หลังจากมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ริมสองฝั่งคลองผดุงกรุงเกษมไปชุดใหญ่ แถมมาด้วยเรือไฟฟ้าที่วิ่งให้บริการฟรีแบบยาว ๆ ตั้งแต่ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพงจนถึงท่าเรือตลาดเทวราช คลองผดุงกรุงเกษมก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่น่าไปค้นหาและตามรอยมาก ๆ เราขอแนะนำ 5 พิกัดตลอดเส้นทางการเดินเรือ ที่สามารถเอ็นจอยได้ทั้งการสายกิน สายบุญ และสายกินลมชมวิว

หัวลำโพง
ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นต้นทางของเส้นทางการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม ไหน ๆ ก็มาเยือนถึงถิ่นรถไฟทั้งที ก็ต้องแวะเข้าไปในสถานีกันสักหน่อย ถึงทุกวันนี้จะมีการเดินรถน้อยลงไปมาก เพราะขบวนรถไฟสายต่าง ๆ ได้ย้ายไปเริ่มต้นสายกันที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ภายในหัวลำโพงก็ไม่ได้เงียบเหงา นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาชมรถไฟหัวจักรไอน้ำรุ่นต่าง ๆ ที่จอดอวดโฉมสุดตระการตาบนชานชาลาได้อย่างใกล้ชิด เสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟที่มีชีวิตจริง ๆ

โบ๊เบ๊-สะพานขาว
นอกจากจะเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยแล้ว ตอนนี้อาคารบ้านเรือนในละแวกนี้ ได้รับการปรับปรุงทัศนียภาพครั้งใหญ่ แปลงโฉมความทรุดโทรมเป็นสีสันจากกิจกรรม ‘Colorful ผดุงกรุงเกษม’ จากการร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและภาคเอกชน ร่วมกันทาสีอาคารใหม่จนกลายเป็นจุดเช็กอินที่น่ามาตามถ่ายรูปสุด ๆ

ตลาดนางเลิ้ง
เพียงแค่ขึ้นมาเรือก็จะเห็นป้ายของตลาดอย่างชัดเจนทางฝั่งตรงข้ามของท่าเรือนครสวรรค์ ตลาดแห่งนี้มีความเป็นมาควบคู่กับชุมชนนางเลิ้งตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และได้ชื่อว่าเป็นตลาดบกแห่งแรกของไทยที่ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน ในตลาดมีร้านอาหารในตำนานที่สายกินไม่ควรพลาดอยู่หลายร้านเลยทีเดียว ทั้งร้าน ส.รุ่งโรจน์ เป็ดย่างเจ้าดัง ร้านไส้กรอกปลาแนม ร้านเนื้อตุ๋นนางเลิ้ง และร้านนันทาขนมไทย นอกจากนี้ในตลาดยังเป็นที่ตั้งของศาลกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ และศาลาเฉลิมธานี หรือโรงหนังนางเลิ้ง ที่ถึงแม้ตอนนี้จะล้อมรั้วกั้นไว้ แต่ก็ยังพอมีช่องว่างทะลุกำแพงพอให้เรามองเห็นตัวอาคารไม้ขนาดใหญ่ได้

Buddha & Pals Café and Jazz
คาเฟ่แนววินเทจแห่งนี้ต้ังอยู่ไม่ไกลจากตลาดนางเลิ้งเท่าไร สิ่งที่ยกให้เป็นเสน่ห์เลยคือการรักษาร่องรอยแห่งกาลเวลาเอาไว้ในได้ทุก ๆ ตารางนิ้ว และแน่นอนว่าน่าถ่ายรูปไปเสียทุกมุม นอกเหนือไปจากเครื่องดื่มประเภทชา-กาแฟที่เราต้องยกนิ้วให้กับความสร้างสรรค์แล้ว ที่นี่ยังนำเสนออาหารอิตาเลียนแบบเรียบง่าย ทั้งสลัด พิซซา พาสตา ให้เราค่อย ๆ ละเลียดกินพร้อมกับเก็บช่วงเวลาอันน่าประทับใจ และพอตกค่ำก็จะเปลี่ยนจากคาเฟ่กลายเป็นบาร์แจ๊สที่ให้ความสนุกสนานเริงรมย์ในบรรยากาศที่ต่างกันไป

วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
ส่งท้ายทริปด้วยการเข้าวัดเข้าวา ไปสักการะพระพุทธเทวราชปฏิมากร พระประธานในอุโบสถ พร้อมกับชมความตระการตาของภาพจิตรกรรมฝาผนังพุทธประวัติ ภาพเทพชุมนุม แต่ที่แปลกไปจากวัดอื่น ๆ ให้สังเกตที่การใช้สีน้ำเงินเป็นส่วนใหญ่ ต่างจากภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยทั่วไปซึ่งมักจะใช้สีแดงเป็นหลัก และไม่ไกลจากพระอุโบสถนั้นเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สักทอง จัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในเมืองไทย ส่วนใครที่เป็นสายมูตัวจริงเสียงจริง อย่าลืมแวะไปสักการะองค์เทวราชเนรมิต เทพทันใจที่ผู้คนศรัทธาว่าขออะไรก็จะสมความปรารถนา

ตอนนี้เรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามเส้นทางจำนวน 11 ท่าเรือด้วยกัน ได้แก่ ท่าเรือสถานีรถไฟหัวลำโพง ท่าเรือหัวลำโพง ท่าเรือนพวงศ์ ท่าเรือยศเส ท่าเรือกระทรวงพลังงาน ท่าเรือแยกหลานหลวง ท่าเรือนครสวรรค์ ท่าเรือราชดำเนินนอก ท่าเรือประชาธิปไตย ท่าเรือเทเวศน์ และท่าเรือเทวราช

ตารางเดินเรือ

• วันจันทร์-ศุกร์ ช่วงที่ 1 เวลา 6.00-9.00 น. และ ช่วงที่ 2 เวลา 16.00-19.00 น.  (เรือออกทุก 20 นาที)
• เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 8.00-19.00 น. (เรือออกทุก 1 ชั่วโมง)

Tag: กรุงเทพ, ที่เที่ยว