ปฐมบทการก่อตั้ง The Food School โรงเรียนสอนทำอาหารบนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตรใจกลางสามย่านแห่งนี้ เกิดขึ้นจากแพชชันของ 3 ผู้ก่อตั้ง คุณแชมป์-ศิรเดช โทณวณิก คุณปริม จิตจรุงพร และ คุณกวิน ว่องกุศลกิจ ที่มองว่าเมืองไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารชั้นเลิศมากมาย แต่ผู้ผลิตหรือผู้อยู่ในห่วงโซ่อาหารยังไม่สามารถเชื่อมโยงหรือเข้าถึงกันได้ เปรียบดังจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจาย จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการต่อชิ้นส่วนดังกล่าว ที่ไม่ใช่แค่ส่งเสริมภาพลักษณ์ แต่ยังต้องการขับเคลื่อนทั้งห่วงโซ่อาหารให้ล้อไปด้วยกัน
“ผมและพาร์ตเนอร์อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรมมายาวนาน เรามี Ecosystem หรือกลุ่มพันธมิตรที่แข็งแกร่งพร้อมสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงความพร้อมทางด้าน Facilities จึงอยากนำความได้เปรียบนี้มาผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นที่มาของการผนึกกำลังครั้งสำคัญ โดยดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจของแต่ละคนมาไว้ที่ The Food School ซึ่งเปรียบเสมือนแพลตฟอร์มที่รวมโรงเรียนสอนทำอาหารชั้นนำไว้ในที่เดียว ปัจจุบันมี 3 โรงเรียน ได้แก่ ALMA-The School of Italian Culinary Arts โรงเรียนสอนทำอาหารอิตาเลียน TSUJI Culinary Institute โรงเรียนสอนทำอาหารญี่ปุ่น และ Dusit Thani College โรงเรียนสอนทำอาหารไทย”
นอกจาก Core Program หรือหลักสูตรหลักของ 3 โรงเรียนดังกล่าวแล้ว ยังมีหลักสูตร Short Courses หรือ Masterclasses ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้นที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ รวมถึงหลักสูตรไฮไลต์ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ เช่น หลักสูตรอาหารสเปนที่เชิญเชฟจากร้านอาหารสเปนชื่อดังมาสอน หลักสูตรคุกกิงแคมป์สำหรับเด็กช่วงปิดเทอม รวมถึงการ Collaboration ร่วมกับเชฟเซเลบริตีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
“ในอนาคตเรายังมีแพลนเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารต้นตำรับจากชาติอื่นๆ อาทิ สเปน เม็กซิกัน อินเดีย ฯลฯ ซึ่งสถานที่และครัวของ The Food School มีศักยภาพในการรองรับการขยายตัวดังกล่าว เรามีดีไซเนอร์จาก Partner School มาทำงานร่วมกับบริษัท แอ็ลไลด์ เม็ททัลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตครัวชั้นนำของไทย การออกแบบจึงเน้นให้ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม กล่าวคือ Asian Kitchen สามารถปรับเป็น Western Kitchen และ Western Kitchen ก็สามารถปรับเป็น Asian Kitchen ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี Incubator Kitchen ให้นักเรียนที่จบหลักสูตรแล้วมาเช่าพื้นที่เพื่อฝึกฝนและนำสิ่งที่เรียนรู้มาใช้งานจริงได้ด้วย”
คุณแชมป์ กล่าวเพิ่มเติมถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้าง The Food School ให้เป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการสร้าง Food Waste Composter เครื่องย่อยเศษอาหารขนาดใหญ่ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จะถูกส่งต่อให้กับเกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ ยังมี Vertical Farm หรือฟาร์มผักแนวตั้งซึ่งเป็นกระบวนการการปลูกผักที่ช่วยลดการใช้สารเคมี ลดการใช้พื้นที่และทรัพยากรน้ำ ผลผลิตที่ได้จะนำมาใช้ในการเรียน ทั้งหมดนี้ล้วนตอกย้ำแนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นอุดมการณ์ร่วมของพาร์ตเนอร์
“ดังนั้น ขอเพียงมีใจรักในการทำอาหารก็สามารถเข้ามาเรียนได้ทุกคน ตั้งแต่ระดับบีกินเนอร์หรือคนทั่วไปที่ไม่มีพื้นฐานแต่อยากเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารของแต่ละชาติ ต้องการรู้ลึกรู้จริงในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอาหาร เพราะเราเน้นสอนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พาลงพื้นที่เพื่อให้ได้รับประสบการณ์จริง และระดับมืออาชีพที่ต้องการเสริมทักษะ หรือต้องการเรียนรู้ครอบคลุมการบริหารจัดการทุกด้าน เรียนจบหลักสูตรแล้วสามารถเปิดร้านอาหารได้เลย ซึ่งจุดแข็งของเราอีกประการคือเรามีพันธมิตรทั้งร้านอาหาร โรงแรม เกษตรกร และผู้คนในวงการอาหารทั้งในและต่างประเทศที่พร้อมซัพพอร์ตให้นักเรียนสามารถต่อยอดธุรกิจในอนาคตได้ด้วย”
การสร้าง Food Chain ที่เข้มแข็งและยั่งยืนยังคงเป็นภารกิจสุดท้าทาย เช่นเดียวกับการสร้าง The Food School ให้ขึ้นแท่นแบรนด์ไทยระดับโลก สำหรับพาร์ตเนอร์ทุกคนแล้วอาจไม่ใช่สิ่งที่ไกลเกินไปนัก
ไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้เราอาจได้เห็น The Food School ไปผงาดอยู่ในต่างแดนก็เป็นได้
Tag:
Food in Biz, The Food School Bangkok, โรงเรียนสอนทำอาหาร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น