จะเห็นว่าไม่เพียงแต่เด็กๆ เท่านั้นที่ชอบกินของหวาน ผู้สูงอายุก็ชอบของหวานมากเช่นกัน โดยเฉพาะจากข้อมูลที่เก็บรวบรวมจะพบว่าผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปจะชอบรสหวานมากขึ้น เช่น ขนมหวาน เค้ก ไอศกรีม หวานเย็นต่างๆ
สาเหตุที่ผู้สูงอายุชื่นชอบขนมหวานเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ได้แก่ ต่อมรับรสที่รับรสชาติต่างๆ ลดลง จากเดิมที่เรามีต่อมรับรสประมาณ 10,000 -15,000 ต่อมรับรส แต่พออายุเข้าสู่ช่วง 70 ปีต่อมรับรสจะลดลง 2 ใน 3 ของต่อมรับรสทั้งหมด จึงทำให้กินอะไรก็ไม่อร่อย และรสหวานเป็นรสชาติที่เด่นชัดที่ผู้สูงอายุยังคงรู้สึกได้มากที่สุด ส่วนรสเค็มและรสขมจะเป็นรสชาติแรกๆ ที่ผู้สูงอายุจะรับรสได้ลดลง สาเหตุที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเสื่อมของต่อมรับรส เช่น ยา หรือโรคบางโรค เช่น โรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง เชื่อมโยงให้ระบบประสาทความรู้สึกต่างๆ ลดลง
นอกจากนี้ในผู้สูงอายุต่อมน้ำลายจะลดลง ทำให้ปากคอแห้ง ดื่มน้ำน้อยลง ซึ่งยิ่งทำให้การรับรสลดลง โดยต่อมรับรสของผู้สูงอายุมีความคล้ายกันกับเด็กทารกที่พัฒนาการของต่อมรับรสต่างๆ ยังไม่ดีจึงชอบรสหวาน รวมทั้งระบบประสาทของจมูกก็ลดลง ส่งผลให้ได้กลิ่นต่างๆ ลดลงด้วย ยิ่งส่งผลให้เกิดความอยากความหวานมากขึ้น แต่ในทางสุขภาพแล้วข้อกำหนดสารอาหารสำหรับผู้สูงอายุกลับมีทิศทางตรงกันข้าม คือคำแนะนำให้ผู้สูงอายุลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลและของหวานลง ในขณะที่ความชอบรสชาติหวานกลับมีมากขึ้น
ในแต่ละวันผู้สูงอายุไม่ควรกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง วิธีตรวจสอบดูได้จากการอ่านฉลากโภชนาการแล้วดูตรงปริมาณน้ำตาล ลดการเติมน้ำตาลลงในอาหาร ใน 1 วันไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 4 ช้อนชา ลดการกินผลไม้รสหวานจัดหรือผลไม้แห้ง ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานจนติดเป็นนิสัย
หลากหลายไอเดียของหวานที่ดีต่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ
- หั่นผลไม้เป็นชิ้นเล็กๆ กินกับโยเกิร์ตไขมันต่ำ
- หั่นผัก เช่น แครอต แตงกวา เป็นแท่งแล้วแช่เย็น กินกับเนยถั่ว
- หั่นผลไม้แห้งออกเป็นชิ้นเล็กๆ เคี้ยวช้าๆ เวลาอยากกินขนมหวาน
- นำแอปเปิลมาปั่นเป็นซอสแอปเปิล ใช้ราดบนขนมปัง
- เน้นอาหารที่ทำจากธัญพืช ธัญชาติไม่ขัดสี แต่ทำให้นิ่มและเคี้ยวง่าย
- ระวังอาหารที่มีความเค็มสูง
จากข้อปฏิบัติและคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้ความอยากรสหวานของผู้สูงอายุลดลงได้
Tag:
, Food for life, อาหารกับผู้สูงอายุ,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น