ฉบับนี้เรามีนัดกับผู้บริหารชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่ง แห่ง Lenôtre Culinary Arts School Thailand คุณตองกี แฟร์ทิล (Tanguy Fertil) General Manager โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ผู้ย้ายมาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่ช่วงที่เริ่มก่อตั้งโรงเรียน เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา คุณตองกีได้สัมผัสกับชีวิตและผู้คนในเมืองไทย และค้นพบว่าเมืองไทยมีอาหารที่อร่อยมากมาย ทั้งแกงเขียวหวาน แกงฮังเล และข้าวซอย นอกจากนี้เขายังเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูงอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางการสร้างเชฟมืออาชีพ
แม้ว่าชื่อของ Gaston Lenôtre จะเป็นที่ยอมรับอย่างมากในวงการเชฟและร้านอาหารชั้นนำทั่วโลก แต่คุณตองกีก็ยังมีความท้าทายในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ซึ่งมีมาตรฐานการเรียนการสอนเหมือนกับ École Lenôtre Paris ที่ฝรั่งเศส ซึ่งคุณตองกีอยากเชิญชวนให้นักเรียนชาวไทยได้มาสัมผัสสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นมืออาชีพระดับสูงของโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท แห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง
สัมผัสความแตกต่างที่ Lenôtre Culinary Arts ประเทศไทยต่างจากที่อื่น
เรามีรากฐานมาจากศิลปะการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศส (French Culinary Art) และสอนโดยเชฟชาวฝรั่งเศสเท่านั้น โรงเรียนยังมีความพิเศษมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ในห้องครัว อุปกรณ์สำหรับเชฟผู้สอนล้วนได้รับมาตรฐานระดับโลก ดังนั้นนักเรียนที่แสวงหาการเรียนรู้ในระดับสูงจะไม่ผิดหวังที่มาเรียนกับเราครับ
ที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท เราเชื่อในหลักการที่ว่า “Learning by Doing - การเรียนรู้จากการลงมือทำ” การเรียนกับโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท เราให้นักเรียนได้ฝึกฝนลงมือทำอาหาร สะสมประสบการณ์ไปพร้อมกับเชฟผู้สอน ทั้งยังทำให้นักเรียนคุ้นเคยกับจังหวะการทำงานของเชฟมืออาชีพจริงๆ อีกด้วย
เราให้ความสำคัญกับปัจจัย 3 ข้อ นั่นคือ เทคนิคการสอน อุปกรณ์เครื่องมือ รวมถึงวัตถุดิบและเครื่องปรุงต้องเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นเลิศที่สุด คุณตองกียกตัวอย่างให้เราฟังว่า เราใช้ช็อกโกแลตที่เป็นแบรนด์เฉพาะ ส่วนเบเกอรี่ก็ต้องใช้แป้งจากฝรั่งเศส โรงเรียนของเราได้เชิญเชฟ MOF (Meilleur Ouvrier de France) จากฝรั่งเศสเพื่อมาสอนนักเรียนในหลักสูตร Professional Chef Diploma และยังได้เปิดโปรแกรม Master Class ให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย
Lenôtre เหมาะกับใครบ้าง
ที่นี่มีหลักสูตรที่เหมาะสำหรับนักเรียนแต่ละระดับ โดยมีหลักสูตร Professional Chef Diploma เป็นหลักสูตรระยะยาวที่สอนตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ซึ่งหากคุณมีประสบการณ์มาแล้วก็อาจจะไม่จำเป็นต้องเริ่มจากขั้นพื้นฐานก็ได้ สามารถเริ่มที่ระดับ 2 หรือระดับ 3 โดยเรามีการทดสอบวัดระดับก่อนเข้าเรียน เพื่อให้คุณได้เรียนในระดับที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ และยังมีหลักสูตรระยะสั้น Advance Training Course ที่มีความยาวเพียง 1-3 