ตองกี แฟร์ทิล จีเอ็มแห่งเลอโนท ประเทศไทย กับภารกิจปั้นเชฟมืออาชีฟป้อนตลาด Hospitality ของไทย

วันที่ 25 เมษายน 2567  537 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 285 เดือนเมษายน 2567

ฉบับนี้เรามีนัดกับผู้บริหารชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่ง แห่ง Lenôtre Culinary Arts School Thailand คุณตองกี แฟร์ทิล (Tanguy Fertil) General Manager โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ผู้ย้ายมาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่ช่วงที่เริ่มก่อตั้งโรงเรียน เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา คุณตองกีได้สัมผัสกับชีวิตและผู้คนในเมืองไทย และค้นพบว่าเมืองไทยมีอาหารที่อร่อยมากมาย ทั้งแกงเขียวหวาน แกงฮังเล และข้าวซอย นอกจากนี้เขายังเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางการสร้างเชฟมืออาชีพ

ตองกี แฟร์ทิล จีเอ็มแห่งเลอโนท ประเทศไทย กับภารกิจปั้นเชฟมืออาชีฟป้อนตลาด Hospitality ของไทย

แม้ว่าชื่อของ Gaston Lenôtre จะเป็นที่ยอมรับอย่างมากในวงการเชฟและร้านอาหารชั้นนำทั่วโลก แต่คุณตองกีก็ยังมีความท้าทายในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ซึ่งมีมาตรฐานการเรียนการสอนเหมือนกับ École Lenôtre Paris ที่ฝรั่งเศส ซึ่งคุณตองกีอยากเชิญชวนให้นักเรียนชาวไทยได้มาสัมผัสสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นมืออาชีพระดับสูงของโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท แห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง

ตองกี แฟร์ทิล จีเอ็มแห่งเลอโนท ประเทศไทย กับภารกิจปั้นเชฟมืออาชีฟป้อนตลาด Hospitality ของไทย

สัมผัสความแตกต่างที่ Lenôtre Culinary Arts ประเทศไทยต่างจากที่อื่น
เรามีรากฐานมาจากศิลปะการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศส (French Culinary Art) และสอนโดยเชฟชาวฝรั่งเศสเท่านั้น โรงเรียนยังมีความพิเศษมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ในห้องครัว อุปกรณ์สำหรับเชฟผู้สอนล้วนได้รับมาตรฐานระดับโลก ดังนั้นนักเรียนที่แสวงหาการเรียนรู้ในระดับสูงจะไม่ผิดหวังที่มาเรียนกับเราครับ

ที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท เราเชื่อในหลักการที่ว่า “Learning by Doing - การเรียนรู้จากการลงมือทำ” การเรียนกับโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท เราให้นักเรียนได้ฝึกฝนลงมือทำอาหาร สะสมประสบการณ์ไปพร้อมกับเชฟผู้สอน ทั้งยังทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับจังหวะการทำงานของเชฟมืออาชีพจริงๆ อีกด้วย

เราให้ความสำคัญกับปัจจัย 3 ข้อ นั่นคือ เทคนิคการสอน อุปกรณ์เครื่องมือ รวมถึงวัตถุดิบและเครื่องปรุงต้องเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นเลิศที่สุด คุณตองกียกตัวอย่างให้เราฟังว่า เราใช้ช็อกโกแลตที่เป็นแบรนด์เฉพาะ ส่วนเบเกอรี่ก็ต้องใช้แป้งจากฝรั่งเศส โรงเรียนของเราได้เชิญเชฟ MOF (Meilleur Ouvrier de France) จากฝรั่งเศสเพื่อมาสอนนักเรียนในหลักสูตร Professional Chef Diploma และยังได้เปิดโปรแกรม Master Class ให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย

ตองกี แฟร์ทิล จีเอ็มแห่งเลอโนท ประเทศไทย กับภารกิจปั้นเชฟมืออาชีฟป้อนตลาด Hospitality ของไทย

