เอาเข้าจริงเราก็เป็นนักท่องเที่ยวสายหลักแหละ สถานที่ไหนที่เขาเที่ยวเราก็เที่ยวเหมือนเขา เพียงแต่ว่าสิ่งที่ได้กลับมากลับต่างออกไป หรือเป็นเพราะเราคิดเยอะ อันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจ เดือนนี้เราเลือก “ไร่ชา” แต่ไม่ใช่ไร่ชาที่มีแต่ “ใบชา” เราก็มีอาการเบื่อกันบ้าง หลังจากเคยตระเวนปักหลักบนดอยแม่สลองมานานสองนาน แถมอาหารก็มีแต่ขาหมูหมั่นโถว
เราไปโฮมสเตย์ในไร่ชาที่ชื่อว่าสวรรค์บนดิน แต่ไม่ใช่ไร่ใบชานะ เป็นไร่ชาสมุนไพร ปลูกกันแบบบ้านๆ นี่แหละ ให้เลื้อยไปตามลวดกับเสา ผลผลิตของที่นี่จะถูกผลิตเป็นชาสมุนไพรเบลนด์ต่างๆ ซึ่งได้รับการยอมรับจากคนดื่มดีมาก เราคงต้องบอกว่าทั่วเทศบาลเมืองเชียงรายไม่มีคาเฟ่ไหนที่จะไม่วางชาสมุนไพรของสวรรค์บนดิน แถมลุกลามไปถึงคาเฟ่ในกรุงเทพฯ
ชาสมุนไพรของคุณโต-ชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ ผ่านการเบลนด์มาแล้วอย่างดี โดยอาศัยการชิมและผสมรสชาติเพื่อให้ได้ชาสมุนไพรที่มีคาแรกเตอร์ตามต้องการ ในวันที่พักค้างคืนเราก็เห็นเพื่อนของคุณโตมาให้ช่วยเบลนด์ชาเช่นกัน น่าเสียดายที่เราไม่ได้จองผ่านเพจ Local Alike ได้ยินว่ารวมเอากิจกรรมเบลนด์ชาไว้ด้วยในแพ็กเกจ
เราชอบที่คุณโตบอกว่าเขากลับมาบ้านเพราะธรรมชาติพาเขากลับมา เขาไม่ได้เลือกว่าจะทำสวรรค์บนดิน แต่เขาตัดสินใจอยู่กับปัจจุบันที่คุณพ่อป่วยและจะทำอย่างไรให้ได้ดูแลกัน จึงกลายมาเป็นที่นี่ แต่ก่อนที่จะเป็นสวรรค์บนดิน คุณโตก็บอกว่าเค้าต้องพลิกฟื้นจากดินแดงและวัชพืช ปรับดิน และทนกับความเหนื่อยล้าที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในการทำงานเป็นช่างภาพในอดีต จนวันหนึ่งที่ทำจนเข้าที่เข้าทางตัวเขาเองถึงสนุกกับมันและเผลอตะโกนว่า “สวรรค์บนดิน” ออกมา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย
ทุกวันนี้ที่นี่กลายเป็นฟาร์มกึ่งคาเฟ่ที่คนแวะมาไม่ขาดสาย เพื่อมาชิม Blue Latte ชาเบลนด์ที่มีดอกอัญชันเป็นส่วนผสมหลักผสมกับนมร้อนตีฟองนม แถมเรายังล้ำกว่านั้นเพราะได้กินผักสดและไข่เจียวอัญชันเป็นอาหารเช้า แถมยังได้สนทนาธรรมกับคุณโตเกี่ยวกับงานเซรามิกของเขาที่ไม่ใช่เพียงงานศิลปินแต่เป็นสิ่งที่บันทึกช่วงชีวิตของเขาไว้
ไร่ชาต่อมา ไร่ชาฉุยฟง ที่ปรับเอาโรงงานชาและไร่ชาตีนดอยแม่สลองให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยงานสถาปัตยกรรมระดับรางวัลที่เพิ่งได้รับมาล่าสุด ชนะเลิศในหมวด Hospitality- Restaurants Category ของ Architizer A+ Jury Award 2017 ทำให้ไม่ว่าใครแวะมาก็จะต้องมาที่คาเฟ่ชาซึ่งปัจจุบันมี 2 แห่ง และกำลังสร้างแห่งที่ 3 เพิ่มเติม บนพื้นที่เดียวกัน ทำให้เราที่เคยสัมผัสไร่ชาบนดอยแม่สลองมาแล้วเลือกที่นี่แทน
