ความสำเร็จของสหฟาร์ม บริษัทผู้ผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่ที่สุดของไทยในวันนี้ หากมองย้อนกลับไปตลอดระยะเวลา 54 ปีที่ผ่านมา ล้วนเป็นผลงานจากความทุ่มเทของผู้ชายที่ชื่อดร.ปัญญา โชติเทวัญ อดีตนายแพทย์ทหารเรือที่ดำรงตำแหน่งนานถึง 11 ปี และปฏิบัติงานในกระทรวงสาธารณสุขอีก 12 ปีจนได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันโรคและรักษาสุขภาพอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ท่านได้นำความเชี่ยวชาญมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ และเป็นที่มาของความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจ วันนี้ได้ส่งไม้ต่อให้กับทายาทสาวคนเก่ง คุณน้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ นั่งตำแหน่งประธานสายบัญชีและการเงิน, ประธานสายการตลาดต่างประเทศ, เลขานุการประธานกรรมการ และแบรนด์แอมบาสเดอร์ คุณน้ำผึ้งเปิดใจถึงการสืบทอดธุรกิจจากคุณพ่อที่เป็นแบบอย่างของความสำเร็จว่า นอกจากจะไม่มีความกดดันแล้ว แต่ยังมุ่งมั่นที่จะตามรอยเท้าและยึดเป็นต้นแบบทั้งการบริหารธุรกิจและการดำเนินชีวิตส่วนตัว
“น้ำผึ้งได้เรียนรู้การทำงานกับคุณพ่ออย่างใกล้ชิด ทั้งด้านวิสัยทัศน์และมุมมองต่างๆ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาที่สามารถฝ่าวิกฤติต่างๆ มาได้ ทั้งหมดพิสูจน์ด้วยความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม เราจึงไม่มีข้อกังขาใดๆ พร้อมสืบทอดธุรกิจที่ไม่เพียงจากดีเอ็นเอ แต่เรียกว่าโคลนนิงทั้งหมดก็ว่าได้”
คุณน้ำผึ้งเล่าถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจเพื่อฉายภาพให้เราเห็นชัดเจนขึ้น “คุณพ่อเริ่มจากการทดลองเลี้ยงลูกไก่คัดทิ้ง 500 ตัว มีทั้งที่แข็งแรงและไม่แข็งแรง แต่คุณพ่อสามารถเลี้ยงรอดได้ถึง 80% ด้วยวิชาธรรมชาติวิทยา หลังจากนั้นจึงได้ซื้อลูกไก่คุณภาพมาเลี้ยงและสร้างธุรกิจจนเติบโต ต่อยอดด้วยการเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อจำหน่าย เป็นโอกาสให้ชาวญี่ปุ่นที่มาซื้อสินค้าสนใจและชักชวนให้ส่งออกไปญี่ปุ่น สหฟาร์มจึงถือเป็นผู้บุกเบิกการส่งออกไก่รายแรกของไทย และยังถือเป็นก้าวแรกที่ผลักดันให้คุณพ่อเดินหน้าขยายตลาดการค้าไปทั่วโลก เนื่องจากพบว่าคนญี่ปุ่นบริโภคเฉพาะเนื้อไก่ส่วนสะโพกและปีก ส่วนเนื้ออกนิยมบริโภคกันในยุโรป เราจึงเป็นเจ้าแรกที่ส่งออกไปยุโรป ในขณะที่ตีนไก่นิยมในจีน ปัจจุบันเราจึงส่งออกไก่ได้ทั้งหมดไม่มีส่วนที่สูญเสียเลย”
เบื้องหลังความสำเร็จของดร.ปัญญาไม่ใช่เพียงรู้จริงในสิ่งที่ทำเท่านั้น หากยังเปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์อันยาวไกลที่มองว่าธุรกิจจะเติบโตได้ต้องควบคุมกระบวนการผลิตให้ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีพ่อแม่พันธุ์ มีโรงฟักไก่เนื้อ และมีอาหารสัตว์ ซึ่งช่วยป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก
