พูดถึงเค้กที่มีดีไซน์และสีสันจัดจ้านดึงดูดสายตาที่สุดตอนนี้ ต้องยกให้ The Rolling Pinn แบรนด์ขนมหวานและเค้กที่สวยเด่นจนเห็นใครถือก็ต้องจำได้ แถมด้วยรสชาติที่อัดแน่นด้วยความเข้มข้นถึงใจสายหวาน สมดังสโลแกน “Be Bold, Be Sexy, Be Free” จนเราอดไม่ได้ที่จะต้องมาคุยกับ คุณพิณ เจนวัฒนวิทย์ สาวน้อยผู้สร้างสรรค์แบรนด์ขนมสุดปังนี้ขึ้นมา
ที่สตูดิโอของ The Rolling Pinn เต็มไปด้วยเค้ก เค้ก และเค้ก เปล่งประกายราวอัญมณี รอคอยที่จะเดินทางไปมอบความสุขให้กับลูกค้าในไม่ช้า “พิIชอบขนมมาตั้งแต่จำความได้” เธอเล่าย้อนถึงแรงบันดาลใจแรกที่ทำให้ลุกขึ้นมาทำขนม “ทั้งชอบกิน ชอบดูรูปภาพขนมสวยๆ ในตำราอาหารต่างประเทศที่คุณพ่อซื้อมา”
จากความชอบ ทำให้เธอคิดลงมือทำขนมอย่างจริงจังเมื่ออายุได้ราว 11 ปี “ตอนนั้นพิณไปซูเปอร์มาร์เก็ตกับคุณพ่อแล้วขอซื้อหนังสือ May Made (เขียนโดย เมย์ - กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ) ทั้งหมด 3 เล่ม คุณพ่อถามว่าทำไมต้องซื้อ 3 เล่ม พิณก็ตอบว่าจะทำให้หมดทั้ง 3 เล่มเลย” จากนั้นทุกอาทิตย์เธอก็ลงมือทำขนมตามที่พูดจริงๆ และก็ทำต่อเนื่องมาโดยตลอด
“ตอนนั้นทำประมาณอาทิตย์ละ 3 สูตร แรกๆ ก็ไม่ค่อยเก่งหรอกค่ะ ทุกครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ชิมก็จะฟีดแบคว่าทำยังไงถึงจะอร่อยขึ้น อย่างบอกว่าหวานไปนะ ตอนแรกเราก็ยังไม่เข้าใจว่าจะแก้ยังไง พอลดน้ำตาลมันกลับส่งผลกับส่วนอื่นๆ ก็ต้องลองใหม่ ทำให้เข้าใจว่าการทำขนมไม่ได้ง่าย เลยกลายเป็นชาเลนจ์อย่างหนึ่งที่เราอยากทำให้อร่อย”
แม้กระทั่งตอนเรียนเธอก็ยังไม่หยุดทำขนม “พิณทำขนมขายเป็นซัมเมอร์ โปรเจ็คต์ ได้ค่าขนมมาก็เอาไปช้อปปิ้ง เลยเป็นแรงบันดาลใจให้อยากมีธุรกิจของตัวเอง” เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงไม่รอช้า เริ่มวางแผนสร้างแบรนด์ทันทีที่เรียนจบ
การสร้างธุรกิจไม่ใช่แค่การทำขนม เธอต้องลงมือเองทุกอย่างตั้งแต่ครีเอทีฟ ถ่ายรูป และดีไซน์เค้ก โดยมีสินค้าแรกเริ่มคือคุกกี้ บราวนี และคุกกี้ใหญ่ (Big Gooey Cookies) ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำให้ The Rolling Pinn เริ่มเป็นที่รู้จัก “ตอนนั้นเราเริ่มเข้าใจแล้วว่าการทำขนมให้แตกต่างทำให้เราขายได้ พิณไม่อยากทำขนมเหมือนกับร้านอื่นและไม่อยากให้ภาพการทำขนมเป็นแม่บ้าน แต่อยากให้การทำขนมเป็นสิ่งที่มอบพลัง (Empower) ให้กับผู้หญิง เพราะการทำขนมสำหรับพิณเป็นเหมือนบทเรียนชีวิตที่ทำให้มีความพยายามในการทำสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ
