หรืออารมณ์ดีกว่าเดิม เรามองว่าสีฟ้าสามารถเติมเต็มช่วงชีวิตของลูกค้าผ่านอาหาร พนักงาน และบรรยากาศ จากที่เป็นร้านอาหารแบบดั้งเดิม เราจะเติมพลังบวกผ่านมื้ออาหารด้วย

“ไม่ใช่ Full ที่หมายถึงอิ่มท้องอย่างเดียว แต่ Full ทั้งใจและความรู้สึก”

ร้าน SEE FAH ทองหล่อ

• พิกัด : 55 ถนนทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
• โทร : 06-4142-1693

Tag: ทองหล่อ, ร้านอาหาร