การลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการบริหารเงินและประหยัดภาษี การเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีสำหรับมือใหม่อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย บทความนี้จึงจะมาแนะนำเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินในการเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจและได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสูงสุด

1. ทำความเข้าใจประเภทของกองทุนลดหย่อนภาษี ก่อนเลือกกองทุนลดหย่อนภาษี มือใหม่ในวงการนี้ต้องทำความรู้จักกองทุนแต่ละประเภทให้ดี เพื่อเลือกประเภทที่เหมาะกับเป้าหมายทางการเงินและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยพิจารณาจากอายุ รายได้ และแผนการเงินในอนาคต โดยเบื้องต้น มีประเภทกองทุนที่ควรรู้จัก ดังนี้

• กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): เหมาะสำหรับการออมเพื่อเกษียณ สามารถลงทุนได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือแบบผสม
• กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF): เน้นลงทุนในหุ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงได้
• กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.): เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีสวัสดิการจากรัฐหรือเอกชน เน้นความมั่นคงและผลตอบแทนที่แน่นอน
• กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ: สำหรับพนักงานบริษัทที่มีนโยบายสมทบเงินเข้ากองทุน ช่วยสร้างวินัยการออมระยะยาว

2. พิจารณาระยะเวลาการลงทุน กองทุนลดหย่อนภาษีแต่ละประเภทมีเงื่อนไขระยะเวลาการถือครองที่แตกต่างกัน เลือกกองทุนที่สอดคล้องกับแผนการเงินระยะยาวของคุณ โดยคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้เงินในอนาคตด้วย

• RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องจนอายุ 55 ปี และถือครองอย่างน้อย 5 ปี นับตั้งแต่วันแรกที่ซื้อ
• LTF ต้องถือครองอย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน (สำหรับการลงทุนก่อนปี 2563)
• กอช. ต้องสะสมเงินจนถึงอายุ 60 ปีบริบูรณ์จึงจะได้รับเงินบำนาญ
• กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มักมีเงื่อนไขตามอายุงานหรือเมื่อสิ้นสุดการเป็นพนักงาน

3. ศึกษาผลการดำเนินงานย้อนหลัง แม้ว่าผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้รับประกันผลในอนาคต แต่การดูผลตอบแทนย้อนหลัง 3-5 ปีของกองทุนลดหย่อนภาษี จะช่วยให้มือใหม่เข้าใจความสม่ำเสมอของผลการดำเนินงานของกองทุน โดยควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้

• ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (Average Annual Return)
• ความผันผวนของผลตอบแทน (Standard Deviation)
• ดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงาน (Benchmark) เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

4. ประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ในการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี มือใหม่ควรพิจารณาความเสี่ยงที่ยอมรับได้ร่วมด้วย โดยแต่ละกองทุนก็มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เช่น

• กองทุนตราสารหนี้: ความเสี่ยงต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาเงินต้นและรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ
• กองทุนผสม: ความเสี่ยงปานกลาง ผสมผสานระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมดุลระหว่างความมั่นคงและการเติบโต
• กองทุนหุ้น: ความเสี่ยงสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงและสามารถรับความผันผวนได้

ด้วยเทคนิคการเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีเหล่านี้ แม้จะเป็นมือใหม่ ก็สามารถวางแผนการลงทุนได้ไม่ยาก ใส่ใจเพื่อเลือกลงทุนในกองทุนที่เหมาะสม ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งในแง่ของการประหยัดภาษีและการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว 

Tag: การเงิน