ชื่อของจิม ทอมป์สัน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของแบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ของไทยที่มีชื่อเสียงในระดับโลก และในวันนี้ ณ มุมหนึ่งตรงใจกลางกรุงเทพมหานคร บ้านเรือนไทยหลังเก่าอันทรงคุณค่าซึ่งเป็นที่ตั้งที่คุ้นเคยด้วยชื่อเรียกสั้น ๆ ว่า “บ้านจิม” หรือ “บ้านจิม ทอมป์สัน” ได้แปลงโฉมครั้งใหญ่ไปสู่บทบาทใหม่แห่งการเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชัน ภายใต้นามว่า Jim Thompson Heritage Quarter บนพื้นที่กว่า 1,400 ตร.ม.

Jim Thompson Heritage Quarter ซึ่งประกอบไปด้วย 5 จุดที่น่าสนใจด้วยกัน ได้แก่

1. Jim Thompson House Museum
พิพิธภัณฑ์บ้านจิม ทอมป์สันเป็นกลุ่มเรือนไม้สักไทย 6 หลัง ซึ่งจิม ทอมป์สัน เป็นผู้เสาะแสวงหามาจากภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยในช่วงทศวรรษ 1950-1960 บ้านของจิม ทอมป์สันหลังนี้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลป์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขนาดใหญ่ และหลังจากที่เขาหายตัวไปในมาเลเซียเมื่อปี ค.ศ. 1967 บ้านหลังนี้จึงถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์มาจนทุกวันนี้

2. Museum About the Man
นิทรรศการจัดแสดงเส้นทางและตัวตนของจิม ทอมป์สัน รวบรวมจากเอกสารบันทึกของมูลนิธิเจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน (James H.W. Thompson Foundation) นับตั้งแต่การทำงานช่วงแรกในฐานะสถาปนิกที่สหรัฐฯ มาจนถึงการสร้างชื่อเสียงในฐานะราชาไหมไทย จนกระทั่งหายสาบสูญไปในขณะเดินทางพักผ่อนที่มาเลเซียในปี ค.ศ. 1967 และนิทรรศการนี้ยังแสดงถึงการเดินทางของผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของจิม ทอมป์สัน ที่เดินทางไปสร้างชื่อเสียงตั้งแต่ Vogue ไปจนถึง Hollywood และ Broadway จนก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับโลกของไทยเพียงรายเดียว นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายของจิม ทอมป์สัน ตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ให้ชมอีกด้วย

3. Home Furnishing Exhibition
พื้นที่จัดแสดงวิวัฒนาการสิ่งทอของจิม ทอมป์สัน หรือ The Evolving World of Jim Thompson Textiles จะเผยให้เห็นถึงเรื่องราวความเป็นมาของบริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด (Thai Silk Company Limited) และผู้สร้างสรรค์คนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินธุรกิจของบริษัท หลังการหายตัวไปของจิม ทอมป์สัน ในปี ค.ศ. 1967 โดยตลอดระยะเวลากว่า 6 ทศวรรษที่ผ่านมา จิม ปอมป์สันได้นำเสนอเอกลักษณ์สู่อุตสาหกรรมเครื่องตกแต่งบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความอุตสาหะทุ่มเทและการสนับสนุนของกลุ่มบุคคลผู้มีชื่อเสียงของวงการอย่าง แจ็ค เลนอร์ ลาร์สัน, เจอราร์ด เพียซ, ทินนาถ นิสาลักษณ์, อู้ พหลโยธิน และอีกมากมาย ซึ่งนิทรรศการจะนำพาผู้ชมให้ได้สัมผัสถึงการทำงานและผลงานของนักออกแบบผู้สร้างสรรค์เหล่านี้ รวมถึงศักยภาพในการผลิตของบริษัทที่ยังคงขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด 60 ปีที่ผ่านมา

4. The Iconic Store
ไอคอนิกสโตร์โฉมใหม่ของจิม ทอมป์สัน ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโทนสีแดงของเรือนไทยจิม ทอมป์สัน และถูกออกแบบใหม่ให้เป็นโทนสีส้มอมแดง และตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนไปจนถึงแนวผนังลูกคลื่นที่พลิ้วไหว ส่งเสริมสีสันอันงดงามของผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ทั้งยังสื่อถึงความหลงใหล ความเคารพต่องานหัตถศิลป์และขนบธรรมเนียมไทยของผู้ก่อตั้งอาณาจักรแห่งนี้ อาคาร 2 ชั้น เชื่อมต่อกันด้วยบันไดวนนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย ทั้งชายและหญิง กระเป๋า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน มากกว่า 6,000 รายการ รวมทั้งคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟซึ่งมีจำหน่ายที่นี่เพียงแห่งเดียว

5. The Jim Thompson Art Center
ดำเนินงานโดยมูลนิธิเจมส์ เอช ดับเบิลยู ทอมป์สัน (James H.W. Thompson Foundation) ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรวมพลของเหล่าศิลปินและชุมชนทางวัฒนธรรม เพื่อการนำเสนอแนวคิด การพบปะสมาคม และการเสวนาแลกเปลี่ยนประเด็นต่าง ๆ ทั้งยังสามารถใช้เป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์ การบรรยาย และสัมมนา รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการได้อย่างลงตัว

นอกจากความโดดเด่นในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและสืบสานมรดกงานศิลปหัตถกรรมของไทย ภายในเดือนเมษายน 2566 Jim Thompson Heritage Quarter  จะเพิ่มโซนใหม่อีกหลากหลายโซนเพื่อตอบสนองกับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร บาร์ หรือห้องจัดเลี้ยงเอนกประสงค์ ในรูปแบบของจิม ทอมป์สัน อีกไม่นานเกินรอได้พบกันแน่นอน

Tag: จิม ทอมป์สัน, นิทรรศการ, ไลฟ์สไตล์