NANA Coffee Roasters ชื่อที่ท็อปฟอร์มในโลกของคนรักการดื่มกาแฟ เพราะยืนหนึ่งในเรื่องการคัดสรรเมล็ดกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมากกว่า 80 ชนิด นำมาโปรเซสให้มีเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน ทั้งยังเป็นร้านที่คว้ารางวัลจากการแข่งขันระดับนานาชาติมาแล้วหลายรายการ

ทว่าความสำเร็จนี้มีจุดเริ่มต้นจากคุณกุ้ง-กานดา โทจำปา และคุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุชพงศ์ สองหุ้นส่วนที่ไม่ดื่มกาแฟด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งทำให้เราแปลกใจไม่น้อย คุณกุ้ง-กานดาเล่าถึงความเป็นมาก่อนเปิดร้านกาแฟว่าเดิมทำธุรกิจร้านถ่ายภาพ และเผชิญกับวิกฤติดิจิทัลซึ่งเข้ามาแทนที่ฟิล์ม ทำให้ต้องมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ ซึ่งร้านกาแฟคือคำตอบ แม้ตนเองและหุ้นส่วนจะไม่ดื่มกาแฟ แต่มองว่าการชงกาแฟคือศิลปะเหมือนการปรุงอาหารและเบเกอรี่ที่ตนเองชื่นชอบและมีความถนัดอยู่แล้ว เมื่อก้าวเข้าสู่ธุรกิจร้านกาแฟอย่างเต็มตัวทำให้ต้องดื่มกาแฟมากขึ้น กระทั่งพบว่าตกหลุมรักในกลิ่นรสของเครื่องดื่มสีดำนี้ไปแล้วแบบไม่รู้ตัว

ความถนัดด้านการออกแบบและดีไซน์ถูกนำมาผสมผสานกับการทำอาหารได้อย่างลงตัว “เราชอบทำอาหารและเบเกอรี่ แต่เรื่องกาแฟไม่มีความรู้เลย พอเปิดร้านก็ต้องหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ยิ่งลงลึกก็ยิ่งพบว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์และซับซ้อนไม่สิ้นสุด เริ่มสนุกกับการแก้โจทย์และดีไซน์เครื่องดื่มแต่ละแก้ว ทั้งครีเอตรสชาติและตกแต่งเมนูให้ดูน่าดื่ม ตัวอย่างเช่นถ้าเรามีวัตถุดิบชนิดนี้ในมือเราจะสร้างสรรค์ออกมาเป็นเมนูอะไรได้บ้าง หรือหากอยากได้เครื่องดื่มสีนี้ รสชาติโทนนี้ต้องใช้วัตถุดิบอะไร”

เหนือสิ่งอื่นใดความพิถีพิถันของ NANA Coffee Roasters นั้นเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ จากแหล่งเพาะปลูกสู่การโปรเซส คั่ว และสกัด ทั้งหมดนี้ถูกเล่าผ่านรสชาติกาแฟแต่ละแก้วที่คุณกุ้งตั้งใจครีเอตให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดื่มแล้วได้เทสต์โน้ตที่มีมิติแตกต่างกัน เธอเปรียบเทียบว่าหากเกษตรกรชาวไร่เป็นต้นน้ำ คนคั่วเป็นกลางน้ำ บาริสตาก็เปรียบเสมือนปลายน้ำที่เป็นความหวังของคนกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำลงมา

เพราะไม่ว่าคนต้นน้ำและกลางน้ำจะทำโปรเซสและคั่วออกมาได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน ถ้าคนปลายน้ำขาดความรู้ความเข้าใจ และความสามารถ การสกัดรสชาติกาแฟออกมาให้ดีและสมบูรณ์มากที่สุดก็เป็นไปได้ยาก เมื่อเราครีเอตเมนูที่ดีที่สุดออกมาแล้ว ก่อนที่บาริสตาทุกคนจะเข้าประจำการตามสาขาต่างๆ ยังต้องฝึกฝนฝีมืออย่างเข้มข้นจากคุณกุ้ง-กานดา และคุณกุ้ง-วรงค์ ไม่ใช่แค่ทำได้ถูกต้อง แต่ต้องได้คุณภาพตามมาตรฐาน หลังจากนั้นยังมีการทดสอบความสามารถและคาลิเบรต (Calibrate) รสชาติกาแฟของบาริสตาอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ได้รสชาติเดียวกันทุกสาขา

สนามแข่งขันต่างๆ ยังเป็นเส้นทางสร้างชื่อเสียงให้กับร้าน “ทุกครั้งที่ไปแข่งเราจะนำกาแฟคั่วของตัวเองไปโชว์ศักยภาพบนเวทีซึ่งทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น แม้การแข่งขันในปีแรกๆ จะไม่สามารถสร้างผลงานได้ดีนัก แต่ก็มีรางวัลติดปลายนวมกลับมาบ้างไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน Thailand National Barista Championship 2013, Thailand National Cup Taster Championship 2017” หลังจากรอคอยมาถึง 6 ปี คุณกุ้งและทีมก็สามารถคว้าแชมป์ในรายการ Thailand National Barista Championship 2019 มาครองได้อย่างงดงาม และอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้คือการนำทีมเข้าแข่งขัน World Siphonist Championship ซึ่งคุณแน๊ต-กษมา กันบุญ บาริสตาของร้านสามารถคว้าแชมป์โลก World Siphonist Championship 2018 ไปได้

นี่คือเรื่องราวความมหัศจรรย์ของเมล็ดกาแฟที่ทำให้คนไม่ดื่มกาแฟเปลี่ยนใจมาหลงรัก รวมทั้งยังสร้างสีสันให้กับเหล่าคอฟฟี่เลิฟเวอร์ได้รื่นรมย์กับประสบการณ์แห่งรสชาติจากทั่วโลก วันนี้ NANA Coffee Roasters เปิดให้บริการแล้ว 3 สาขา ได้แก่  Niche3 (เลียบด่วน), อารีย์ และบางนา สาขาล่าสุดที่เป็นความฝันของหุ้นส่วนทั้งสองที่อยากมีร้านกาแฟท่ามกลางธรรมชาติ จึงเนรมิตกรีนโซนชานเมืองให้ร่มรื่นด้วยต้นไม้ โอบล้อมอาคารสีขาวที่ออกแบบให้นั่งสบายๆ สาขานี้เสิร์ฟทั้ง Speed Bar, Slow Bar และ Tea Bar

ในมุมมองของคอกาแฟ ที่นี่อาจไม่ใช่ร้านกาแฟทั่วไป แต่ก้าวสู่ความเป็นคอมมูนิตีหรือชุมชนของคนรักการดื่มกาแฟไปแล้ว

Tag: Special Guest, กาแฟ