น่าดีใจที่ปัจจุบันบ้านเรามีแบรนด์อาหารเฉพาะทางเพื่อผู้ป่วยโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCDs) เพิ่มขึ้นอีกแบรนด์แล้ว G&C ขอพาทุกคนไปรู้จัก Green & Organic ของคุณกบ-ชลกานต์ วิสุทธิพิทักษ์กุล ผู้บริหารหญิงเก่งแห่งบริษัท กรีน แอนด์ ออแกนิค จำกัด กับแนวคิดเรื่อง “กินอาหารเป็นยา ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร” ที่เธออยากแบ่งปันกับทุกคน
“ปัจจุบันไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีอัตราการเกิดโรคไตสูงที่สุด มีผู้ป่วยไตเรื้อรังกว่า 11 ล้านคน มีแนวโน้มฟอกไตเพิ่มขึ้น 50,000 คนต่อปี โดยมีผู้ป่วยวิกฤติที่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟอกไตมากกว่า 82,000 คน”
คุณกบ-ชลกานต์เริ่มต้นบทสนทนากับเราด้วยข้อมูลที่น่าตกใจที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์อาหารเฉพาะโรค Green & Organic เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยกลุ่มโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCDs) อย่างโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง ได้มีมื้ออาหารที่เหมาะสมเพื่อชะลอและฟื้นฟูโรคได้อีกทางหนึ่ง
ก่อนหน้านี้คุณกบประสบความสำเร็จอย่างมากกับธุรกิจตกแต่งบ้าน รวมถึงผ่านงานด้านโฆษณาให้แบรนด์ระดับสากลมาหลายงาน การลงมือทำแบรนด์อาหารเพื่อผู้ป่วยเฉพาะโรคและคนที่อยากดูแลสุขภาพอย่างจริงจังจึงเป็นงานที่เธอทำเพื่อตอบโจทย์ทางจิตใจด้วย
“ไลฟ์สไตล์ของเราคือการใช้ชีวิตแบบดูแลสุขภาพอยู่แล้วมาตั้งแต่ยังอายุน้อย การทำเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องง่ายมาก แค่นำไลฟ์สไตล์ของเรามาทำให้คนส่วนใหญ่ได้เข้าใจมากขึ้น แล้วก็คิดว่าจะทำทั้งทีก็ทำให้ดีไปเลย ไม่เคยจำกัดตัวเองว่าเราเป็นบริษัทเล็กต้องทำแต่เรื่องเล็ก บริษัทเล็กจะทำเรื่องใหญ่ก็ได้เหมือนกันค่ะ”
อาหารของ Green & Organic เป็นอาหารไทยเน้นวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ออกแบบเฉพาะรายบุคคลโดยนักกำหนดอาหารวิชาชีพ นักโภชนาการ ตามผลเลือดและระยะของโรค แต่ในขณะเดียวกันก็รสชาติดีเพราะปรุงโดยเชฟระดับโรงแรมที่มีกว่า 200 เมนู อาทิ ปลานึ่งซีอิ๊ว แกงเลียง ผัดบวบไข่ขาว ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ฯลฯ (เราลองชิมแล้วชอบหลายเมนูเลยทีเดียว) เลือกได้ทั้งรายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งจะมีการสัมภาษณ์และให้คำปรึกษาโดยนักโภชนาการ จากนั้นวางแพลนจัดอาหารที่เหมาะสมส่งไปให้ถึงที่บ้าน ส่วนระยะเวลาเพื่อวัดผลคุณกบบอกว่าต้องดูเป็นรายๆ ไป
“แต่ละคนมีปัจจัยที่แตกต่างกันทั้งอายุ สภาวะโรคหลัก โรคแทรกซ้อน พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ไม่มีอะไรเท่ากันค่ะ เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินต้องใช้ความเข้าใจเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนด้วย เราเชื่อว่าอาหารไทยคือยาที่อร่อยที่สุดในโลก เรามีขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ช่วยชูรส เบี่ยงเบนรสเค็มไปที่รสอื่น เราไม่ใส่เกลือ ไม่ใส่ผงชูรส กลุ่มลูกค้าปัจจุบันเป็นผู้ป่วยโรคไต 80% ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคความดัน 20% ซึ่งมีทั้งลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งเขาสามารถปรึกษากับนักโภชนาการได้ตลอด บางคนถามแทนคุณแม่ก็มี นักโภชนาการของเราก็จะคอยตอบให้”
นอกจากอาหารคาวพร้อมกินแล้ว คุณกบยังร่วมมือกับทั้งภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง ร่วมทำงานวิจัย และผลักดันเรื่องการลดอัตราผู้ป่วย NCDs อีกทั้งยังแตกไลน์ธุรกิจเป็นขนม และเครื่องปรุงรสโซเดียมต่ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และน้ำจิ้มต่างๆ ซึ่งมีแพลนส่งออกไปจำหน่ายในประเทศแถบตะวันออกกลางในช่วงปลายปีนี้ด้วย
“สิ่งที่เราพยายามผลักดันอย่างมากคือการกินอาหารเป็นยาให้เกิดขึ้นได้จริง สิ่งที่มีค่ามากกว่าตัวเงินคือการที่เราได้ช่วยผู้คนไปด้วย
“เป็นเรื่องที่มีค่าทางจิตใจค่ะ”
Tag:
การดูแลสุขภาพ, อาหารเฉพาะโรค, อาหารเพื่อสุขภาพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
SHANU You understand your projects stand out of the crowd. There is something unique about them. It seems to me all of them are brilliant. alexistogel login
19 ชั่วโมงก่อน