หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกเพื่อส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงในเมนูอาหาร “เมล็ดเจีย” คงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เพราะกำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทั้งของคาว ขนมหวาน หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่ม
เมล็ดเจีย (Chia Seeds) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Salvia Hispanica เป็นเมล็ดสีดำหรือสีขาวเล็กๆ โดยคนส่วนใหญ่จะรู้จักเมล็ดเจียว่าเป็น “ซูเปอร์ฟู้ด” สมัยใหม่ แต่จริงๆ แล้วเมล็ดเจียมีรากเหง้ามาตั้งแต่ยุคโบราณ เป็นพืชในตระกูลเดียวกับกะเพรา โหระพา และแมงลัก โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกากลาง ตามการรายงานของ Academy of Nutrition and Dietetics (AND) ที่เชื่อว่าเมล็ดเจียนั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นอาหารหลักของชาวแอซเท็กด้วย
นักโภชนาการจากนิวยอร์ก April Panitz, MS, RDN, CDN ได้กล่าวไว้ว่าเมล็ดเจียเป็นแหล่งพลังงานทางโภชนาการที่ดีเยี่ยม เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนจากพืช แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และกรดไขมันโอเมกา 3 ซึ่งช่วยให้ร่างกายเราได้รับประโยชน์มากมายดังนี้
1. เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
เมล็ดเจียอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และมีแคลเซียมสูง ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง เหมาะมากสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ เพราะอาจจะขาดแมกนีเซียม จนทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้ เมล็ดเจียจึงจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุชั้นดีนั่นเอง
2. ดีต่อระบบย่อยอาหาร
เมล็ดเจียเหมาะที่จะเป็นตัวช่วยสำหรับระบบทางเดินอาหารให้ทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งในเมล็ดเจียมีปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอสำหรับร่างกายในแต่ละวัน และมีใยอาหารที่ดี ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ทำให้ขับถ่ายสะดวก
3. ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น
ภาวะการนอนหลับยาก เป็นอีกหนึ่งโรคที่ฮิตในปัจจุบัน ซึ่งในเมล็ดเจียมีฮอร์โมนสองตัวที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ เซโรโทนินกับเมลาโทนิน ที่ผลิตโดยทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนในร่างกาย และเมล็ดเจียยังมีทริปโตเฟนสูง ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย นอนหลับสบายขึ้น
4. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
เนื่องจากเมล็ดเจียมีไฟเบอร์และโอเมกา 3 สูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับการเกิดโรคหัวใจ และลดความดันโลหิต ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย
5. ช่วยควบคุมน้ำหนัก
มีการศึกษาพบว่า หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานวิจัยจาก 24 คน รับประทานเมล็ดเจีย 0.33 ออนซ์ (7 กรัม) หรือ 0.5 ออนซ์ (14 กรัม) ผสมกับโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้า ช่วยให้อิ่มท้องเร็วและอิ่มนานขึ้น เนื่องจากในเมล็ดเจียมีไฟเบอร์และโปรตีนสูง มีส่วนช่วยลดความอยากอาหาร สามารถช่วยป้องกันภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่พยายามลดน้ำหนักอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเมล็ดเจียจะมีขนาดเล็ก แต่ประโยชน์นั้นใหญ่เกินตัว ถือว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่จิ๋วแต่แจ๋วจริงๆ
สามารถศึกษาข้อมูลการเก็บรักษาเมล็ดเจียที่ถูกต้องได้ที่ https://www.gourmetandcuisine.com/stories/detail/616
แหล่งข้อมูล
Tag:
ซูเปอร์ฟู้ด, อาหารเพื่อสุขภาพ, เมล็ดเจีย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น