ครั้งแรกที่เห็นภาพ “บ้านตึกดิน” ในเฟซบุ๊กโดยบังเอิญ นิ้วที่กำลังจะเลื่อนผ่านต้องหยุดค้างแล้วค่อยๆ ดูทีละภาพอย่างตั้งใจ สำหรับใครที่หลงใหลในสถาปัตยกรรมเก่าซึ่งหาได้ยากยิ่งในปัจจุบันเหมือนกับเรา โดยเฉพาะที่ยังคงความสง่างามดังเช่นบ้านหลังนี้ คงมีความรู้สึกไม่ต่างกันนั่นคือโอกาสที่จะได้ชื่นชมร่องรอยของกาลเวลาด้วยตาของตนเอง
จากภาพถ่ายไร้มิติสู่สถานที่จริงซึ่งงดงามยิ่งกว่า บ้านโบราณที่เดินทางผ่านกาลเวลามาแล้วถึง 125 ปีได้รับการรีโนเวตใหม่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในชื่อ บ้านตึกดิน โรงแรมที่เป็นมากกว่าที่พัก เพราะตั้งใจให้เป็นลิฟวิงสเปซที่สามารถเข้าพัก ดื่มกาแฟ กินข้าว หรือแฮงเอาต์ไปพร้อมกับฟังดนตรีแจ๊ซ
บ้านตึกดินประกอบด้วยอาคารพาณิชย์ 4 คูหา อยู่ติดริมถนน และบ้านอีก 1 หลังทางด้านหลังซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นมรดกตกทอดของตระกูลแสง-ชูโตในสมัยรัชกาลที่ 6 โดย ราจิต แสงชูโต ทายาทได้นำภาพจำและประสบการณ์ต่างๆ รวมถึงของสะสมที่ได้จากการเดินทางทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโครงกระดูกสัตว์ ตู้ โต๊ะ เตียงสไตล์วินเทจ เก้าอี้ฮันติงแบบโบราณ ฯลฯ มาจัดวางได้อย่างลงตัว เสมือนเป็นกรุของสะสมจากนานาประเทศ
ห้องพักมีให้เลือก 5 ประเภท ทุกห้องมีเตียงขนาดใหญ่ที่สั่งทำเป็นพิเศษ เน้นดีไซน์คลาสสิกที่กลมกลืนกับองค์ประกอบโดยรอบ ไฮไลต์ของโรงแรม ได้แก่ The Royal Suite มีขนาดใหญ่ที่สุด โดดเด่นด้วยซุ้มโค้งก่อด้วยอิฐมอญเปลือย จัดสรรพื้นที่ให้นั่งเอนกายสบายๆ บนโซฟาหนังวิกตอเรียแต่งหมุดเข้าคู่กับหีบสมบัติขนาดใหญ่ที่ใช้แทนโต๊ะ ถัดเข้าไปด้านในเป็นเตียงนอนขนาบข้างด้วยโคมไฟวินเทจและเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม หรือจะเลือก Duplex ห้องพัก 2 ชั้นที่มีบันไดวนแบบโบราณทำจากเหล็กฉลุลาย เป็นห้องที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้เอนกายพักผ่อนได้มากขึ้น
ที่นี่ยังเหมาะเป็นจุดหมายของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เพราะไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็ได้ภาพและอารมณ์ที่แตกต่างกัน นับตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปในตัวบ้านก็เหมือนได้ย้อนสู่วันวานอันเงียบสงบ จุดเด่นคือบันไดทางขึ้นสู่ชั้นบนที่เป็นพื้นไม้สีเข้มและราวจับเหล็กดัด ตั้งอยู่ใจกลางบ้านที่โปร่งโล่งจากพื้นจรดเพดานชั้น 2 มองเห็นคานไม้เก่าที่ยังคงแข็งแรงดังเดิม ผนังทั้ง 4 ด้านเป็นปูนเปลือย บางช่วงหลุดล่อน (อย่างตั้งใจ) เผยให้เห็นอิฐมอญ อีกทั้งแสงจากโคมไฟที่ส่องสว่างเพียงบางมุมเกิดเป็นเงาสะท้อนดูลึกลับและน่าค้นหา โดยเฉพาะโครงกระดูกสัตว์ที่ถูกจัดวางราวกับจะขยับเคลื่อนที่ได้ทุกเวลา บางชิ้นประดับไว้บนเพดาน หลับตาแล้วนึกถึงบรรยากาศของคฤหาสน์ในภาพยนตร์แนวผจญภัยอย่างไรอย่างนั้น
นอกจากห้องพักที่นี่ยังมี Din Restaurant & Jazz Bar ร้านอาหารและบาร์แจ๊ซที่ชูคอนเซ็ปต์โฮมคุกกิง นำเสนออาหารที่เน้นปรุงอย่างพิถีพิถันเหมือนทำให้คนในครอบครัวกิน ทุกเมนูคือซิกเนเจอร์เพราะเลือกมาแล้วว่าดีที่สุด อาทิ ขาเป็ดรมควันทอดเสิร์ฟพร้อมซอสส้ม ข้าวอบมันกุ้ง หรือจะเป็น คาเปลลินีแอนโชวีเบคอน รวมถึง ค็อกเทล ที่มีให้เลือกถึง 10 เมนู อีกมุมที่น่าสนใจคือ Shaloba คาเฟ่ที่พ้องเสียงมาจาก Slow Bar จุดเด่นของที่นี่คือ Flavor และ Aroma ด้วยวิธีชงแบบ Sand Coffee ซึ่งเป็นวิธีชงที่เก่าแก่ที่สุด บรรยากาศในคาเฟ่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของวันวานไม่แพ้จุดอื่น นั่งจิบเครื่องดื่มเพลินๆ ชมรถราที่สัญจรด้านนอก เสมือนอยู่ในโลกคู่ขนานระหว่างความสงบภายในและความรีบเร่งวุ่นวายภายนอก
ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลก็เติมพลังง่ายๆ ให้ชีวิตได้แล้ว
ข้อมูล
- พิกัด : 161 ถนนดินสอ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร. 06-2468-8644
Tag:
ถนนดินสอ, ที่พัก, รีวิวโรงแรม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น