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลองสัมผัสการเรียนการสอนของเรา ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศห้องเรียน เชฟผู้สอน อุปกรณ์ วัตถุดิบต่างๆ ไม่ต้องกังวลว่าการเรียนการสอนที่นี่จะยากเกินไป แม้ว่าเราจะสอนเทคนิคต่างๆ อย่างเต็มที่ แต่เราก็เน้นความเข้าใจและสร้างบรรยากาศสนุกสนานควบคู่ไปด้วย ทุกคลาสจะมีล่ามแปลเป็นภาษาไทย ช่วยอธิบายให้เข้าใจง่าย ทางเรายังมีบริการออกแบบการเรียนการสอน (Tailor-Made Course) ทั้งระดับพื้นฐานและมืออาชีพ ไม่ว่าจะเพื่อการเรียนรู้การทำอาหาร หรือ Team Building ก็สามารถติดต่อพนักงานของเราได้เลยครับ
สถานที่และอุปกรณ์ชั้นเลิศ อีกจุดเด่นที่ไม่อาจมองข้าม
แม้ว่าโรงเรียนของเราจะไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง แต่การเดินทางมาที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ก็สะดวกมากๆ ครับ นอกจากจะอยู่ใกล้ทางด่วนแล้ว ยังมีที่จอดรถมากมาย ที่สำคัญที่สุดคือตัวอาคารเรียนนี้สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ระบบต่างๆ จึงออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนโดยเฉพาะ อุปกรณ์ครัวทันสมัยและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากยุโรป นอกจากนี้ตัวอาคารของโรงเรียนยังออกแบบตามมาตรฐานยุโรป ทั้งทางด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย บรรยากาศอบอุ่นน่าอยู่ อุปกรณ์ครบครัน ห้องสมุด ห้องอาหาร ห้องอาบน้ำ พร้อมให้นักเรียนใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย
แอบส่องคอร์สเรียนที่ได้รับความนิยม
คอร์สเรียนอันดับหนึ่งของเราคือหลักสูตร Pastry ซึ่งเป็นหลักสูตรขึ้นชื่อของโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท อยู่แล้ว รองลงมาจะเป็นหลักสูตร Bakery และ Cuisine ซึ่ง Bakery ก็เป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ผมอยากขอไฮไลต์หลักสูตรพิเศษของเรา นั่นคือ “Chocolate Art” และ “Sugar Art” เพราะทั้ง 2 หลักสูตรนี้ ใช่ว่าจะมีสอนทั่วไป เพราะต้องอาศัยเชฟผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และยังต้องมีห้องเรียนและอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมได้ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ซึ่งห้องเรียนของเรามีความพร้อมอย่างมากครับ
เทรนด์การเรียนทำอาหารในตลาดโลก
ในฝรั่งเศส ตั้งแต่ช่วงโควิดที่ผ่านมา ผมพบว่ามีหลายคนเริ่มสำรวจในสิ่งที่ตัวเองสนใจ และตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพ ในประเทศไทยผมว่าก็คล้ายกัน แต่แตกต่างนิดหนึ่งตรงที่คนไทย แม้ว่าจะมีงานทำแล้ว ก็ยังอยากมีอาชีพที่ 2 และการทำอาหารมักเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ซึ่งตลาดนี้ยังไม่โตมากนักในเมืองไทย ผมมองว่าแวดวง Hospitality ในเมืองไทยเองก็กำลังอยู่ในช่วงเติบโตและเน้นจุดเด่นด้านอาหารมากยิ่งขึ้น ซึ่งการ Training เชฟเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และก็เป็นตลาดที่มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอีกเช่นกันครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในแวดวงการทำอาหาร ก็สามารถแวะมาเยี่ยมชม พูดคุย ได้ที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ไม่แน่นะ หากได้มาแล้วคุณอาจจะได้ไอเดียดีๆ กลับไปก็เป็นได้
Tag:
Food in Biz, เลอโนท ประเทศไทย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น