ข้อดีข้อหนึ่งของประเทศเยอรมนีคือการให้ความสำคัญกับการศึกษา เพราะเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเรียนหนังสือได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นคนเยอรมันหรือคนต่างชาติ เฉกเช่นคุณแพม-มะสารี วิศรุตเวช อดีตนักเรียนไทยผู้เดินทางไปเรียนตั้งแต่ภาษาจนถึงระดับปริญาตรีและโทที่เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ในคณะเศรษฐศาสตร์ Heidelberg University

เรียนฟรีแต่ไม่ได้เรียนง่าย…นอกจากความเข้มข้นของเนื้อหาแล้ว สิ่งที่เหมือนจะดีแต่ก็สามารถเป็นดาบสองคมได้คือจะไม่มีการตาม ไม่มีการทวงงานจากอาจารย์ และข้อกำหนดให้ผู้เรียนสามารถสอบไม่ผ่านได้เพียงแค่สองครั้ง มากกว่านั้นจะถือว่าเรียนไม่จบ ถ้าใครจัดสรรเวลาได้ดีคงไม่มีปัญหา แต่ถ้าชะล่าใจเกินไปก็ไม่รอดง่ายๆ เหมือนกัน

ชีวิตประจำวันของคุณแพมได้เข้าครัวทำอาหารไทยอยู่เป็นประจำ หรือทำอาหารตะวันตกง่ายๆ อย่างพาสตา ไม่เช่นนั้นก็เลือกออกไปกินที่ร้านอาหาร ในขณะที่คนเยอรมันส่วนใหญ่จะฝากท้องกับขนมปังทุกวัน โดยเฉพาะมื้อเช้าจะกิน Bauernbrot บางครั้งก็กินเพรทเซลกับชา กาแฟ และกินเนื้อสัตว์ ไส้กรอกบ้างหลังมื้อเช้าผ่านไป คุณแพมเล่าต่อว่าคนที่นี่ก็ไม่ค่อยกินซอสมะเขือเทศกัน ส่วนมากเป็นเกลือ พริกไทย หรือเกรวีมากกว่า แม้แต่ซีฟู้ดก็ไม่ได้หลากหลาย มักนำปลามาทอดหรือย่าง ส่วนซุปจะนิยม Flädlesuppe หรือซุปใสมีเอกลักษณ์คือใส่แป้งผสมไข่หั่นชิ้นยาวแล้วขดเป็นชิ้น ขนมหวานที่กินกันทั่วไปและหาง่ายตามสถานีรถไฟก็คือ Butterkuchen

แน่นอนว่าเครื่องดื่มสุดฮิตต้องเป็นเบียร์ ยิ่งใน Oktoberfest ยิ่งดื่มกันมาก แต่ก็มีข้อจำกัดว่าโรงเบียร์สามารถขายเบียร์แบบไหน ยี่ห้อไหนได้บ้างที่ผ่านมาตรฐานของทางการ นอกจากเบียร์หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่าไวน์ที่เยอรมนีก็ได้รับความนิยม โดยเฉพาะ Riesling Wine

ถามถึง Culture Shock คุณแพมนึกอยู่สักพัก แล้วก็ยกให้เรื่องการปิดร้านค้าเร็วของคนที่นี่ที่สร้างความตกใจให้เล็กน้อย เพราะแค่ราวๆ 2 ทุ่มก็เงียบกริบ และวันอาทิตย์ยังเป็นวันหยุดในระดับที่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ไม่เปิด ยกเว้นร้านอาหารไม่กี่ร้านเท่านั้น สำหรับคนไทยเราผู้มาจากประเทศซึ่งมีสตรีทฟู้ดรอต้อนรับยาวถึงเที่ยงคืนย่อมต้องใช้เวลาทำความเข้าใจบ้าง

ในฐานะที่เรียนและใช้ชีวิตอยู่เยอรมนีอยู่หลายปี คุณแพมรู้สึกว่านิสัยใจคอบางอย่างของคนเยอรมันถึงคนไทยจะชอบบอกว่าเคร่งเกินไป ไม่ยืดหยุ่น แต่ก็มีข้อดีที่ทำให้เรารอบคอบและมีระเบียบมากขึ้น หรือการที่คนเยอรมันไม่ค่อยยิ้มให้คนไม่รู้จัก ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะถ้าสนิทกันแล้วพวกเขาก็สามารถเป็นเพื่อนที่จริงใจกับเราได้เหมือนกัน

วัฒนธรรมหลายอย่างของเยอรมนีอาจจะต่างจากไทย แต่ด้วยความเป็นคนปรับตัวง่าย คุณแพมไม่มีปัญหากับอาหารการกิน ถ้าให้กลับไปอยู่ก็อยู่ได้ชิลๆ เพราะอากาศดี และปลอดภัย เพียงแต่ข้อเสียคือครอบครัวไม่ได้อยู่ที่นั่นแหละ ได้อย่างเสียอย่างว่ากันไป

Tag: อาหารเยอรมัน, เยอรมนี