“ศิษย์เก่า”
เภสัชกรหญิงภัทรวดี ชัยมงคล จากเภสัชกรหญิงสู่ผู้ช่วยเชฟระดับมิชลินสตาร์
“สมัยนี้เชฟหญิงได้การยอมรับพอๆ กับผู้ชาย ทุกคนอยากเข้าไปยืนในฐานะที่เท่าเทียมกัน แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ล้วนแล้วแต่อยากปิดจุดอ่อนตัวเอง เพราะฉะนั้นจึงต้องรู้จักติดอาวุธ นั่นคือเรียนรู้ให้มากขึ้น ไม่ใช่หยุดอยู่กับที่”
“กระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว จริงจัง สนุกกับการทำงาน” เป็น 4 คำที่น่าจะอธิบายตัวตนของ คุณหยา-เภสัชกรหญิงภัทรวดี ชัยมงคล ศิษย์เก่า เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ได้ชัดเจนครบถ้วน
จริงอยู่ที่ศิษย์เก่าผู้หญิงของโรงเรียนโดดเด่นหลายคน แต่คุณหยาน่าสนใจตรงที่เธอเป็นเภสัชกรหญิงที่เบนเข็มชีวิตมาเดินบนเส้นทางสายอาหารเต็มตัว ตอนนี้งานเบื้องหน้าเธอเป็นทั้งไวน์สปีกเกอร์ ทำเชฟส์เทเบิลร่วมกับเพื่อน หรือกระทั่งลงพื้นที่เป็นกรรมการตรวจงานอาหารในงาน “เพชรบุรีเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร UNESCO สู่การเพิ่มมูลค่า” ของจังหวัดเพชรบุรี ส่วนงานเบื้องหลัง (แต่เห็นหน้าอยู่ประจำ) คือเป็นผู้ช่วยเชฟมาร์ติน บลูโนสในรายการแข่งขันทำอาหารชื่อดัง
“ถ้าทำอะไรแล้วก็ต้องไปให้สุด เวลาคนถามแล้วหยาไม่รู้จะรู้สึกว่าต้องรู้ให้ได้ ไม่ใช่แค่รู้อย่างเดียวแต่ต้องรู้ให้ลึก ก็เลยเรียนทุกอย่างที่อยากรู้”
คุณหยาจบคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำงานอยู่ในบริษัทยา 10 กว่าปีจนรู้สึกอิ่มตัว ส่วนการเข้าสู่แวดวงอาหารของเธอมีที่มาน่ารักเรียบง่ายเพียงเพราะหลานได้ชิมขนมปังที่เธอทำแล้วแฮปปี้จนตาเป็นประกาย เป็นแรงใจให้เธอมาเรียนที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จนจบทั้งหลักสูตรศิลปะการทำขนมปัง หลักสูตรวิชาการครัวไทย และหลักสูตรการประกอบอาหารคาวฝรั่งเศสอีก 3 โปรแกรม
“ตอนนั้นทางโรงเรียนเรียนเชิญเชฟชื่อดังหลายท่านมาร่วมตรวจจาน รวมถึงเชฟมาร์ติน บลูโนสด้วย เป็นจุดเริ่มต้นในการไปเป็นผู้ช่วยเชฟจนถึงตอนนี้ค่ะ”
เพราะอยู่ในสายงานที่ท้าทายความสามารถของผู้หญิง คุณหยามองว่าสมัยนี้เชฟหญิงได้การยอมรับพอๆ กับผู้ชาย “หยามองว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ล้วนอยากปิดจุดอ่อนตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรู้จักติดอาวุธ นั่นคือเรียนรู้ให้มากขึ้นไม่ใช่หยุดอยู่กับที่ ทุกคนอยากเข้าไปยืนในฐานะที่เท่าเทียมกัน”
