ในภาพจำของเมืองพัทยามักปรากฏความคึกคักของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลงรักชายหาดและแสงแดดแรงของบ้านเรา พัทยาจึงชวนให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล แต่ภายใต้แสงสีนั้น ยังมีซอกมุมเล็กๆ อีกมากมายที่รอให้ไปสำรวจ
“Global Day of Discovery” ทริปพิเศษโดยโรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา ชักชวนให้เราเก็บกระเป๋าออกทริปใน 1 วัน แล้วลองมองเมืองพัทยาในอีกมิติ
★ Mini Farmer Workshop @A La Campagne : ลองเป็นฟาร์เมอร์ (ฝึกหัด) ดูสักตั้ง ★
ความท้าทายแรกเมื่อมาถึงพัทยาคือการได้รู้ว่าตลอดทั้งวันนี้เราจะกินแบบชาววีแกน ดื่มด่ำกับรสของผักผลไม้อย่างเต็มอิ่ม มื้อเที่ยงของวันจึงเป็นคอร์สสุดสดชื่นที่ทางโรงแรมครีเอตออกมาเป็นพิเศษ อาทิ ซุปแครอตและขิงเสิร์ฟเย็น ท็อปด้วยแพนนาคอตตามะพร้าวและโรยหน้าด้วยมะพร้าวอบเพิ่มความกรุบกรอบ ส่วนเมนคอร์สเป็นเต้าหู้เทอริยากิ เสิร์ฟมาพร้อมสปริงโรลไส้ผักและซอสโฮมเมด ตามด้วยของหวานอย่างมะม่วงสด สลับชั้นกับอัลมอนด์และสังขยาใบเตยในขวดโหลแก้ว ที่ตกแต่งได้เหมือนสวนจำลองเข้ากับธีมงาน
เมื่อท้องอิ่มกองทัพก็ออกเดินทางไปที่จุดสำรวจแรกอย่าง A La Campagne Farm & Village ที่จำลองบรรยากาศหมู่บ้านเล็กๆ ในชนบทของฝรั่งเศสไว้ได้อย่างน่ารัก ภายในมีทั้งร้านขายของงานฝีมือ ร้านอาหาร ร้านชาและเบเกอรี่ ส่วนพื้นที่ด้านหลังทำเป็นสวนผักแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งผักจากที่นี่จะนำไปใช้หมุนเวียนในเมนูต่างๆ ภายในร้านและส่วนหนึ่งขายให้กับลูกค้าประจำ
น่าดีใจที่เวิร์กชอปในครั้งนี้เราได้พบกับคุณชมพูนุท อิ่มอุดม สาวเก่งเจ้าของโครงการที่ศึกษาเรื่องการปลูกผักแบบเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจังมาสอนเราแบบละเอียดยิบ เริ่มตั้งแต่เรื่องการเตรียมดิน ซึ่งองค์ประกอบของดินที่ดีนั้นต้องมีทั้งเนื้อดิน อินทรียวัตถุอย่างใบไม้แห้ง มีตัวดูดซับความชื้นอย่างกาบมะพร้าว แกลบ หรือขี้เถ้า และสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์อย่างเชื้อราไตรโคเดอร์มา เพื่อป้องกันไม่ให้รากผักเน่านั่นเอง
“การทำเกษตรที่นี่คือเราอิงตามธรรมชาติ คือการปลูกเพื่อบริโภค ดินที่สมบูรณ์จะทำให้พืชสมบูรณ์แข็งแรง เหมือนกับร่างกายของคนเรา เมื่อไม่แข็งแรงก็จะป่วยได้ง่าย ดังนั้นหัวใจของการทำเกษตรธรรมชาติคือทำอย่างไรให้ดินสมบูรณ์”
นอกจากดินจะดีแล้ว ต้องพึ่งพาแรงงานของ “พนักงานพิเศษ” นั่นคือเหล่าไส้เดือน ที่นี่เลี้ยงไส้เดือนในรูปแบบคอนโดฯ เมื่อถึงเวลาก็นำมูลไส้เดือนมาใช้ ซึ่งในนั้นมีไข่ของไส้เดือนด้วย (ไส้เดือนที่ลำตัวมีปล้องสีขาวนูน หมายถึงพร้อมที่จะออกไข่แพร่พันธุ์แล้ว) เมื่อนำมาผสมกับดินที่เตรียมไว้ก็จะได้ลูกๆ ของไส้เดือนมารับหน้าที่พรวนดินต่อให้นั่นเอง จากนั้นเราทดลองเพาะเมล็ด อีกทั้งเปิดโอกาสให้เราเลือกปลูกต้นที่ชอบได้เลย ทั้งผักแพว โหระพา สเปียร์มินต์ ชะพลู ต้นอ่อมแซ่บ ดาวเรือง ต้นหม่อน มะเขือเทศ (สายเครื่องดื่มอย่างเรา แน่นอนว่าตรงปรี่ไปที่ต้นเปปเปอร์มินต์ ประคบประหงมกลับกรุงเทพฯ อย่างดี ) หลังจากนั้นเราก็แวะไปที่ฟาร์มด้านหลัง ให้อาหารม้าอย่างเจ้ายิปซีและยิปโซ ต่อด้วยการมุดเข้าเล้าไก่ไปเก็บไข่ออร์แกนิกเสียหน่อย ซึ่งที่นี่เลี้ยงแบบฟรีเรนจ์ ปล่อยให้วิ่งเล่นตามใจชอบ
แม่ไก่เลยอารมณ์ดี ไข่ออกมาสีสวยน่ากินเชียว
★ History Overview : วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ★
