"วิทย์นาถ สินเจริญกุล" ปกป้องทุกสัมผัสด้วยความห่วงใย

วันที่ 30 สิงหาคม 2561  6,797 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 217 เดือนสิงหาคม 2561

ถ้าพูดถึงสินค้าเกษตรทำรายได้เข้าประเทศอันดับต้นๆ นอกจากข้าวแล้ว หลายคนคงนึกถึง “ยางพารา” ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลก วันนี้เรามีโอกาสพูดคุยกับคุณบูม-วิทย์นาถ สินเจริญกุล ทายาทคนเล็กเจเนอเรชันที่ 2 ของครอบครัวบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) บริษัทส่งออกยางธรรมชาติที่สร้างชื่อเสียงมายาวนานมากกว่า 30 ปี เกี่ยวกับแนวคิดและทิศทางสานต่อธุรกิจแสนล้านของครอบครัว

คุณบูมเริ่มต้นบทสนทนากับเราอย่างเป็นกันเองถึงบทบาทการเป็นผู้บริหารในตำแหน่ง Director บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในเครือของกลุ่มบริษัทศรีตรัง ผู้ผลิตถุงมือยางที่สร้างยอดขายติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก และมีสำนักงานมากกว่า 40 แห่งทั้งในและต่างประเทศ แม้จะมีภารกิจมากมายในแต่ละวัน แต่คุณบูมยังแบ่งเวลาสำหรับพักผ่อนและงานอดิเรกได้อย่างลงตัว เช่น เล่นดนตรี ทำสวน และดูแลน้องเหมียวสมาชิกในบ้านที่มีมากถึง 9 ตัว ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่สนุกและสุดวุ่นวายเลยทีเดียว

คุณบูม-วิทย์นาถ สินเจริญกุล

ต่อด้วยเล่าย้อนถึงภารกิจแรกเมื่อ 6 ปีก่อนที่ได้รับมอบหมายจากคุณพ่อ ดร. ไวยวุฒิ สินเจริญกุล ว่า “ผมเริ่มทำงานในตำแหน่งฝ่ายขายต่างประเทศ ช่วงแรกต้องปรับตัวเยอะมาก เพราะเป็นคนพูดน้อย นอกจากเรียนรู้เรื่องโปรดักต์แล้วยังต้องทำการบ้านเพิ่มขึ้น เพราะเราต้องหาเรื่องไปคุยกับลูกค้า (ยิ้ม) บางวันทำงาน 24 ชั่วโมงเพราะเวลาแตกต่างกัน แต่ก็ทำให้ได้ประสบการณ์หลายอย่าง รวมทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ รู้ว่าลูกค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราก็นำข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา”

★ สร้างแบรนด์-สร้างการจดจำ 
สำหรับความท้าทายแรกของคุณบูมเมื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารอย่างเต็มตัว นั่นคือการนำแนวคิดด้านการตลาดยุคใหม่มาปรับใช้กับองค์กร โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างแบรนด์ “แต่เดิมเราเน้นวอลลุ่ม ขายในกลุ่ม Medical Section การรับจ้างผลิต และการส่งออกเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เลย ปัจจุบันเราเพิ่มช่องทางการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดค้าปลีก ดังนั้นการสร้างแบรนด์เพื่อให้ลูกค้าจดจำสินค้าของเราได้จึงสำคัญมาก และถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในบริษัทเพราะส่งผลกระทบต่อผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ไม่เฉพาะพนักงานในองค์กร แต่ยังรวมถึงคู่ค้าของเราด้วย”

เกี่ยวกับเรื่องนี้คุณบูมเล่าว่าคุณพ่อเคยให้ข้อคิดว่า“ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งเป็นเวลานานมากกว่า 30 ปีนั้นมาจากความเชื่อมั่นของคู่ค้าที่มีต่อบริษัท การเปลี่ยนแปลงสิ่งใดก็ตามจึงต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ที่คนรุ่นเก่าสร้างไว้ ซึ่งคุณพ่อเรียกสิ่งนี้ว่าความขลัง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ศรีตรังโกลฟส์ พร้อมตัวการ์ตูนมาสคอตน้องศรีตรังสีม่วงสดใส สื่อถึงความเป็นศรีตรัง ความทันสมัย และใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น”

คุณบูม-วิทย์นาถ สินเจริญกุล

★ เป้าหมายขยายตลาด-พัฒนาผลิตภัณฑ์ 
นอกจากการสร้างแบรนด์แล้ว ความท้าทายลำดับต่อไปที่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของคุณบูม นั่นคือเป้าหมายในการขยายตลาดและเพิ่มปริมาณการผลิตถุงมือยางจากจำนวน 16,000 ล้านชิ้นต่อปีในปัจจุบันเป็น 30,000 ล้านชิ้นภายใน 5 ปี การเพิ่มกำลังการผลิตย่อมหมายถึงสินค้าจะต้องมีตลาดรองรับ คุณบูมอธิบายประเด็นนี้ว่า

“เรานำความได้เปรียบซึ่งเป็นจุดแข็งของเรามาใช้ นั่นคือความเชี่ยวชาญด้านยางธรรมชาติ เรามีทีมวิศวกรประดิษฐ์คิดค้นเครื่องจักรรุ่นใหม่เพื่อใช้ในสายการผลิตของเราเอง นอกจากนี้คือทีม R&D วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อัพเกรดเทคโนโลยีเพื่อให้สินค้ามีความหลากหลายและตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น อาทิ ถุงมือชนิดหนาและบาง ชนิดมีแป้งและไม่มีแป้ง ชนิดยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ เป็นต้น รวมทั้งการทำ R&D ในต่างประเทศ อาทิ คนอเมริกันนิยมถุงมือยางชนิดบางเพื่อสัมผัสที่ดีกว่า ในขณะที่จีนและไทยชอบชนิดหนาเพราะเน้นความคงทนและความปลอดภัย เป็นต้น”

คุณบูมทิ้งท้ายไว้ว่า “ผมอยากทำสินค้าที่ทุกคนใช้ประโยชน์ได้ แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ แต่สิ่งนี้ช่วยปกป้องดูแลเราทุกช่วงชีวิตจากสารเคมี สิ่งปนเปื้อน และความสะอาดของอาหาร ซึ่งไม่เฉพาะปกป้องตัวเอง แต่ยังปกป้องผู้อื่นด้วย ซึ่งหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าสิ่งแรกที่สัมผัสตัวเราตอนแรกเกิดก็คือสิ่งเล็กๆ สิ่งนี้แหละครับ”


Tag: , ถุงมือยางพารา, ศรีตรัง,

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed