จากต้นกำเนิดในดินแดนเมดิเตอร์เรเนียน “น้ำมันมะกอก” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในวัตถุดิบการทำอาหารที่มีความเป็นมายาวนานนับพันปี จวบจนทุกวันนี้น้ำมันมะกอกก็ยังเป็นหัวใจหลักในตำรับอาหารหลายสัญชาติ และเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับผู้ที่มองหาอาหารเพื่อสุขภาพ

ประเภทของน้ำมันมะกอกโดยทั่วไปที่เราพบเจอได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ

• 1. น้ำมันมะกอกธรรมชาติ (Extra Virgin Olive Oil)

ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม มอบกลิ่นและรสของมะกอกอย่างชัดเจนจากผลมะกอกสกัดเย็น 100% น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์จึงเปี่ยมไปด้วยกรดไขมันดี สารโพลีฟีนอล และสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถนำไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย เช่น ซอสพาสตา หมักเนื้อย่าง หรือกินเป็นน้ำสลัด จนได้ชื่อว่าเป็นน้ำมันมะกอกสารพัดประโยชน์ ดังนั้น Monini Classico Extra Virgin Olive Oil จึงเป็นผลิตภัณฑ์ของโมนีนี่ที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ในขณะเดียวกัน Monini Gran Fruttato Extra Virgin Olive Oil ที่ผลิตจากผลอ่อนของมะกอกก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่ให้ทั้งกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้น แถมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารโพลีฟีนอลที่สูงกว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ทั่วไป ส่วน Monini BIOS Extra Virgin Olive Oil น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ที่มาจากมะกอกออร์แกนิกซึ่งปลูกด้วยวิธีเกษตรอินทรีย์ ช่วยให้มั่นใจถึงความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมในอาหารทุกๆ คำ

• 1.1 น้ำมันมะกอกปรุงรส (Flavored Olive Oil)

เพื่อเป็นการเพิ่มมิติให้กับมื้ออาหาร น้ำมันมะกอกปรุงรสจึงเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของการเพิ่มเติมรสชาติและกลิ่น โดยเฉพาะสมุนไพรกลิ่นหอมลงไปในน้ำมันมะกอกธรรมชาติ เพิ่มสีสันให้กับชามสลัดหรือเปลี่ยนขนมปังธรรมดาให้มีรสชาติที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ปรุงรสพริกไทย มอบรสเผ็ดที่ปลายลิ้นแซมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของพริกไทย เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ผสมโรสแมรี่ที่เพิ่มอรรถรสของมื้ออาหารได้เป็นอย่างดีด้วยกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ผสมเห็ดทรัฟเฟิลขาว กับกลิ่นหอมนุ่มนวลจากเห็ดทรัฟเฟิลผสมผสานกลิ่นของมะกอกอย่างลงตัว

• 2. น้ำมันมะกอกผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil)

น้ำมันมะกอกผ่านกรรมวิธีได้ชื่อว่ามีคุณภาพเป็นรองแค่น้ำมันมะกอกธรรมชาติ 100% เพียงเท่านั้น ในแง่ของกลิ่นและคุณประโยชน์จากธรรมชาติ แต่ Monini Anfora Olive Oil มีสีเหลืองทองและให้รสอัลมอนด์ ประกอบไปด้วยอัตราส่วนของน้ำมันมะกอกที่ 8-10% ก็มีคุณสมบัติพิเศษคือทนความร้อนสูง จึงเหมาะสำหรับเมนูทอด อีกแบบหนึ่งที่มีสีเหลืองอ่อนใสกว่าก็คือ Monini Mild & Light Olive Oil มีอัตราส่วนของมะกอกธรรมชาติอยู่ที่ 3-4% มาพร้อมรสชาติที่นุ่มนวลและละมุน จึงเหมาะสำหรับเมนูผัดและอบ หรือใช้ทดแทนเนยกับน้ำมันพืชก็ได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นน้ำมันมะกอกที่เข้ากับการปรุงอาหารเอเชียและอาหารไทยอีกด้วย แต่หากคิดถึงรสชาติ กลิ่นหอม และคุณประโยชน์จากมะกอกธรรมชาติ ก็สามารถหยิบน้ำมันมะกอกธรรมชาติ 100% มาผสมผสานเพื่อเพิ่มอรรถรสอย่างที่ต้องการได้

ไม่ว่าอาหารจานโปรดของแต่ละคนจะเป็นเมนูไหน สัญชาติอะไร ด้วยความหลากหลายของ Monini ก็สามารถหยิบจับเอาน้ำมันมะกอกประเภทต่างๆ มาผสมผสานได้อย่างลงตัว!

เอื้อเฟื้อผลิตภัณฑ์สำหรับถ่ายภาพประกอบ

• MONINI น้ำมันมะกอกแท้จากอิตาลี
• บริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน)
• โทร. 0-2477-9020
• Facebook : Monini Thailand

เกี่ยวกับ Monini
บนเนินเขาสลับซับซ้อนอันอุดมสมบูรณ์ ณ เมืองสโปเลโต แคว้นอุมเบรีย ทางตอนกลางของอิตาลี เป็นแหล่งเพาะปลูกมะกอกรสชาติดี คุณภาพสูง และที่นี่ยังเป็นต้นกำเนิดของ Monini (โมนีนี่) ผู้ผลิตน้ำมันมะกอกแบรนด์พรีเมียม ก่อตั้งโดยคุณเซฟเฟริโน โมนีนี่ (Zefferino Monini) ในปี ค.ศ. 1920 ซึ่งทุกวันนี้ได้ครองใจผู้บริโภคด้วยยอดขายน้ำมันมะกอก Extra Virgin อันดับ 1 ในอิตาลี ด้วยจุดเด่นด้านรสชาติที่มีความสม่ำเสมอในทุกขวด จากความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน และผ่านการชิมรสชาติโดยคุณเซฟเฟริโน โมนีนี่ (Zefferino Monini) ทายาทรุ่นปัจจุบันทุกครั้งก่อนบรรจุขวด

Tag: Nice To Know, น้ำมันมะกอก