ช่วงเวลาที่จำได้ไม่ลืมคือครั้งแรกที่ออกโทรทัศน์ซึ่งเต็มไปด้วยความกดดัน “บอกเลยว่าสนามจริงมันร้อนแรงมากกว่าร้านอาหารทั่วไป คุณมีโอกาสครั้งเดียวในการทำงาน ถ้าแพ้ก็แพ้เลยไม่มีโอกาสแก้ตัว
“ผู้หญิงที่ทำให้หยามาถึงจุดนี้ได้คือเชฟเอ-วิไลรัตน์ กรนพเกล้า เชฟจะคอยสอนว่าให้แข่งกับตัวเองไม่ใช่แข่งกับคนอื่น อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง จนเราเรียนจบออกไปทำงานข้างนอกก็ยังกลับมาเล่าให้เชฟฟังอยู่ตลอด ส่วนเชฟนอกโรงเรียนที่เป็นไอดอลคือเชฟไก่-ธนัญญา ไข่แก้ว เชฟแข่งกับเชฟผู้ชายแล้วชนะเยอะมาก เป็นคนที่ทำงานในเวลาที่จำกัดและทนความกดดันได้ดีจริงๆ ในเวลาที่เราเจอความกดดัน เชฟไก่เป็นคนที่ทำให้เราเห็นว่าทำได้ อย่ายอมแพ้”
คุณหยาบอกว่าข้อดีในความเป็นผู้หญิงของเธอคือมีด้านแข็งด้านอ่อนในคนเดียว โดยเฉพาะการเตรียมตัวล่วงหน้าที่บอกเลยว่าขึ้นชื่อว่าหยาแล้วไม่มีพลาด “ทุกคนจะบอกว่าเป็นคนละเอียด คิดทุกอย่างรอบด้าน ชอบเผื่อเหลือมากกว่าเผื่อขาด เชฟมาร์ตินจะแซวว่ารถหยาเหมือนครัวเคลื่อนที่ มีทุกอย่างอยู่ในรถ รถคนอื่นอาจจะมีเสื้อผ้าแขวนไว้ใช่ไหมคะ แต่รถหยามีอุปกรณ์เครื่องครัว มีลังโฟม มีเตาอบที่เอาไปไหนมาไหนด้วย มีเตาอินดักชัน 2 ตัว พร้อมทำงานตลอดเวลา”
ในวันที่เราพบคุณหยาตารางงานเธอแน่นเอียด แต่นั่นเป็นความสนุกของศิษย์เก่าคนเก่งจากรั้ว เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต คนนี้ รวมถึงอยากฝากถึงผู้หญิงที่มีความฝันเดียวกันให้ก้าวเข้ามาอย่าลังเล “เมื่อเราพัฒนาจนรู้แล้วว่าเป้าหมายคืออะไร เราจะมีแรงทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น หยาเองเริ่มจากการทำขนม แต่พอเจออาหารไทยและอาหารฝรั่งเศส ถึงได้รู้ตัวว่าเราเหมาะกับการเป็นผู้หญิงลุยไฟมากกว่า แต่ถามว่ายังทำขนมไหมก็ยังทำอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าลืม ‘ติดอาวุธ’ ตัวเองให้ครบทุกด้าน ขนมหวานคือการชั่ง ตวง วัด ให้แม่นยำ อาหารคาวคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
“แต่ถ้าทำได้ทั้งคาวและหวานคุณจะเป็นคนที่ครบเครื่อง”
Note : What’s in her bag?
“ด้วยหน้าที่การงานเราจะพลาดไม่ได้ หลายครั้งที่ต้องออกงานด่วน หยาจะพกทุกอย่างในกระเป๋าใบนี้ พร้อมออกรบ 1 แมตช์ ข้างในมีทั้งมีดเล็ก มีดใหญ่ แล้วก็อุปกรณ์เสริมคู่ใจคือเทอร์โมมิเตอร์ เพราะเวลาเราทำของทอด ถ้าอุณหภูมิไม่ถึงก็ทอดไม่ได้ จึงเป็นอุปกรณ์ที่พกไว้ตลอดค่ะ”
Tag:
Cover story, วันสตรีสากล, เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น