ภาพลักษณ์ของขนมที่ดูสดใสและมั่นใจ แต่คุณพิณเผยว่าก่อนทำขนมเธอเป็นเด็กที่ไม่มั่นใจเอาเสียเลย “ตอนเด็กๆ พิณไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะไม่กล้าคุยกับคน แต่พอเริ่มทำขนม ก็เริ่มมีความกล้าที่จะเอามาให้เพื่อนๆ ชิม กล้าพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้น พิณมีเพื่อนได้ก็เพราะขนมทำให้เรามีความมั่นใจ เลยอยากมอบพลังให้ผู้หญิงทุกคนมีความมั่นใจขึ้นด้วยขนมของเรา”
อีกจุดหนึ่งที่ทำให้เค้กของ The Rolling Pinn อยู่ในกระแสเสมอเพราะมีคอลเล็คชั่นใหม่อย่างต่อเนื่อง “ลูกค้าชอบอะไรใหม่ๆ และพอเทรนด์คุกกี้เริ่มลงเราก็ต้องคิดทำอะไรที่แปลกใหม่มาเสริม ตอนนั้นเลยเริ่มทำเบิร์ธเดย์เค้ก โดยมีตัวแรกเป็นเค้กช็อกโกแลต ซึ่งกลายเป็นสินค้าที่ขายดีมากๆ
“เค้กของเราเป็นสไตล์อเมริกันที่มีความฟัดจ์จี้เข้มข้น ด้านดีไซน์ก็ต้องสำรวจว่าอะไรที่กำลังเป็นเทรนด์และต้องคิดล่วงหน้าให้เข้ากับเทศกาลต่างๆ เช่น Mother’s Day Cake เราต้องคิดว่าจะสื่ออะไรลงไปบ้าง จึงออกมาเป็นเค้กมะพร้าวสีฟ้าตกแต่งด้วยดอกไม้สำหรับคุณแม่ หรือ Christmas Cake เค้กรูปต้นคริสต์มาสที่มีความไอคอนนิกไม่มีใครเหมือน ในช่วงเทศกาลผู้คนจะตื่นเต้นกับการตกแต่งต้นคริสต์มาส เราเลยเอาเค้กที่มีความพิเศษไปอยู่บนโต๊ะอาหาร เป็นเซ็นเตอร์พีซที่ต้องถ่ายรูปสวยทุกมุม” จุดนี้เองทำให้ใครๆ ก็หลงใหลเค้กของเธอ
ล่าสุดเธอยังได้ออกคอลเล็คชั่น Wedding Cake มาเป็นของขวัญแก่หญิงสาวในห้วงรัก “พิณกำลังจะแต่งงานเลยเริ่มคิดถึงเค้กแต่งงานของตัวเองด้วย ซึ่งเค้กแต่งงานถือเป็น Ultimate Cake ที่แพงที่สุดที่เราจะจ่ายเงินซื้อในชีวิต” ว่าที่เจ้าสาวกล่าวอย่างอารมณ์ดี
สำหรับสีสันที่จัดจ้านของเค้กในทุกคอลเล็คชั่นของ The Rollin Pinn ตั้งใจสะท้อนถึงสโลแกนของร้าน Be Bold, Be Sexy, Be Free “ถ้าเรามีความมั่นใจและกล้าที่จะแสดงออกในสิ่งที่ชอบก็จะเซ็กซี่ขึ้นมาได้ พิณอยากให้เค้กของเราโชว์ความมั่นใจของสาวๆ และสร้างความมั่นใจว่าถ่ายรูปออกมาแล้วสวยแน่นอน”
เมื่อถามว่าในปีนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ให้แฟนขนมได้ติดตามบ้าง เธอทิ้งท้ายว่า “หน้าร้อนนี้พบกับ Mayongchid Collection จำหน่ายเฉพาะฤดูกาล และจะมีเค้กดีไซน์ใหม่ออกมาให้เห็นกันด้วยค่ะ” สายหวานเตรียมท้องไว้รอเลย
Tag:
Special Guest, ขนมหวาน, ขนมเค้ก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น