“ต้นทุนการผลิต 80% นั้นมาจากอาหารสัตว์ซึ่งเป็น Vegetarian Feed มีวัตถุดิบหลักคือข้าวโพดซึ่งเราสนับสนุนเกษตรกรไทย 100% เมื่อกำลังการผลิตที่โรงงานย่านกิโลเมตร 8 เต็มศักยภาพ คุณพ่อจึงได้ขยายไปจังหวัดลพบุรีและเพชรบูรณ์เพราะมีสภาพแวดล้อมที่ดี และยังเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดอันดับ 1 และ 2 ของไทย ซึ่งฟาร์มของเราใช้ระบบ Compartmentalization หรือการเลี้ยงสัตว์ปีกในฟาร์มและโรงเรือนระบบปิด ภายใต้ระบบมาตรฐานจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการเฝ้าระวังโรค เรามีพื้นที่กว้างขวาง มีภูเขาเป็นกำแพง ในการเลือกพื้นที่สร้างฟาร์มคุณพ่อจะพิจารณาแม้กระทั่งทิศทางลมว่าเป็นเส้นทางที่นกอพยพบินผ่านหรือไม่ ทั้งยังต้องให้อยู่ห่างไกลชุมชน เมื่อเกิดวิกฤติต่างๆ เช่น ไข้หวัดนก ไก่ของเราจึงปลอดภัยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ยืนยันหลักการที่ดีที่สุดของคุณพ่อนั่นคือการป้องกันและปิดตายช่องทางของปัญหา”
คุณน้ำผึ้งกล่าวถึงศักยภาพของสหฟาร์มในตลาดโลกว่าดีมานด์ของตลาดมากกว่ากำลังการผลิตที่ทำได้ และนั่นคือโอกาสทองของธุรกิจ “ประเทศที่ผลิตไก่และส่งออกมากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา ตามด้วยบราซิลและจีน ไทยมีกำลังการผลิตอยู่อันดับ 7 แต่การส่งออกอยู่อันดับ 3 ของโลก แม้เราจะไม่ใช่ผู้ผลิตรายใหญ่ อีกทั้งราคาสินค้าก็สูงกว่ารายอื่น แต่เรามีจุดแข็งนอกจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน เรายังมี Skill Labour ที่สามารถตัดแต่งสินค้า (Special Cut) ได้ตามความต้องการ ในขณะที่รายอื่นใช้เครื่องจักรและส่งออกแบบ Primary Cut”
สหฟาร์มยังมีสินค้าพรีเมียมที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพซึ่งเป็นเมกะเทรนด์โลก “เรามีศักยภาพในการผลิตที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากกว่าผู้ผลิตทั่วไป นั่นรวมไปถึงสินค้าพิเศษอย่าง ‘ไก่อารมณ์ดี’ หรือ Pauldy Product เนื้อไก่ปลอดยาปฏิชีวนะและฮอร์โมนที่ริเริ่มในปี ค.ศ. 2020 เพราะต้องการเปลี่ยนวิกฤติโควิด-19 ให้เป็นโอกาสด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สุขภาพ โดยการเลี้ยงไก่แบบ Slow Growth ในพื้นที่กว้างเพื่อให้ไก่ได้ใช้ชีวิตตามสัญชาตญาณ เสมือนมีเพลย์กราวน์ให้ไก่ได้วิ่งเล่น และเน้นการตลาดออนไลน์เป็นหลัก ปัจจุบันเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจึงเพิ่มช่องทางการตลาด เช่น การเข้าร่วมกับแบรนด์อื่นเพื่อให้ผู้บริโภครู้จักเรามากขึ้น”
การส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่นย่อมหนีไม่พ้นกับดักเจเนอเรชัน ซึ่งคุณน้ำผึ้งก็มีเทคนิคพิชิตใจคุณพ่ออยู่บ้าง “เราพูดคุยสื่อสารกันทุกวัน หากต้องการนำเสนออะไรต้องพูดตามข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ บางอย่างต้องใช้เวลา เพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจ หรือพูดบ่อยๆ จนคุณพ่อยอมไปเอง (หัวเราะ)
“ยังมีข้อคิดในการทำงานที่คุณพ่อย้ำเสมอว่าให้ทำเพื่อผู้อื่นแล้วสิ่งดีๆ จะกลับคืนสู่ตัวเรา ซึ่งน้ำผึ้งยังนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตด้านอื่นๆ ด้วย” คุณน้ำผึ้งกล่าวปิดท้าย
โคลนนิงแบบอย่างที่ดี พร้อมเดินหน้าพัฒนาสิ่งใหม่ๆ คือหัวใจสำคัญของคุณจารุวรรณ โชติเทวัญ
Tag:
Food in Biz, สหฟาร์ม, เนื้อไก่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น