สืบต่อเจตนารมณ์ของบิดาแห่งศาสตร์การประกอบขนมอบสมัยใหม่ Gaston Lenôtre ผู้สร้างโรงเรียนสอนประกอบอาหารเพื่อค้นหาเชฟผู้เก่งกาจและมีจริยธรรมสูงในวิชาชีพ Lenôtre Culinary Arts School Thailand สาขาที่ 2 ต่อจากฝรั่งเศส

กำเนิดบิดาแห่งศาสตร์การประกอบขนมอบสมัยใหม่
หนึ่งในตำรับอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกมาจากประเทศฝรั่งเศส ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมกันมายาวนานมากกว่า 100 ปี น้อยคนที่จะไม่รู้จักอาหารฝรั่งเศส และคงมีไม่กี่คนที่ได้สัมผัสรสชาติอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ ซึ่งมีความละเมียดละไม พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ไปจนถึงลีลาการปรุงอาหารและตกแต่งให้แต่ละจานดูสวยงามและแตกต่างกัน จริงที่ว่าใครๆ ก็ทำอาหารฝรั่งเศสได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเชฟอาหารฝรั่งเศสได้ ดังนั้นจึงต้องมีโรงเรียนสอนทำอาหารฝรั่งเศสขึ้นมาเพื่อบ่มเพาะและปูทางให้สามารถก้าวไปเป็นเชฟได้อย่างมีคุณภาพ

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ณ เมืองนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส มีร้านขนมอบเล็กๆ ร้านหนึ่ง เจ้าของชื่อ Gaston Lenôtre แม้ร้านไม่ใหญ่แต่ขนมของเขามีลูกค้ามาอุดหนุนแน่นร้าน จนต่อมาเขามาเปิดร้านขนมหวานและเบเกอรี่ร่วมกับภรรยา Colette Lenôtre ในปี ค.ศ. 1957 ที่กรุงปารีส ร้านประสบความสำเร็จอย่างสูง มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่มีใครไม่รู้จักขนมของร้านนี้ จนต้องขยายกิจการจากการทำขนมและเบเกอรี่มารับจัดเลี้ยงเพิ่ม และสร้างครัวการผลิตรวมถึงห้องแล็บในเมือง Plaisir เพื่อคิดค้นสูตรขนมใหม่ๆ อีกด้วย ผู้คนต่างกล่าวถึงและชื่นชมความอร่อยของขนมจากการคัดเลือกวัตถุดิบที่ดี และชื่นชมฝีมือของ Gaston Lenôtre ในการทำมูสให้เนื้อนุ่มเบา การตัดครีมได้เนียนสวย จนได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งศาสตร์การประกอบขนมอบสมัยใหม่เลยทีเดียว

ด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังมากทำให้ Gaston Lenôtre ตัดสินใจเปิด École Lenôtre หรือโรงเรียนสอนประกอบอาหารขึ้นที่เมือง Plaisir ประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1971 เพื่อเผยแพร่เทคนิคต่างๆ เกี่ยวกับการทำขนม และสอนคุณสมบัติการเป็นเชฟที่ดีให้คนที่ฝันอยากทำอาชีพนี้ ซึ่งหลังจากโรงเรียนเปิด ผู้คนจำนวนมากต่างพากันมาเรียนทำขนมและอาหารกันอย่างคับคั่ง เพื่อค้นหาเทคนิคดีๆ และเคล็ดลับจากบิดาแห่งศาสตร์ขนมอบผู้นี้ เพื่อสร้างพื้นฐานการเป็นเชฟฝีมือดี และอีก 4 ปีต่อมา ร้านของ Lenôtre สาขานอกประเทศก็ได้เกิดขึ้นที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีเป็นที่แรก ตามมาด้วยสาขาในญี่ปุ่น ในตะวันออกกลาง เกาหลีใต้ ลาสเวกัส กรุงเทพฯ และปักกิ่ง