เราว่าไร่ชาฉุยฟงได้พื้นที่ค่อนข้างดี หรืออีกนัยหนึ่งเขาวางผังของไร่ค่อนข้างดี นอกจากเนินที่ไล่ปลูกต้นชาเล่นระดับแล้ว ยังอาศัยงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่สร้างเป็นร้านขายชาและคาเฟ่บนเนินสูง ทำให้ได้เห็นวิวในมุมกว้างของไร่ชาสุดลูกหูลูกตา และขอบอกเลยว่าฤดูฝนนี้แหละที่ไร่ชาสวยที่สุด ด้วยโทนสีเขียวสบายตา ติดเพียงว่าฝนทำให้เดินเล่นไม่สะดวก แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่าอาหารและของหวานของที่นี่ไม่ได้มีเพียงน้ำชาร้อนและขาหมูหมั่นโถวเหมือนภาพเดิมๆ แล้ว แต่ยังมีอาหารแสนเก๋และเราว่าไม่แย่ ซึ่งเราขอยกยอดไปรีวิวในเดือนหน้า รอบนี้ใส่รูปมายั่วให้อยากแล้วจากไปก่อนละกัน ที่นี่เปิดให้เข้าตั้งแต่ 08.30-17.30 น. (เข้าฟรี)
เรามาจบที่ไร่ชาแห่งสุดท้าย สิงห์ปาร์ค เคยมาตั้งแต่ยังไม่เสร็จดีจนตอนนี้สมบูรณ์พร้อมและกลายเป็นแม็กเนตดึงดูดผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ จริงๆ แล้วสิงห์ปาร์คไม่ใช่ไร่ชา แต่ทางนั้นนิยามตัวเองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเสียมากกว่า โดยมีรถนำเที่ยวที่ออกทุกครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ 08.30-17.30 น. เสียค่าเข้าคนละ 50 บาท ใช้เวลานำเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง ปกติก็จะเป็นทุ่งดอกคอสมอส (เดือนกุมภาพันธ์และพฤศจิกายน) และไร่ชาอูหลงเบอร์ 12 (ตลอดปี) โดยมีภูภิรมย์ที่เป็นทั้งร้านอาหารและจุดชมวิวที่สูงที่สุดของสิงห์ปาร์ค รวมถึงให้อาหารสัตว์ อาทิ ยีราฟ ม้าลาย วัววาตูซี่ แน่นอนว่ามีให้เก็บผักผลไม้ด้วย โดยเฉพาะฤดูหนาว อาทิ พุทรา มัลเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และเมลอน
นอกจากฟาร์มทัวร์แล้วในพื้นที่ของ Farm Fest ยังเป็นสถานที่ใช้จัดงานใหญ่ประจำปีถึง 2 งาน เดือนพฤศจิกายนเป็นคอนเสิร์ตฤดูหนาว ส่วนเดือนกุมภาพันธ์เป็นเทศกาลบอลลูนนานาชาติ รวมถึงกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างจักรยานปั่นรอบไร่ 2 กิโลเมตรและ 9 กิโลเมตร โหนสลิง ชมวิวไร่ชาแบบ 360 องศา โหนสลิงจากหอซิปไลน์ 9 ชั้น ปีนผาจำลอง พร้อมปิดท้ายด้วยมื้ออาหารที่ใช้วัตถุดิบจากในฟาร์มซึ่งมีให้เลือกทั้งอาหารนานาชาติที่ภูภิรมย์ และอาหารอิตาเลียนที่ห้องอาหาร Barn House Pizzeria
ชอบไร่ชาแบบไหนเลือกแวะไปได้เลย หรือจะขึ้นดอยแม่สลองรับลมเย็นสบายและสายหมอกของไร่ชาก็ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณเอง
Tag:
ท่องเที่ยว, เชียงราย, ไร่ชา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น