เพราะเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพยังมาแรงไม่มีตก Special Guest ฉบับนี้เราอยากพาไปทำความรู้จักกับแขกคนพิเศษ (และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารสุขภาพเป็นพิเศษด้วย) จาก Modish Food Design ร้านอาหารเดลิเวอรีสำหรับผู้ป่วยเฉพาะทางแห่งแรกในไทยที่ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นำโดย ผศ. พญ.ศานิต วิชานศวกุล หรือ คุณหมอนุ้ย ที่ปรึกษาด้านโภชนาการและอายุรแพทย์โภชนศาสตร์คลินิคที่มีประสบการณ์วินิจฉัยและดูแลคนไข้มานานกว่า 15 ปี ผศ. ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล หรือ อาจารย์นุ่น อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และทีมนักโภชนาการที่คอยให้คำปรึกษา รวมถึงออกแบบเมนูให้เหมาะกับสุขภาพของทุกคน
คุณหมอนุ้ยและอาจารย์นุ่นเล่าย้อนไปว่าในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมาคนทั่วไปเริ่มสนใจอาหารสุขภาพเพราะคนอยากลดน้ำหนัก “ร้านอาหารคลีนจะค่อนข้างคล้ายกันคือมีข้าวกล้อง เมนูที่ทำจากอกไก่ ผักลวก และผ่านการปรุงแบบไม่ใช้น้ำมัน ซึ่งจริงๆ ไม่ถูกต้องเสมอไปค่ะ เพราะร่างกายของเรายังต้องการไขมันดี ถ้ากินแบบไม่มีน้ำมันเลยเราอาจขาดกรดไขมันจำเป็น ส่งผลให้ผนังเซลล์ไม่ดี หรือฮอร์โมนมีปัญหาได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการกินอย่างไรให้ได้ไขมันดี แป้งที่ดี โปรตีนที่ดี วิตามิน แร่ธาตุในสัดส่วนที่เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ
“นอกจากนี้เรายังมีโจทย์เป็นคนไข้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลแล้วกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน หลายๆ ท่านไม่รู้ว่าควรกินอย่างไร อย่างคนไข้โรคหัวใจหมอจะห้ามกินเค็ม แต่สิ่งที่คนไข้กังวลคือแค่ไหนจึงเรียกว่าไม่เค็ม? จึงตัดปัญหาด้วยการไม่ปรุงรสเค็มเลยดีกว่า หรืออย่างคนไข้โรคเบาหวานถูกห้ามไม่ให้กินหวานเลยทั้งๆ ที่กินหวานมาทั้งชีวิต เราจึงอยากทำอาหารที่ดีกับโรคของแต่ละคนโดยที่ยังอร่อยและกินได้อย่างมีความสุขค่ะ”
เมนูของ Modish Food Design จึงออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล สำหรับผู้ป่วย อาหารของ Modish เป็นการกินเพื่อรักษาหรือควบคุมโรค ส่วนคนที่ยังไม่ป่วยก็เป็นการกินเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
“คนที่สนใจจะได้คุยกับนักโภชนาการและนักกำหนดอาหารก่อนว่ามีจุดประสงค์ในการกินเพื่ออะไร ประวัติ น้ำหนัก อายุ เพศ ก็จะเป็นข้อมูลให้เราคิดต่อว่าอาหาร 1 จาน ควรกินแค่ไหนอย่างไร เช่น ผัดกะเพราของลูกค้า 3 คนอาจจะได้เนื้อสัตว์ แป้ง ผักในปริมาณไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าต้องการกินเพื่ออะไร ถ้าคอเลสเตอรอลสูงเราจะเปลี่ยนเนื้อแดงเป็นโปรตีนจากพืชมากขึ้น จากเมนูกะเพราไก่อาจกลายเป็นกะเพราเต้าหู้ หรือหากเป็นผู้ป่วยโรคไตจะต้องเปลี่ยนจากข้าวกล้องเป็นข้าวขาวเพราะต้องลดโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส เป็นต้น”
คอร์สอาหารของ Modish มีทั้ง Health Balance - โปรแกรมสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน Weight Control - โปรแกรมสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก Body Booster - โปรแกรมสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายหนัก Disease Control - โปรแกรมอาหารเฉพาะโรค เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และ Personalized - โปรแกรมสำหรับคนที่ต้องการโภชนาการที่เหมาะสมเป็นพิเศษ มีโรคที่มีความจำเพาะและซับซ้อน
“ระยะเวลาในการกินก็แล้วแต่บุคคลค่ะ เริ่มตั้งแต่คอร์ส 1 วัน 3 วัน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนก็มี โดยที่ไม่บังคับว่าต้องกินทุกวัน อย่างกลุ่มคนที่รักสุขภาพทั่วไปก็อาจจะกินเป็นช่วงๆ แต่กลุ่มผู้ป่วยก็จะแตกต่าง เพราะต้องควบคุมการกินอย่างใกล้ชิด บางคนกินต่อเนื่องเป็นปีก็มีค่ะ”
นอกจาก Modish Food Design ที่เป็นร่มคันใหญ่แล้ว ยังมีร้านอาหารเพื่อสุขภาพ Cheat Day by Modish ที่ The PARQ พระราม 4 ให้ทุกคนแวะมาลองเมนูสุขภาพอย่างมีความสุขและกินได้ทุกวัน รสชาติอร่อยและไม่ทำร้ายสุขภาพ (เมนู Garden Lift Salad with Salmon ของที่ร้านดีงามมาก ห้ามพลาดเด็ดขาด)
“เราเน้นเรื่องวัตถุดิบที่ดี อาทิ น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวที่ดัชนีน้ำตาลต่ำ และกรรมวิธีการปรุงที่ทำอย่างพิถีพิถัน เช่น หมูกรอบที่ทอดในหม้อทอดแทนน้ำมัน แฮมเบอร์เกอร์จากขนมปังโฮลวีต มีบอกสัดส่วนอาหารในจานว่าเรากำลังกินอะไรเข้าไปบ้าง น้ำจิ้มถ้วยนี้แคลอรีเท่าไหร่ ซอสตัวนี้กี่แคลอรี เมนูไหนที่โซเดียมต่ำ คาร์บน้อย อย่างเมนูนี้ 195 แคลอรี กินน้ำจิ้มหมดถ้วย 97 แคลอรีนะ คนที่คุมน้ำหนักก็อย่าจิ้มเยอะ (หัวเราะ) ทำให้คนเปิดใจรับอาหารสุขภาพได้มากขึ้น เราถึงตั้งชื่อร้านว่า Cheat Day สำหรับคนไม่ได้สนใจเรื่องสุขภาพมาก่อน ร้านนี้จะทำให้เขาสุขภาพดีขึ้น ในทางกลับกันถ้าเป็นคนที่กินคลีนมากๆ ร้านนี้จะเป็น Cheat Day ที่ทำให้เขามีความสุขเช่นกันค่ะ”
สำหรับใครที่อ่านแล้วสนใจอาหารของ Modish Food Design และ Cheat Day by Modish ลองเข้าไปทำความรู้จักเพิ่มเติมได้ที่ www.modishfooddesign.co.th
Note : “Modish Food Design” มาจากคำว่า Modify และ Dish สื่อถึงการปรับและออกแบบสารอาหารในแต่ละจานให้เหมาะสมกับคนกินนั่นเอง
Tag:
การดูแลสุขภาพ, อาหารเพื่อสุขภาพ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น