หลังจากเก็บไข่ เลี้ยงม้ากันจนพอได้เหงื่อ ก็ถึงเวลาของการออกสำรวจจุดที่ 2 คือวัดสำคัญอย่างวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ศูนย์รวมจิตใจของชาวพัทยาและละแวกใกล้เคียง โดยเฉพาะชาวภาคตะวันออกอย่างผู้เขียนนั้น ได้ยินชื่อเสียงของวัดแห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหารในพระบรมราชูปถัมภ์นั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 ทรงเป็นประธานจัดสร้าง ภายในบริเวณวัดเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและศาสนวัตถุสำคัญหลายชิ้นด้วยกัน อาทิ หอพระไตรปิฎก ที่สร้างขึ้นตามธรรมเนียมของวัดไทยแต่โบราณคืออยู่กลางน้ำ ตัวอาคารเป็นแบบไทยประยุกต์ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ชั้นล่างเป็นโถงกว้าง มีกระจกล้อมรอบ เพื่อให้มีแสงสว่างส่องถึงโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
เราหลบแดดแรงของช่วงบ่ายแก่ๆ แวะชื่นชมความงดงามของพระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์ พระบรมธาตุเจดีย์สูงสง่า 3 ชั้น ห้องโถงด้านล่างประดิษฐานพระอัฐิของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จากนั้นใช้เวลาที่เหลือเดินชมภายในอริยาคาร พิพิธภัณฑ์อริยสงฆ์ที่ทางวัดเพิ่งปรับปรุงใหม่ ภายในจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของอริยสงฆ์ชื่อดังหลายท่าน อาทิ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) พระครูญาณวิลาศ (หลวงพ่อแดง) พระธรรมวิสุทธิมงคล (บัว ญาณสัมปันโน) พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ รวมถึงหุ่นขี้ผึ้งของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมด้วยประวัติและคำสอนที่เรียบง่าย
หากแต่นำไปใช้ปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน
★ Vegan Discovery : ค่ำคืนแห่งวีแกน ★
การสำรวจสุดท้ายในวันอันร้อนระอุมาจบลงที่โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา ในช่วงเวลาที่เราได้เห็นพระอาทิตย์สีส้มจัดกำลังแผ่แสงจนผืนฟ้ากลายเป็นสีเพลิงตัดกับน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มกว้างสุดสายตา สวยจนไม่น่าเชื่อว่าเรามองเห็นภาพนี้ได้ในแถบทะเลตะวันออก
ก่อนที่ทางโรงแรมเซอร์ไพรส์เราด้วยโต๊ะดินเนอร์ตัวยาวและปาร์ตี้เล็กๆ กลางสวนสวย พร้อมกับคอร์สอาหารมื้อค่ำแบบวีแกนที่เชฟออกแบบมาได้น่ากินจนไม่น่าเชื่อว่าเมนูนี้ทำจากผัก จานแรก Vegetable Terrine ท็อปด้วยซอสบัลซามิกที่ซุกซ่อนมาในรูปลูกบอลทรงกลมให้เราใช้ส้อมเจาะอย่างสนุก ชั้นล่างมีเพสโตครัมบ์กรอบๆ เคียงด้วยมะเขือเทศและผักร็อกเก็ต ตามมาด้วยซุปรสชาตินุ่มนวลทำจากฟักบัตเตอร์นัต ถั่วเลนทิล และอะโวคาโด รวมๆ แล้วหอมหวานแต่เข้มข้น ตามด้วยไอศกรีมซอร์เบต์ล้างปากเล็กน้อย ก่อนจะเข้าสู่จานหลักที่มองเผินๆ เหมือนเฟตตูชินีมีตบอล แต่เชฟเปลี่ยนเส้นพาสตาให้กลายเป็นเส้นซุกกินีสุดสดชื่น ส่วนมีตบอลทำจากอัลมอนด์รสหอมๆ มันๆ เข้ากันดี ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยการพูดคุยกับตัวแทนชุมชนตะเคียนเตี้ย แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมที่เงียบสงบของบางละมุง ที่ว่ากันว่ามีของเด็ดของดีของชลบุรีมากมายเต็มไปหมด รวมถึงมีขนมทองพับเจ้าอร่อยห้ามพลาดอยู่ด้วย น่าเสียดายที่วันนี้ดึกเกินไปแล้วสำหรับการออกสำรวจ
แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าพัทยายังมีอีกหลายซอกมุมที่รอให้เรากลับมาเยือน
Tag:
, พัทยา, สถานที่ท่องเที่ยว, ฟาร์มเมอร์,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น