เมื่อพูดถึงกลุ่มธุรกิจบีทีเอส กรุ๊ป เรามักนึกถึงรถไฟฟ้าบีทีเอสที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวกรุงไปแล้ว แต่ในอีกด้านบีทีเอส กรุ๊ปยังมีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมด้วย ซึ่งในปีนี้ได้ขยายธุรกิจสู่ระดับโลกภายใต้การนำของบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ด้วยการเข้าซื้อกิจการโรงแรมในเครือเวียนนาเฮาส์ (Vienna House) เชนโรงแรมชั้นนำที่มีโรงแรมกระจายอยู่ทั่วยุโรป ได้แก่ เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ รัสเซีย ฝรั่งเศส ออสเตรีย สโลวาเกีย และโรมาเนีย ซึ่ง Gourmet & Cuisine ได้ร่วมทริปไปสำรวจโรงแรมในเครือเวียนนาเฮาส์ใน 3 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก และโปแลนด์ เพื่อเก็บภาพมาฝากคุณผู้อ่านกัน
โบสถ์ไกเซอร์ วิลเฮม ที่โดนทำลายส่นหนึ่งจากสงคราม
ภาพชื่อดังบนกำแพงเบอร์ลินที่อีสต์-ไซด์ แกลเลอรี่
จุดหมายแรกที่เราไปเยือนตั้งอยู่ในเมืองเบอร์ลิน เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์น่าศึกษาและเป็นที่ตั้งของกำแพงเบอร์ลิน อนุสรณ์แห่งประวัติศาสตร์โลกที่กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่าง อีสต์-ไซด์-แกลเลอรี แกลเลอรีกลางแจ้งที่ได้ศิลปินจากทั่วโลกได้มาแต่งแต้มสีสันเพื่อบอกเล่าความคิดเกี่ยวกับสงครามบนชิ้นส่วนกำแพงที่เหลืออยู่ และเชคพอยต์ชาร์ลี (Checkpoint Charlie) ด่านกั้นระหว่าง 2 ฟากกำแพงเพียงแห่งเดียวที่สามารถข้ามไปมาระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตก หากใครที่อยากศึกษาให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นก็สามารถไปชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เยอรมัน (Germany History Museum) ซึ่งเก็บรักษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ไว้เป็นอย่างดีได้
ศึกษาประวัติศาสตร์ในมุมมองของชาวเยอรมันที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์
ตลาดคริสต์มาสที่เมืองเบอร์ลิน
ที่ห้ามพลาดในการมาเยือนยุโรปช่วงคริสต์มาสคือการไปเยือนตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) ที่รวมร้านรวงน่ารักๆ ทั้งอาหาร เครื่องประดับ และของตกแต่งสำหรับเทศกาล เป็นดั่งสวรรค์ของคนชอบของกระจุกกระจิก และต้องไม่พลาดดื่ม “ไวน์ร้อน” (Mulled Wine) เพื่ออุ่นร่างกายขณะเดินชมตลาดด้วย เวลาซื้อเราต้องจ่ายค่าถ้วยไปก่อน หากนำไปคืนจะได้เงินกลับมา แต่หากจะเก็บแก้วไปเป็นที่ระลึกก็นำไปได้เลย
ไวน์ร้อนยอดนิยมที่ตลาดคริสต์มาส
วิวห้องอาหาร Skykitchen
ไม่ไกลจากใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของโรงแรม Andel’s by Vienna House Berlin ซึ่งต้อนรับผู้มาเยือนด้วยโถงขนาดใหญ่ที่ผสานทั้งความหรูหราและความอบอุ่นอย่างลงตัว ห้องพักที่นี่มีขนาดกว้างขวาง ตกแต่งในแบบโมเดิร์นสดใส สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลาย โดยเฉพาะอีเวนต์ฮอลล์สุดอลังการที่สามารถจัดงานใหญ่ๆ อย่างงานแสดงรถยนต์ได้เลยทีเดียว ส่วนสายกูร์เมต์มาถึงที่แล้วห้ามพลาดห้องอาหารมิชลินสตาร์ Skykitchen ดูแลโดยเชฟอเล็กซานเดอร์ คอปเปอ ผู้นำอาหารท้องถิ่นมาผสมผสานกับวิธีการปรุงใหม่ๆ จากทั่วโลก นอกจากอาหารอร่อยๆ แล้วยังจะได้ชมวิวเมืองเบอร์ลินแบบ 360 องศาด้วย
ห้องพักสไตล์หอพักสดใสของ Vienna House Easy Berlin
ห้องพักสไตล์อิตาเลียนคลาสสิกที่ Vienna House Andel's Dresden
ตลาดคริสต์มากบนจัตุรัสเก่าเมืองเดรสเดน
ห่างกันในระยะเดินถึงเป็นที่ตั้งของโรงแรม Vienna House Easy ซึ่งแบรนด์กลุ่ม “Easy” จะเน้นความคล่องตัวและราคาสบายกระเป๋า กับห้องพักสไตล์สมาร์ท-แคชชวล คล้ายหอพักดูน่ารักแต่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ รวมทั้งห้องอาหารเช้าและคาเฟ่ บาร์ไว้ให้บริการ สามารถเช็กอิน/เช็กเอาต์ผ่านระบบออนไลน์ได้ สมกับเป็นที่พักของนักเดินทางยุคใหม่จริงๆ
