Pulp Fiction : อาหารในวัฒนธรรมของเควนติน

วันที่ 17 กรกฎาคม 2560  4,931 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 204 เดือนกรกฎาคม 2560

คอหนังของผู้กำกับสุดติสต์ ฮา และเลือดสาดอย่างเควนติน ทาแรนติโน (Quentin Tarantino) คงรู้กันดีว่าสิ่งที่ผู้กำกับคนนี้รักและรักษาไว้ในฉากสวยๆ ของเขาอยู่เสมอนั่นก็คือ "อาหาร" และภาพยนตร์ที่นับเป็นปฐมบทในด้านนี้ของเควนตินคงไม่พ้น Pulp Fiction (1994) หนังที่แก้มแดงทดไว้ในใจมานานแสนนาน จนเพิ่งมีโอกาสดูเมื่อไม่นานมานี้ผ่านเว็บไซต์ดูหนังแบบถูกลิขสิทธิ์ที่กลายเป็นตัวเลือกสุดฮิตในการดูหนังของคนยุคนี้

Pulp Fiction

สิ่งที่น่าจดจำของ Pulp Fiction ต้องยกให้กับเทคนิคการเล่าเรื่องที่สลับไปมาได้อย่างประทับใจ เมื่อตอนสุดท้ายของเรื่องไม่จำเป็นต้องเป็นตอนจบของหนัง อันนำมาสู่วลีสุดเก๋ที่ว่า "Three Stories About One Story " (3 เรื่องใน 1 เดียว) ด้วยการเล่าเรื่องของนักฆ่า 2 คน วินเซนต์และจูลส์ที่ทำภารกิจทวงของคืนให้มาเซลลัสผู้เป็นเจ้านาย ซึ่งวินเซนต์ก็มีภารกิจพามีอาภรรยาเจ้านายเที่ยวเสียด้วย ในขณะที่มาเซลลัสเองก็ดันมีปัญหากับบุตช์นักมวยที่ทำให้แพ้พนัน ก่อนที่ทั้ง 3 เรื่องจะมาขมวดปม และจบลงที่ร้านอาหารซึ่งกำลังมีการปล้นที่เปิดเรื่องไปในช่วงแรก

Pulp Fiction

นอกจากการดำเนินเรื่อง สิ่งที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กันก็เป็นเรื่องของอาหาร แม้เราจะไม่สามารถระบุชัดได้ว่านี่คือหนังอาหาร แต่เอาเข้าจริงผู้กำกับคนเก่งก็ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับอาหารอยู่ไม่น้อย เห็นได้จากภาพมีม (Meme) หรือภาพล้อเลียนของหนังที่มักมีประโยคของอาหารใส่ลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นคำว่า "Royal with Cheese" คำที่วินเซนต์พูดอวดรู้กับจูลส์ว่าร้านแมคโดนัลด์ (McDonald's) ของฝรั่งเศสเรียก "ชีสเบอร์เกอร์" (Cheeseburger) แบบนี้ แต่ความจริงดันเรียกว่า Royal Cheese เฉยๆ (แก้มแดงแอบค้นมา) หรือจะเป็นประโยคที่บรรยายว่า "โคตรอร่อย" ของจูลส์อย่าง "This is some serious gourmet shit" ก็กลายเป็นม็อตโตที่นำมาใช้กันบ่อยๆ

Pulp Fiction

Pulp Fiction

งานวิจัยหลายชิ้นที่ทำการศึกษาสัญลักษณ์เกี่ยวกับการใช้อาหารของเควนติน ล้วนกล่าวตรงกันว่าน่าจะเป็นเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยคำหยาบคายและความรุนแรง ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะมาแก้ให้สถานการณ์ไม่ให้เรื่องนี้ทำร้ายใจคนดูมากเกินไปก็คือ ฉากอาหารนี่แหละ อย่างฉากที่บุตช์ยิงวินเซนต์หน้าห้องน้ำก็ได้เสียงปิ๊ง! ของเครื่องปิ้งขนมปังที่ปิ้งป๊อปทาร์ตเสร็จมาช่วยชีวิต จนสามารถลดอัตราการนองเลือดได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

Pulp Fiction

ใช่ว่าความดีงามของอาหารจะหมดอยู่เพียงเท่านี้ เนื่องจากมันยังถูกใช้เพิ่มมิติให้กับตัวละครถึงพลังอำนาจ ซึ่งเห็นได้ในซีนที่จูลส์แย่งเบอร์เกอร์และโซดาซ่าจากแก๊งที่เอาของรักของเจ้านายเขาไปมากิน ก่อนจะสะสางชำระหนี้แค้นอย่างสาสม ซึ่งนั่นช่างต่างกับมีอาที่แสดงอำนาจ (ของการเป็นเมียนาย) ด้วยการแบ่งมิลก์เชกให้กับวินเซนต์อย่างเป็นกันเอง หรืออาจจะพูดได้ว่าอาหารเป็นตัวแทนของพระเดชและพระคุณไปพร้อมๆ กันก็ไม่น่าจะผิด

Pulp Fiction

แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องมีอาหารเป็นตัวแทนด้วยล่ะ แก้มแดงเชื่อว่าหลายคนคงมีคำตอบอยู่ในใจ และนั่นก็เป็นเพราะอาหารเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์น่ะสิ

แหล่งข้อมูล

https://moviepilot.com

http://www.epicurious.com

ภาพประกอบจาก

http://imdb.com


Tag: Food on Film, รีวิวหนัง

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed