หลังจากเรียนจบหลักสูตรการประกอบอาหารคาว (Professional Cuisine Chef Diploma) คุณนนธ์ - ภาม กรานเลิศ ทายาทของนักแสดงมากฝีมือตลอดกาลอย่างคุณดวงใจ หทัยกาญจน์ เป็นศิษย์เก่าที่ยังแวะเวียนมาเรียนและมาช่วยงานที่ โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย (Lenôtre Culinary Arts School Thailand) อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงอีเวนต์ใหญ่อย่าง THAIFEX-HOREC Asia 2024 ที่ผ่านมา
“ผมชอบทำกับข้าวตั้งแต่เด็กแล้วครับ ก่อนจะลงเรียนที่นี่ผมไปเรียนที่เมลเบิร์น ออสเตรเลียมาก่อน เคยเรียนด้านอาหารมานิดหน่อย แล้วก็ทำงานในร้านอาหารที่นั่นด้วย”
แรงบันดาลใจที่ทำให้คุณนนธ์ชอบการทำอาหารคือการได้เห็นคุณพ่อเข้าครัวอยู่เสมอ อาหารฝีมือคุณพ่อเป็นคอมฟอร์ตฟู้ดที่กินเมื่อไหร่ก็มีความสุข “เราเห็นคุณพ่อทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก กลับจากโรงเรียนก็จะเข้าครัวไปช่วย เมนูส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารฝรั่งอย่างพวกพาสตา เพราะคุณพ่อเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศมาเหมือนกัน ส่วนอาหารไทยจะเป็นแม่ครัวของที่บ้านทำครับ”
ด้วยความที่สนใจเรื่องการทำอาหารอยู่แล้ว เมื่อรู้ข่าวว่า Lenôtre Culinary Arts School โรงเรียนสอนประกอบอาหารที่มีชื่อเสียงมานานกว่า 50 ปีจากปารีสจะมาเปิดในเมืองไทยเป็นสาขาที่ 2 ของโลก เป็นสถาบันสอนประกอบอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก และสอนโดยเชฟผู้สอนชาวฝรั่งเศส คุณนนธ์เลยตัดสินใจสมัครเรียนทันที อีกทั้งเป็นนักเรียนคนแรกของโรงเรียนที่ลงเรียนหลักสูตรระยะยาว 3 ระดับทีเดียวรวด
“สำหรับผมการเรียนทำอาหารเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ต้องอยู่กับมันให้มากๆ เลยลงเรียนทีเดียวไปเลยดีกว่า เพราะถ้าลงเรียนคอร์สสั้นๆ แล้วไม่ได้ฝึกทำก็อาจจะลืมได้ การมาเรียนที่โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ทำให้มุมมองเรื่องอาหารเปลี่ยนไปเยอะครับ ได้ความรู้มากขึ้น แม้กระทั่งการเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต หรือเลือกซื้อวัตถุดิบก็ยังเปลี่ยนไปเลย”
คุณนนธ์เล่าถึงบรรยากาศในห้องเรียนว่าเต็มไปด้วยเรื่องท้าทายและหาไม่ได้ในตำรา “ระหว่างการเรียนจะมีสอบทุกสัปดาห์ที่เรียกว่า Weekly Exam ความสนุกคือในชั้นเรียนของนนธ์จะมีแค่นนธ์กับเอเลน 2 คน เชฟก็จะบอกว่าวันนี้คุณทำเมนูนี้นะ เนื้อบูร์กิยง (Boeuf Bourguignon) สตูเนื้อตุ๋นในไวน์แดงแบบฝรั่งเศส แล้วให้ Mystery Box มา ซึ่งเราก็ต้องทำออกมาให้ได้ เราไม่ได้เรียนสูตรอาหารในตำราเท่านั้น แต่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ รู้จักเล่นกับวัตถุดิบ ยิ่งเชฟเฟรเดอริก (Frédéric Tual) ที่สอน Cuisine จะเน้นเรื่องความสดใหม่ของอาหารและการใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลมากเป็นพิเศษ ตอนเรียนต้องเอาปฏิทินมากางเลยครับว่าอาหารตามฤดูกาลของแต่ละที่คืออะไร รวมถึงนำวัตถุดิบไทยมาประยุกต์ใช้ อย่างนนธ์ก็ใช้พริกหอมของจังหวัดน่านมาทำด้วย นนธ์มองว่าการทำอาหารเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ถ้าทำแล้วไม่มีความสุขนั่นหมายถึงเราทำอะไรผิดสักอย่างแล้ว”
แม้ว่าจะเรียนรู้ด้านอาหารและสะสมประสบการณ์มาพักใหญ่ แต่คุณนนธ์ก็พูดอย่างถ่อมตัวว่ายังไม่อยากเปิดร้านอาหารใหญ่โต ขอเริ่มจากร้านเล็กๆ ที่สามารถดูแลได้ทั่วถึงก่อน ช่วงนี้คุณนนธ์จึงง่วนอยู่กับการรีโนเวตเรือนหอหลังงามของคุณพ่อและคุณแม่เพื่อทำเป็น Chef’s Table ซึ่งเราน่าจะได้เห็นเร็วๆ นี้
เอาเป็นว่าเชฟนนธ์พร้อมเมื่อไหร่ G&C ตามไปชิมแน่นอน
Tag:
Special Guest, เลอโนท ประเทศไทย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น