คอร์สเรียนเข้มข้นเน้นการปฏิบัติ
เมื่อโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท เดินทางสู่เมืองไทยแล้ว แน่นอนว่าโรงเรียนแห่งนี้ต้องมีคุณภาพเทียบเท่ากับที่ฝรั่งเศส คุณภา-วิภาพรรณ ธีระถนอมศักดิ์ Sales Manager ของที่นี่เล่าว่าจุดแข็งของ Lenôtre เริ่มตั้งแต่หลักสูตรซึ่งเป็นหลักสูตรเดียวกันกับที่สอนที่ฝรั่งเศส เพราะทางนั้นมีทีม Research & Development คอยคิดสูตรต่างๆ ก่อนจะมาเปิดหลักสูตรในเมืองไทย หลักสูตรของทางโรงเรียนจะมีหลักสูตรการประกอบอาหารคาว (Professional Cuisine Chef Diploma) การประกอบขนมอบ (Professional Pâtisserie Chef Diploma) และการทำขนมปัง (Professional Boulangerie Chef Diploma) ให้เลือกเรียนเป็นคอร์สระยะยาว 4-6 เดือน คอร์สระยะสั้น 1-5 วัน และคอร์สพิเศษ

หลักสูตรระยะยาว หรือหลักสูตรประกาศนียบัตร มีให้เลือกเรียน 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรการประกอบอาหารคาว การประกอบขนมอบ และการทำขนมปัง โดยหลักสูตรการประกอบอาหารคาว และการประกอบขนมอบ มี 3 ระดับ (840 ชั่วโมง) ระยะเวลาเรียน 6 เดือน ส่วนหลักสูตรการทำขนมปัง มี 2 ระดับ (520 ชั่วโมง) ระยะเวลาเรียน 4 เดือน นักเรียนไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน ทางโรงเรียนจะปูพื้นฐานให้ตั้งแต่การเรียนขั้นพื้นฐาน และจะได้ลงมือทำอาหารรายการอาหารคาว ขนมอบ หรือขนมปังที่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อนขึ้น และสุดท้าย ในระดับสูงสุดของแต่ละหลักสูตรจะได้นำเทคนิคที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้ หลักสูตรนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการเริ่มต้นหาความรู้เฉพาะด้านอาหาร ขนมอบ หรือขนมปัง และสามารถใช้เวลาในภาคปฏิบัติได้อย่างเต็มที่ นอกจากหลักสูตรจะเข้มข้นแล้ว ทุกวันศุกร์นักเรียนทุกคนจะต้องผ่านบททดสอบทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมถึงสร้างสรรค์ผลงานตามที่ได้เรียนมาในสัปดาห์นั้นๆ ทั้งมีการประเมินจากเชฟผู้สอนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

หลักสูตรระยะสั้น จะแบ่งเป็นหลักสูตรการประกอบอาหารคาว การประกอบขนมอบ และการทำขนมปัง เช่นเดียวกับหลักสูตรระยะยาว นักเรียนสามารถเลือกเรียนตามความชอบได้ ซึ่งทางโรงเรียนฯ จะเปิดสอนทุกเดือน โดยแต่ละเดือนจะมีหลากหลายคอร์สให้เลือกลงทะเบียน สามารถเข้าไปดูประกาศคอร์สที่น่าสนใจได้ในช่องทางโซเชียลมีเดียของทางโรงเรียนฯ ได้แก่ เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ยกตัวอย่างคอร์สที่น่าสนใจช่วงเดือนเมษายนนี้ ได้แก่ Lobster, Beef Wellington, Choc Bonbons, Sugar Arts, Travelling Cakes

หลักสูตรพิเศษ คลาสพิเศษที่หลายคนน่าจะตั้งตารอ เพราะจะได้เรียนกับเชฟระดับโลก (World Championship) หรือ MOF Chef ซึ่งนับเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติสำหรับเชฟชาวฝรั่งเศส โดย MOF (Meilleur Ouvrier de France) สามารถแปลเป็นไทยได้ว่า “ช่างฝีมือที่ดีที่สุดของฝรั่งเศส” เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1924 ด้วยเหตุผลเพื่อเป็นแนวทางการอนุรักษ์และส่งเสริมงานฝีมือดั้งเดิม ตำแหน่งนี้จะมอบให้ช่างฝีมือที่เก่งที่สุดในแต่ละด้าน รวมถึงด้านอาหาร ซึ่ง MOF Chef ก็จะเดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อสอนเทคนิคขั้นสูงในการทำอาหาร ขนมอบ หรือขนมปังในแบบที่หาเรียนจากที่อื่นได้ยาก เช่น เทคนิคการทำช็อกโกแลต การทำเบเกอรี่ (ทางโรงเรียนฯ จะเปิดคลาสพิเศษนี้เรื่อยๆ ตลอดทั้งปี สามารถติดตามในเว็บไซต์ Lenôtre)