Lenôtre เหมาะกับใครบ้าง
ที่นี่มีหลักสูตรที่เหมาะสำหรับนักเรียนแต่ละระดับ โดยมีหลักสูตร Professional Chef Diploma เป็นหลักสูตรระยะยาวที่สอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ซึ่งหากคุณมีประสบการณ์มาแล้วก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเริ่มจากขั้นพื้นฐานก็ได้ สามารถเริ่มที่ระดับ 2 หรือระดับ 3 โดยเรามีการทดสอบวัดระดับก่อนเข้าเรียน เพื่อให้คุณได้เรียนในระดับที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ และยังมีหลักสูตรระยะสั้น Advance Training Course ที่มีความยาวเพียง 1-3 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองสัมผัสการเรียนการสอนของเรา ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศห้องเรียน เชฟผู้สอน อุปกรณ์ วัตถุดิบต่างๆ ไม่ต้องกังวลว่าการเรียนการสอนที่นี่จะยากเกินไป แม้ว่าเราจะสอนเทคนิคต่างๆ อย่างเต็มที่ แต่เราก็เน้นความเข้าใจและสร้างบรรยากาศสนุกสนานควบคู่ไปด้วย ทุกคลาสจะมีล่ามแปลเป็นภาษาไทย ช่วยอธิบายให้เข้าใจง่าย ทางเรายังมีบริการออกแบบการเรียนการสอน (Tailor-Made Course) ทั้งระดับพื้นฐานและมืออาชีพ ไม่ว่าจะเพื่อการเรียนรู้การทำอาหาร หรือ Team Building ก็สามารถติดต่อพนักงานของเราได้เลยครับ

สถานที่และอุปกรณ์ชั้นเลิศ อีกจุดเด่นที่ไม่อาจมองข้าม
แม้ว่าโรงเรียนของเราจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่การเดินทางมาที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ก็สะดวกมากๆ ครับ นอกจากจะอยู่ใกล้ทางด่วนแล้ว ยังมีที่จอดรถมากมาย ที่สำคัญที่สุดคือตัวอาคารเรียนนี้สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ระบบต่างๆ จึงออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนโดยเฉพาะ อุปกรณ์ครัวทันสมัยและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากยุโรป นอกจากนี้ตัวอาคารของโรงเรียนยังออกแบบตามมาตรฐานยุโรป ทั้งทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย บรรยากาศอบอุ่นน่าอยู่ อุปกรณ์ครบครัน ห้องสมุด ห้องอาหาร ห้องอาบน้ำ พร้อมให้นักเรียนใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย

แอบส่องคอร์สเรียนที่ได้รับความนิยม
คอร์สเรียนอันดับหนึ่งของเราคือหลักสูตร Pastry ซึ่งเป็นหลักสูตรขึ้นชื่อของโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท อยู่แล้ว รองลงมาจะเป็นหลักสูตร Bakery และ Cuisine ซึ่ง Bakery ก็เป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ผมอยากขอไฮไลต์หลักสูตรพิเศษของเรา นั่นคือ “Chocolate Art” และ “Sugar Art” เพราะทั้ง 2 หลักสูตรนี้ ใช่ว่าจะมีสอนทั่วไป เพราะต้องอาศัยเชฟผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และยังต้องมีห้องเรียนและอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมได้ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งห้องเรียนของเรามีความพร้อมอย่างมากครับ

ตองกี แฟร์ทิล จีเอ็มแห่งเลอโนท ประเทศไทย กับภารกิจปั้นเชฟมืออาชีฟป้อนตลาด Hospitality ของไทย

เทรนด์การเรียนทำอาหารในตลาดโลก
ในฝรั่งเศส ตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมา ผมพบว่ามีหลายคนเริ่มสำรวจในสิ่งที่ตัวเองสนใจ และตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ ในประเทศไทยผมว่าก็คล้ายกัน แต่แตกต่างนิดหนึ่งตรงที่คนไทย แม้ว่าจะมีงานทำแล้ว ก็ยังอยากมีอาชีพที่ 2 และการทำอาหารมักเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ซึ่งตลาดนี้ยังไม่โตมากนักในเมืองไทย ผมมองว่าแวดวง Hospitality ในเมืองไทยเองก็กำลังอยู่ในช่วงเติบโตและเน้นจุดเด่นด้านอาหารมากยิ่งขึ้น ซึ่งการ Training เชฟเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และก็เป็นตลาดที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอีกเช่นกันครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในแวดวงการทำอาหาร ก็สามารถแวะมาเยี่ยมชม พูดคุย ได้ที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ไม่แน่นะ หากได้มาแล้วคุณอาจจะได้ไอเดียดีๆ กลับไปก็เป็นได้


Tag: Food in Biz, เลอโนท ประเทศไทย

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed