เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์แล้วอย่าปล่อยให้น้ำตาลตก! มาเพิ่มรสชาติหวานให้กับจานอาหารเพื่อต้อนรับเดือนแห่งความรัก ด้วย 8 ความหวานชวนละมุนอุ่นหัวใจจากธรรมชาติ ในแบบที่กินมื้อไหนก็ไม่มีเบื่อ

1. น้ำผึ้ง

สารให้ความหวานที่มีมายาวนานนับพันปี มีเอกลักษณ์อยู่ที่กลิ่น สี และรสชาติ ที่แตกต่างกันไปตามแหล่งผลิต ซึ่งหาไม่ได้จากน้ำตาลทรายขาวทั่วไป สามารถกินสดหรือผสมในเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ นมอุ่น ไม่ก็ผสมในโยเกิร์ต ซีเรียล โอ๊ตมีล หรือปาดบนขนมปังก็ได้

2. เมเปิลไซรัป

สารให้ความหวานจากดินแดนอเมริกาเหนือที่ได้มาจากของเหลวภายในลำต้นของต้นเมเปิล ยิ่งมีสีเข้มมากก็จะให้รสชาติเข้มข้นตามไปด้วย จึงเหมาะสำหรับนำไปประกอบเมนูอบและย่างกับผักหรือเนื้อสัตว์ ส่วนไซรัปที่มีสีอ่อนลงมาก็จะมีรสชาตินุ่มนวลกว่า สามารถราดบนอาหารได้เลย หรือใช้เพิ่มความหวานให้น้ำสลัด

3. หญ้าหวาน

สารที่ได้จากใบของ “สตีเวีย” หรือ “หญ้าหวาน” ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 100-300 เท่า แต่ไม่มีคาร์โบไฮเดรต แคลอรีหรือส่วนผสมเทียมอื่นๆ จึงกลายเป็นตัวเลือกทดแทนน้ำตาลทรายยอดนิยม นำไปปรุงอาหารได้หลากหลาย ยกเว้นเพียงการอบขนม ด้วยคุณสมบัติทางเคมีที่แตกต่างจากน้ำตาลทราย ซึ่งทำให้เค้ก คุกกี้ และขนมปังขาดเนื้อสัมผัสที่คุ้นเคย

4. น้ำตาลอ้อย

จริงอยู่ที่น้ำตาลทรายสีขาวนั้นก็ทำมาจากอ้อย แต่น้ำตาลอ้อยธรรมชาติได้กลายเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้คนที่แสวงหากลิ่นของธรรมชาติ ด้วยเนื้อสัมผัสน้ำตาลสีทอง ให้กลิ่นหอมและความหวานกลมกล่อมกว่า และผ่านกรรมวิธีน้อยกว่าน้ำตาลทรายขาว ทำให้สารอาหารจากอ้อยยังคงเหลืออยู่

5. น้ำตาลมะพร้าว

น้ำตาลสดที่ได้จากช่อดอกมะพร้าว หรือที่มักจะคุ้นกันในชื่อของน้ำตาลปึกหรือน้ำตาลปี๊บตามภาชนะที่ใส่ หากเป็นของแท้ไม่ผสมน้ำตาลทรายจะมีสีน้ำตาลเข้มและละลายง่ายเมื่อโดนความร้อน ให้รสชาติหวานนวล จึงจัดเป็นหนึ่งในน้ำตาลอยู่คู่กับครัวอาหารคาวหวานของไทยมานมนาน โดยเฉพาะในทุกวันนี้ที่นิยมนำน้ำตาลมะพร้าวมาปรุงเป็นน้ำยำสูตรน้ำตาลเคี่ยวสุดเข้มข้นและหอมหวาน

6. น้ำตาลโตนด

น้ำตาลโตนดมีความคล้ายคลึงกับน้ำตาลมะพร้าว ทั้งการใช้งานและที่มาซึ่งได้จากดอกของต้นตาล (งวงตาล) และรวมถึงนิยมนำมาทำเป็นน้ำตาลปึกและน้ำตาลปี๊บ แต่น้ำตาลโตนดจะหาซื้อยากกว่า ด้วยพื้นที่ปลูกต้นตาลโตนดที่มีน้อยกว่าต้นมะพร้าว จังหวัดเพชรบุรีจัดเป็นพื้นที่หลักที่ยังคงมีการผลิตน้ำตาลโตนดแท้อยู่จนถึงทุกวันนี้

7. น้ำตาลหล่อฮังก๊วย

ผลไม้ลูกกลมๆ สีน้ำตาลที่ได้ยินชื่อกันบ่อยๆ ในยาบำรุงตำรับแพทย์แผนจีนคือหนึ่งในแหล่งความหวานจากธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ ให้แคลอรีต่ำ มีความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 150-200 เท่า ทุกวันนี้หล่อฮังก๊วยมักเป็นส่วนผสมอยู่ในเครื่องดื่มแก้ร้อนใน ดับกระหาย เช่น น้ำจับเลี้ยงและในน้ำใบแปะก๊วย ซึ่งเป็นน้ำสมุนไพรที่เพิ่มความหวานของหล่อฮังก๊วยเข้าไปเพื่อให้ดื่มง่าย

8. น้ำตาลอินทผลัม

น้ำตาลจากธรรมชาติชนิดใหม่ที่เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะอินทผลัมจัดว่าเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม เหล็ก วิตามินบี และไฟเบอร์ เมื่อนำผลอินทผลัมไปทำให้แห้ง ปั่นละเอียดจนเป็นผงคล้ายน้ำตาลทรายแดง แต่ให้รสชาติคล้ายบัตเตอร์สกอตช์ สามารถใช้เป็นท็อปปิงบนมัฟฟิน ใส่ชามข้าวโอ๊ตเป็นมื้อเช้า หรือใช้หมักเนื้อสัตว์ก็ได้

เอกลักษณ์ รสชาติ ความหอมหวาน และความนุ่มนวลเฉพาะตัวที่ทำให้น้ำตาลจากธรรมชาติเป็นตัวเลือกแห่งความอร่อยที่ไม่มีความหวานอื่นใดทดแทนได้

แหล่งข้อมูล

• บทความ Honey: Are There Health Benefits? โดย WebMD
• บทความ Maple Syrup: Healthy or Unhealthy? โดย Kris Gunnars, healthline.com
• บทความ Stevia: Health Benefits and Risks โดย WebMD
• บทความ Everything You Need To Know About Monk Fruit Sweeteners โดย foodinsight.org
• บทความ What’s Date Sugar, and How Do You Use It? โดย Meghan Splawn

Tag: Nice To Know, ของหวาน, น้ำตาล