คุณวิภาพรรณยังบอกอีกด้วยว่าการเรียนการสอนของที่นี่เน้นการปฏิบัติอย่างเข้มข้น และแทรกเนื้อหาในส่วนของทฤษฎีระหว่างการเรียนภาคปฏิบัติไปด้วย สำหรับหลักสูตรประกาศนียบัตร นักเรียนเข้าเรียน 08.00-17.00 น. ใน 1 ห้อง จะรับนักเรียน (ไม่เกิน) 12 คน จะได้เรียนกับเชฟมืออาชีพที่ส่งตรงมาจากฝรั่งเศสซึ่งสื่อสารภาษาอังกฤษได้ นอกจากนี้ยังมีผู้ช่วยเชฟคนไทย 1 คน และล่าม 1 คน ช่วยแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย ผู้เรียนไม่ต้องกังวลว่าจะตามไม่ทันบทเรียน จากการเรียนการสอนที่ผ่านมา นักเรียนได้ความรู้และความเข้าใจเต็มที่ ภาษาไม่ใช่อุปสรรคในการเรียนสำหรับที่โรงเรียนฯ แห่งนี้

ส่วนทางด้านเชฟผู้สอนเอง ทุกคนมีความรู้และประสบการณ์ในการทำอาหารและขนมมาอย่างเต็มเปี่ยม สื่อสารภาษาอังกฤษได้ และยังมีประสบการณ์ในการสอนมาก่อน ที่สำคัญทุกคนเข้าใจนักเรียนไทยที่มาเรียน อีกทั้งบุคลิกของเชฟซึ่งคุณวิภาพรรณพูดติดตลกว่า “เข้าถึงได้” ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน นอกห้องเรียนดูสบายๆ อารมณ์ดี แต่เวลาเรียนต้องจริงจังเพราะอยากให้นักเรียนได้ความรู้

ในวันที่ Lenôtre เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย
พูดได้เลยว่าการที่ประเทศไทยได้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย ซึ่งเป็นสาขาที่ 2 ต่อจากประเทศฝรั่งเศส ต้องขอยกความดีความชอบให้กับคุณพอลล์ กาญจนพาสน์ นักธุรกิจชาวไทยผู้มองการณ์ไกล นำ Lenôtre มาเปิดที่เมืองทองธานี ด้วยความมุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจเดิมอย่างอิมแพ็ค ซึ่งมีธุรกิจด้านการจัดเลี้ยงมานานกว่า 20 ปี ให้กลายเป็นสถานที่พัฒนาบุคลากรด้านการทำอาหาร บวกกับความชื่นชอบในการทำอาหารและชอบกินอาหารเป็นชีวิตจิตใจ โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ในประเทศไทยจึงเกิดขึ้น

Note : Special for Lenôtre’s Students
ถึงจะต้องเข้าเรียนแต่เช้า นักเรียนทุกคนสามารถมาฝากท้องเพิ่มพลังได้ที่ห้องอาหารของโรงเรียนฯ ซึ่งมีให้บริการแบบ Self Service ตลอดทั้งวัน ส่วนอาหารกลางวันกินฟรีที่ห้องอาหาร พร้อมชมวิวทะเลสาบเมืองทองฯ ให้ผ่อนคลาย และที่สำคัญเมื่อสมัครเป็นนักเรียนของ เลอโนท แล้ว จะได้อุปกรณ์ประกอบการเรียน (Student Tool Kit) และชุดนักเรียน (Uniform) ครบครัน

Tag: เลอโนท ประเทศไทย, โรงเรียนสอนทำอาหาร