รูปปั้นนักบุญ 1 ใน 28 องค์บนสะพานชาร์ล
นาฬิกาดาราศาสตร์
จุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่เมืองเดรสเดน (Dresden) เมืองน่ารักในเยอรมนีซึ่งเคยถูกทำลายอย่างหนักจากสงคราม แต่ผู้คนก็กลับมาพัฒนาขึ้นอีกครั้งจนสวยงามดังเดิม และแน่นอนว่าจะได้พบกับ ตลาดคริสต์มาสที่นี่ เพราะเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นฉบับของตลาดคริสต์มาสก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วยุโรป ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่บนจัตุรัสตลาดเก่า (Altmarkt) กลางย่านเมืองเก่าใกล้กับโบสถ์แม่พระ (Church of our lady Frauen Kirche) สัญลักษณ์ของเมือง และเพียงก้าวเท้าออกจากบริเวณตลาดก็จะพบโรงแรมอีกแห่งในเครือยู ซิตี้ทันที Andel’s by Vienna House Dresden สร้างจากอาคารเก่าแก่ ดีไซน์แบบอิตาเลียนคลาสสิคที่หรูหราเข้ากับอาคารโบราณแห่งนี้เป็นอย่างดี ใครชอบฉากแบบหนังยุโรปยุคเก่าคงถูกใจ
มหาวิหารเซนต์ วิตัส ตั้งตระหง่าน
อนุเสาวรีย์โชแปง กวีและนักประพันธ์เพลงอัจฉริยะชาวโปล
จากเดรสเดนสามารถนั่งรถต่อไปยังกรุงปราก สาธารณรัฐเช็กได้เลย เมืองนี้เป็นอีกจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย ด้วยบรรยากาศสวยงามราวกับอยู่ในภาพยนตร์ เป็นเมืองที่รอดพ้นจากความเสียหายของสงครามมาได้ราวปาฏิหาริย์
ช่องระเบียงที่มองลงไปได้ถึงชั้นล่าง
ที่เมืองนี้มีจุดชมสถาปัตกรรมยุคกลางพลางชมวิวถ่ายภาพสวยๆ มากมาย ตั้งแต่มหาวิหารเซนต์ วิตัส สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สูงสง่า สะพานชาร์ลส์ ซึ่งทอดยาวข้ามแม่น้ำวัลตวาประดับด้วยรูปปั้นนักบุญ 28 องค์ และนาฬิกาดาราศาสตร์อายุกว่า 600 ปีซึ่งตั้งอยู่กลางย่านจัตุรัสเมืองเก่า แหล่งชอปปิงของฝากขึ้นชื่ออย่างเครื่องแก้วและเครื่องหัตถกรรม ที่เมืองนี้เราได้แวะชมโรงแรม Vienna House Diplomat Prague โรงแรมขนาดใหญ่กว่า 400 ห้องในย่านสถานทูตไม่ไกลจากใจกลางเมือง ตกแต่งในสไตล์คลาสสิกหรูหรา ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมในการจัดการประชุมและอีเวนต์ด้วย
ห้องฟังก์ชั่นเท่ๆ สไตล์อินดัสเทรียล
บรรยากาศในเมืองวอร์ซอ
จุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่เมืองวูซ (Lodz) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของโปแลนด์ ซึ่งหากพูดถึงโปแลนด์นักท่องเที่ยวอาจคุ้นเคยกับเมืองวอร์ซอซึ่งเป็นเมืองหลวงและมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ส่วนเมืองวูซมีฐานะเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสิ่งทอ การศึกษา และการถ่ายภาพยนตร์ และเป็นที่ตั้งของ Andel’s By Vienna House Lodz โรงแรมซิกเนเจอร์ของเครือเวียนนาเฮาส์ที่รีโนเวตมาจากโรงงานทอผ้าโบราณ ตัวอาคารสร้างจากอิฐแดงทั้งหลังอย่างโดดเด่น อยู่ติดกับชอปปิงคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ Manufaktura ซึ่งมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
ตุ๊กตาในชุดพื้นบ้าน
ภายในชวนให้ประทับใจกับอินทีเรียสไตล์โมเดิร์น คอนเทมโพรารี ที่ใส่ดีเทลในทุกจุด มีทั้งสปา ฟิตเนส และสระว่ายน้ำอุ่นที่แค่ขึ้นไปชมวิวก็ดีงามเพราะรายล้อมด้วยกำแพงกระจกเห็นวิวเมืองทุกทิศ ที่นี่รองรับการจัดงานได้หลายรูปแบบด้วยอีเวนต์ฮอลล์ขนาด 2,500 ตารางเมตร และห้องประชุม 16 ห้อง เป็นจุดหมายสุดท้ายที่มาถึงแล้วไม่อยากจากไปไหน แค่ใช้บริการต่างๆ ในโรงแรมก็ฟินแล้ว
บรรยากาศในเมืองเดรสเดน
Checkpoint Charlie ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน
เรายังอยากสำรวจเมืองวูซต่ออีกนิด เพราะเมืองนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักของชาวไทยนัก ไว้คงต้องหาโอกาสมาเยือนอีกครั้งแล้วสิ
Tag:
, Far Away, ต่างประเทศ, ท่องเที่ยว,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น